ผู้เขียน หัวข้อ: โควิด-19:รับวัคซีนครบ แต่ตายหรือนอนโรงพยาบาล สำรวจสถิติในสหรัฐฯอังกฤษ อิสราเอล  (อ่าน 291 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
ทางการสหรัฐฯ อังกฤษ และอิสราเอล รายงานการพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่ป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล หรือเสียชีวิต แม้จะได้รับวัคซีนครบถ้วนจำนวนหลายพันราย แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ แต่น้อยมาก พอ ๆ กับการเสียชีวิตจากการถูกอุกกาบาตพุ่งชน

ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (ซีดีซี) ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่า มีรายงานพบผู้เข้าโรงพยาบาล หรือเสียชีวิตจากโควิด-19 แม้จะได้รับวัคซีนครบแล้วกว่า 4,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 750 คน และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 3,907 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

ซีดีซี ไม่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลผู้ติดเชื้อภายหลังได้รับวัคซีนครบทุกราย โดยเลิกทำไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค. แต่จะเก็บข้อมูลเฉพาะผู้เข้าโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิต จึงทำให้ถูกวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายคนที่มองว่า การเก็บข้อมูลเพื่อบ่งชี้ว่า ปัญหาภูมิคุ้มกันบกพร่อง และชนิดของวัคซีนที่ได้รับ เป็นสาเหตุทำให้ล้มป่วยจากโควิดจนต้องเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตมากขึ้นหรือไม่นั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับใช้เป็นแนวปฏิบัติในอนาคต

เกิดได้ง่ายแค่ไหน
ดร.พอล ออฟฟิต ที่ปรึกษาระดับสูงของคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ ที่ดูแลด้านวัคซีนสำหรับเด็ก ให้สัมภาษณ์กับช่องซีเอ็นบีซีว่า "วัคซีนไม่ได้มีประสิทธิภาพป้องกันโรคได้ 100% แม้ต่อโรคร้ายแรง" เขาชี้ว่าผู้เสียชีวิตที่พบถือว่าเป็นเปอร์เซ็นต์น้อยมากเมื่อเทียบกับยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดทั้งหมดในสหรัฐฯ ที่มีกว่า 600,000 คน"

การติดเชื้อภายหลังได้รับวัคซีน (breakthrough infections) เป็นกรณีที่พบได้ยาก และหลายคนมักไม่แสดงอาการป่วย และแม้วัคซีนมีประสิทธิภาพสูงแต่ก็ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ทุกครั้งไป

ผลการทดลองทางคลินิกขั้นที่ 3 ของวัคซีนต้านโควิดของบริษัทไฟเซอร์/ไบออนเทค และโมเดอร์นา ต่างพบว่า วัคซีน 2 โดสของบริษัทสามารถป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้ 95% และ 94% ตามลำดับ ในขณะที่ผลการศึกษาของวัคซีนชนิดฉีด 1 เข็ม ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน พบว่ามีประสิทธิภาพอยู่ที่ 66%

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลว่าวัคซีนทั้งสามชนิดนี้ต่างมีประสิทธิภาพสูงมากในการป้องกันไม่ให้คนล้มป่วยหนักจากโควิด

ปัจจุบันชาวอเมริกันส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส ของวัคซีนชนิด "เอ็มอาร์เอ็นเอ" (mRNA) ที่ทางการอนุมัติให้ใช้งานได้ คือ วัคซีนไฟเซอร์ และโมเดอร์นา

ทางการสหรัฐฯ ได้จัดการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนแล้ว 178.3 ล้านเข็ม ทำให้มีผู้ได้รับวัคซีนครบแล้ว 46% ของประชากรทั้งประเทศ

ดร. ปีเตอร์ ชิน-ฮอง ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตซานฟรานซิสโก ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีว่า "คุณมีแนวโน้มจะเสียชีวิตจากการถูกอุกกาบาตพุ่งชนพอ ๆ กับการเสียชีวิตจากโควิดหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว"

"เมื่อมองในภาพรวม วัคซีนเป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง" เขากล่าว

ประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโควิดจะลดลงเล็กน้อยในการต่อสู้กับเชื้อโควิดกลายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์อัลฟา และสายพันธุ์เดลตา

ความกังวลจากเชื้อกลายพันธุ์เดลตา
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของวัคซีนจะลดลงเล็กน้อยในการต่อสู้กับเชื้อโควิดกลายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์อัลฟา ที่ตรวจพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร และสายพันธุ์เดลตา ที่ตรวจพบครั้งแรกในอินเดีย

ผลการศึกษาบ่งชี้ว่า เชื้อสายพันธุ์เดลตาจะทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีน 2 โดสของไฟเซอร์ลดลงมาอยู่ที่ 88% จากเดิม 95% แต่ยังไม่ชัดเจนว่า ผู้ติดโควิดหลังจากได้รับวัคซีนครบแล้วนั้นเป็นผลมาจากเชื้อกลายพันธุ์เหล่านี้หรือไม่

ในอิสราเอลและสหราชอาณาจักรต่างมีความกังวลเกี่ยวกับสายพันธุ์เดลตามากขึ้น หลังจากมีรายงานพบผู้ติดเชื้อภายหลังรับวัคซีนครบแล้วเพิ่มขึ้น

นายเชซี เลวี อธิบดีกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล ระบุว่า แม้ประชาชนในอิสราเอลได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 80% แต่กลับพบว่าสายพันธุ์เดลตา มีสัดส่วน 70% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ โดยเขาชี้ว่า 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่นี้เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว

ในสหราชอาณาจักร สำนักงานสาธารณสุขอังกฤษ (Public Health England) รายงานว่า ระหว่างวันที่ 8 - 14 มิ.ย. มีผู้ได้รับวัคซีนครบที่เสียชีวิตจากโควิด 73 คน ในจำนวนนี้ 26 คน เป็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา อย่างไรก็ตาม ผู้เสียชีวิตจากโควิดส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

กรณีนี้กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในอังกฤษ หลังจาก นายแอนดรูว์ มารร์ ผู้ประกาศข่าวชื่อดังของบีบีซี ล้มป่วยจากโควิดภายหลังจากได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 โดส

เขาได้สอบถามเรื่องนี้กับ เซอร์ ปีเตอร์ ฮอร์บี ที่ปรึกษาด้านโควิดของรัฐบาลอังกฤษ ที่ดูแลด้านภัยจากการอุบัติของไวรัส ซึ่งระบุว่า วัคซีนต้านโควิดมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันไม่ให้คนล้มป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต แต่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าในการป้องกันการติดเชื้อ

"เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้คนต้องตระหนักว่า...เราจะพบคนติดเชื้อภายหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้ว และในท้ายที่สุดการติดเชื้อส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่ได้รับวัคซีนแล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าวัคซีนใช้ไม่ได้ผล เพราะมีการคาดการณ์ว่าจะเกิดกรณีเช่นนี้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่เราต้องการทำคือการป้องกันไม่ให้มีคนที่ต้องเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิต ซึ่งวัคซีนก็มีประสิทธิภาพสูงมากในแง่นี้"

ขณะเดียวกัน เซอร์ ปีเตอร์ เห็นด้วยว่า ควรมีการเปลี่ยนคำเตือนให้ประชาชนได้รับทราบอย่างชัดเจนว่า แม้จะได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 โดสแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะติดโควิดและป่วยหนักได้ แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต

28 มิถุนายน 2021
https://www.bbc.com/thai/international-57638372