ผู้เขียน หัวข้อ: ลูกพาแม่วัย 67 ปีไปฉีดแอสตร้าฯ ตกกลางคืนเส้นเลือดในสมองแตก อาการโคม่า  (อ่าน 289 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
ลูกสาวพาแม่วัย 67 ไปฉีดวัคซีน ตกกลางคืนอาเจียน ปวดหัวรุนแรง หามส่งรพ.พบเส้นเลือดในสมองแตก ลูกสาวร่ำไห้เผยแม่ขอฉีดเองแม้ลูกๆคัดค้าน

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากทาง น.ส.ปัทมา การพยุธ อายุ 32 ปี ชาว อ.คุระบุรี จ.พังงา ว่า แม่อายุ 67 ปี ซึ่งเข้ารับวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุ เกิดล้มป่วยต้องเข้าไอซียู ร.พ.ตะกั่วป่า หลังจากเข้ารับบริการฉีดวัคซีนจากร.พ.คุระบุรีชัยพัฒน์

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ พบน.ส.ปัทมา การพยุธ นายวีระชัย การพยุธ อายุ 35 ปี น.ส.วาสนา การพยุธ อายุ 31 ปี สามพี่น้อง นั่งรอฟังอาการของนางยา การพยุธ มารดา ที่พักรักษาตัวอยู่ภายในห้องไอซียู

สอบถามน.ส.ปัทมา ทราบว่า บ่ายวันที่ 30 มิ.ย. แม่ไปฉีดวัคซีนแอสตร้า เซเนก้า ที่ร.พ.คุระบุรีชัยพัฒน์ พอฉีดเสร็จก็พักดูอาการ 30 นาที จึงพากลับบ้านพัก พอตี 2 ของวันที่ 1 ก.ค. แม่เกิดอาเจียนปนเลือด ปวดหัวมาก จึงให้กินยาพาราเซตามอล

จนช่วง 6 โมงเช้ายังอาเจียนปนเลือด และปวดหัวหนัก จึงพาเข้าร.พ.คุระบุรีชัยพัฒน์ ทางโรงพยาบาลได้ส่งตัวต่อ โรงพยาบาลตะกั่วป่า พร้อมสแกนสมองพบว่า ความดันตก เส้นเลือดในสมองแตก จึงได้ประสานทางร.พ อีกแห่ง เพื่อเข้าผ่าตัดสมอง แต่อาการไม่ดีทางโรงพยาบาลได้ปฏิเสธ เนื่องจากหวั่นว่าผู้ป่วยจะเสียชีวิตระหว่างการนำส่ง

ตอนนี้แม่ยังนอนรักษาตัวที่ห้องไอซียู รพ.ตะกั่วป่า พร้อมใส่ท่อช่วยหายใจ โดยญาติๆ เชื่อว่าสาเหตุเส้นเลือดในสมองแตกจากผลกระทบของการฉีดวัคซีนต้านโควิด

น.ส.ปัทมา กล่าวทั้งน้ำตาว่า แม่มีประวัติโรคหอบหืด และวัณโรค ซึ่งรักษาจนหายมานานประมาณ 1 ปี ปัจจุบันดูแข็งแรง ค้าขายของชำและเลี้ยงหลานๆ กระทั่งภาครัฐเปิดให้ฉีดวัคซีน แม่ขอให้พาไปฉีด ท่ามกลางการคัดค้านของลูกๆ

น.ส.ปัทมา กล่าวว่า แต่แม่ให้เหตุผลอีกว่าวัคซีนอาจจะป้องกันโรคหอบหืดได้อีกด้วย จึงตัดสินใจพาแม่เข้าฉีดวัคซีน ตนรู้สึกผิด เหมือนพาแม่ไปตาย

นพ.วุฒิ วิโนทัย รอง ผอ.โรงพยาบาลตะกั่วป่า กล่าวว่า ผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการปวดหัวรุนแรง ความดันลดลงต่ำมาก มีอาการอาเจียนปนเลือด ทางแพทย์ผู้รักษาจึงทำการสแกนสมองด้วยคอมพิวเตอร์ พบว่า เส้นเลือดในสมองแตก

จากประวัติก่อนหน้านี้ ทราบว่า ผู้ป่วยเคยเข้ารับการตรวจ มีความดันสูงเกินเกณฑ์มาตลอด และอาจจะไม่ได้วัดความดันโลหิตเป็นระยะๆ ซึ่งในช่วงฉีดวัคซีนความดันโลหิตอาจจะไม่เกินเกณฑ์มากนัก ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ทราบประวัติเรื่องความดันโลหิต จึงผ่านการคัดกรองเบื้องต้นในจุดฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลตะกั่วป่า พร้อมเสนอคณะกรรมการวัคซีนเพื่อพิจารณาการรับเงินเยียวยาตามสิทธิ์จาก สปสช. ต่อไป

ที่มา มติชนออนไลน์

3 ก.ค. 2564
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6488025