ผู้เขียน หัวข้อ: วัคซีนไฟเซอร์อย่างเดียวเอาไม่อยู่ โควิด-19 คืนชีพในอิสราเอล ต้องกลับมาบังคับสวม  (อ่าน 286 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9755
    • ดูรายละเอียด
กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลเมื่อวันศุกร์ (25 มิ.ย.) ต้องกลับมาบังคับสวมหน้ากากป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสถานที่สาธารณะต่างๆ ที่เป็นพื้นที่ปิด หลังพบเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอีกรอบ นับตั้งแต่ยกเลิกกฎดังกล่าวไปเมื่อ 10 วันก่อน

การกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งของจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ ก่อความผิดหวังแก่ประเทศแห่งนี้ซึ่งภาคกูมิใจในตนเองในฐานะหนึ่งในชาติที่ดำเนินการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 รวดเร็วที่สุด และครอบคลุมที่สุดในโลก

นัคมาน แอช หัวหน้าคณะทำงานตอบสนองโรคระบาดใหญ่ของอิสราเอล ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุแห่งรัฐ ระบุว่า การกลับมาบังคับใช้กฎระเบียบดังกล่าว มีขึ้นหลังจากพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเกิน 100 คน เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยในวันพฤหัสบดี (24 มิ.ย.) ยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 227 คน

"เรากำลังเห็นผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเท่าตัวในช่วงเวลาไม่กี่วัน" แอชกล่าว "อีกสิ่งที่น่ากังวลคือการติดเชื้อกำลังแพร่กระจายไปทั่ว หากเรามี 2 เมืองที่มีการแพร่ระจายมากที่สุด เราก็จะพบเคสผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นตามเมืองและชุมชนอื่นๆ เพิ่มเติม"

แอชเชื่อว่า เคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นนั้นน่าจะสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดีย และแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมาก

ความเคลื่อนไหวกลับมาบังคับสวมหน้ากากนับเป็นการก้าวถอยหลังของอิสราเอล ไม่กี่วันหลังจากพวกเขาเพิ่งยกเลิกข้อบังคับดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน

จนถึงตอนนี้มีประชาชนราว 5.2 ล้านคนจากประชากรทั้งหมดประมาณ 9 ล้านคนของอิสราเอล ที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคครบ 2 โดส

กระนั้นก็ตาม แอช ระบุว่า แม้จำนวนเคสผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น แต่เขาไม่เห็นจำนวนผู้ป่วยอาการหนักถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

การเดินขบวนสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ (Pride Month) ของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ ในเทลอาวีฟ ในช่วงบ่ายวันศุกร์ (25 มิ.ย.)  มีผู้เข้าร่วมร้องเพลงเต้นรำบนท้องถนนหลายพันคน และจำนวนมากไม่สวมหน้ากากป้องกันโควิด-19
การเดินขบวนสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ (Pride Month) ของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ ในเทลอาวีฟ ในช่วงบ่ายวันศุกร์ (25 มิ.ย.) มีผู้เข้าร่วมร้องเพลงเต้นรำบนท้องถนนหลายพันคน และจำนวนมากไม่สวมหน้ากากป้องกันโควิด-19

"ชัดเจนว่ามันเป็นปัจจัยเกี่ยวกับเวลา เวลาผ่านไปไม่มากพอ" แอชกล่าว "แต่เราหวังว่าวัคซีนจะปกป้องเรา ป้องกันไม่ให้มีเคสผู้ป่วยอาการหนักและเคสยากๆ เพิ่มขึ้น"

กระทรวงสาธารณสุขยังเรียกร้องชาวอิสราเอลให้สวมหน้ากากในพื้นที่แจ้งที่ผู้คนแออัดด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันศุกร์ (25 มิ.ย.) มีการเดินขบวนสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ (Pride Month) ของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ ในเทลอาวีฟ มีผู้เข้าร่วมร้องเพลงเต้นรำบนท้องถนนหลายพันคน และจำนวนมากไม่สวมหน้ากากป้องกันโควิด-19

การกลับมาบังคับสวมหน้ากากป้องกันโควิด-19 ได้รับเสียงตอบรับที่ผสมผสานจากประชาชน โดย ฮาเดอร์ เลวี ในเยรูซาเลม บอกว่า เธอรู้สีกไม่ยินดีเท่าไหร่ "รอยยิ้มของคนเรามีความสำคัญมากกว่าหน้ากาก" อย่างไรก็ตาม เอสเะอร์ ฮัมชาลอม ชาวบ้านอีกคนมองต่าง ระบุว่าปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าต้องมานั่งเสียใจภายหลัง "สวมหน้ากากตลอดเวลา ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ฉันรู้สึกปลอดภัยยามสวมหน้ากาก ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องดีกว่าสำหรับเราทุกคน"

อิสราเอลกลายเป็นผู้บุกเบิกโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 หลังจากเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้น บรรลุข้อตกลงรับวัคซีนหลายล้านโดสจากไฟเซอร์ แลกเปลี่ยนกับการแบ่งบันข้อมูลด้านสาธารณสุขเกี่ยวกับผลของวัคซีน

ผลก็คือ เคสผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง เปิดทางกลับสู่วิถีชีวิตปกติอย่างกว้างๆ แต่มันไม่อาจปกป้องตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเนทันยาฮู โดยเขาถูกเขี่ยพ้นเก้าอี้เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา หลังรัฐสภายกมือสนับสนุน "รัฐบาลใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลง" ที่นำโดย นาฟตาลี เบนเนตต์ นักการเมืองชาตินิยม ในเหตุการณ์ไม่น่าเชื่อที่ชาวอิสราเอลบางส่วนไม่เคยคาดคิดมาก่อน

เบนเนตต์ เตือนเมื่อวันอังคาร (22 มิ.ย.) เกี่ยวกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พร้อมขอให้ชาวอิสราเอลยกเลิกแผนเดินทางและเลื่อนแผนกลับมาเปิดชายแดนของประเทศสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวรายบุคคล

นอกจากนี้แล้ว เบนเนตต์ ยังเรียกร้องให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานอายุ 12 ปีขึ้นไป มาเข้ารับการฉีดวัคซีน "เร็วที่สุดที่เป็นไปได้" พร้อมเน้นว่าสต๊อกวัคซีนของอิสราเอลจะหมดอายุเร็วๆ นี้

(ที่มา : เอเอฟพี)


27 มิ.ย. 2564 ผู้จัดการออนไลน์