พบซากศพเด็ก 215 คนที่โรงเรียนชนพื้นเมืองของแคนาดาระหว่างการสำรวจพื้นที่

[story]

พบหลุมฝังศพที่มีซากศพเด็ก 215 คนบริเวณโรงเรียนที่เคยเป็นโรงเรียนประจำสำหรับให้ชนพื้นเมืองเข้ามาเรียนเพื่อปรับตัวในแคนาดา

เด็กเหล่านี้คือนักเรียนที่โรงเรียนประจำคัมลูปส์อินเดียน (Kamloops Indian Residential School) ในรัฐบริติชโคลัมเบียที่ปิดตัวไปในปี 1978

หัวหน้ากลุ่มชนพื้นเมือง Tk’emlups te Secwepemc First Nation ประกาศการค้นพบนี้เมื่อวันพฤหัสบดี (27 พ.ค.)

นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด กล่าวว่า เรื่องนี้ “เป็นเครื่องย้ำเตือนที่เจ็บปวด” ของ “ประวัติศาสตร์บทหนึ่งอันน่าละอายของประเทศเรา”

กลุ่มดังกล่าวกำลังร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางของพิพิธภัณฑ์และสำนักงานชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุและช่วงเวลาการเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบ

โรซาน แคสิเมียร์ หัวหน้าชุมชนในเมืองคัมลูปส์ของบริติชโคลัมเบีย กล่าวว่า ข้อค้นพบเบื้องต้นสะท้อนให้เห็นถึงการสูญเสียที่คาดไม่ถึงที่เจ้าหน้าที่บริหารของโรงเรียนไม่เคยบันทึกไว้เป็นหลักฐานมาก่อน

โรงเรียนประจำในแคนาดาเป็นโรงเรียนภาคบังคับที่บริหารงานโดยรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทางการด้านศาสนาในช่วงศตวรรษที่ 19 และ 20 โดยมีเป้าหมายเพื่อบังคับให้เยาวชนชนพื้นเมืองเข้ามาเรียนและอาศัยอยู่เพื่อปรับตัว

อาคารเรียนของโรงเรียนประจำคัมลูปส์อินเดียน (Kamloops Indian Residential School) ในบริติชโคลัมเบีย

โรงเรียนประจำคัมลูปส์อินเดียน (Kamloops Indian Residential School) ในบริติชโคลัมเบีย ในช่วงเวลาที่มีเด็กลงทะเบียนเรียนมากที่สุด เคยมีเด็กอาศัยอยู่ 500 คน

โรงเรียนประจำคัมลูปส์อินเดียนเป็นโรงเรียนประจำที่ใหญ่ที่สุดในระบบดังกล่าว ตั้งขึ้นและบริหารงานโดยกลุ่มศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในปี 1890 โรงเรียนมีนักเรียนมากถึง 500 คน ในช่วงที่มีคนลงทะเบียนเรียนมากที่สุดในช่วงกลางทศวรรษ 1950

รัฐบาลกลางเข้ามาบริหารงานโรงเรียนในปี 1969 โดยให้นักเรียนในพื้นที่เข้ามาพักอาศัยจนกระทั่งถูกปิดตัวลงในปี 1978

เรารู้อะไรเกี่ยวกับซากทารก
กลุ่ม Tk’emlups te Secwepemc First Nation ระบุว่า ซากนี้ถูกค้นพบจากการใช้สัญญาณเรดาร์ที่ทะลุลงไปใต้พื้นดินระหว่างการสำรวจโรงเรียนดังกล่าว

“เท่าที่เราทราบ เด็กที่สูญหายเหล่านี้คือผู้เสียชีวิตที่ไม่มีหลักฐานบันทึกไว้” นางสาวแคสิเมียร์ กล่าว “บางคนอายุน้อยเพียงแค่ 3 ขวบ”

อาคารบริหารหลักของโรงเรียนประจำคัมลูปส์อินเดียน (Kamloops Indian Residential School) ในบริติชโคลัมเบีย

ขณะนี้กำลังมีการวิเคราะห์ซากทารกที่พบ
กลุ่มชนพื้นเมือง ระบุว่า ได้ติดต่อชุมชนที่มีเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนดังกล่าวแล้ว พวกเขาคาดว่า จะได้ข้อมูลเบื้องต้นภายในช่วงกลางเดือน มิ.ย. นี้

ลิซา เลอพอยต์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของบริติชโคลัมเบีย กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ CBC ของแคนาดาว่า “เราอยู่ในช่วงแรกของการเก็บรวบรวมข้อมูล”

ปฏิกิริรยาต่อเรื่องนี้เป็นอย่างไร

ปฏิกิริยาต่อเรื่องนี้มีทั้งความโศกเศร้า ความตกตะลึง และความสำนึกผิด

“ข่าวการพบซากทารกที่อดีตโรงเรียนประจำคัมลูปส์ทำให้ผมใจสลาย” นายทรูโด ทวีตข้อความ

คาโรลีย์น เบนเน็ตต์ รัฐมนตรีกระทรวงความสัมพันธ์ชนพื้นเมืองของแคนาดา กล่าวว่า โรงเรียนประจำเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “อันน่าอับอาย” ในสมัยอาณานิคม รัฐบาลได้ “รำลึกถึงการสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์เหล่านั้น” เธอระบุ

เทอร์รี ทีจี หัวหน้าสมาคมชนพื้นเมืองเฟิร์สต์เนชันส์ (First Nations คือ ชนพื้นเมืองกลุ่มต่าง ๆ ในแคนาดาที่ไม่ใช่ชาวอินุอิตและชาวมาทิส) ระดับภูมิภาคของบริติชโคลัมเบีย เรียกการค้นพบหลุมศพดังกล่าวว่า “งานเร่งด่วน” ที่ “ทำให้เกิดความรู้สึกโศกเศร้าและสูญเสีย” ขึ้นในชุมชนต่าง ๆ ในภูมิภาค

กลุ่มชนพื้นเมืองอื่น ๆ ก็มีความเห็นไม่ต่างกัน รวมถึงกลุ่ม First Nations Health Authority (FNHA)

“การปรากฏสถานการณ์เช่นนี้น่าเศร้าที่ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ และทำให้เห็นภาพของความเสียหายและผลกระทบของระบบโรงเรียนประจำที่มีต่อชนพื้นเมืองเฟิร์สต์เนชั่นส์ ครอบครัวและชุมชนของพวกเขา” ริชาร์ด จ็อก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ FNHA ระบุในแถลงการณ์

โรงเรียนประจำคืออะไร
ตั้งแต่ประมาณปี 1863-1998 มีเด็กชนพื้นเมืองมากกว่า 150,000 คน ถูกพรากไปจากครอบครัวและนำไปเข้าเรียนโรงเรียนประจำเหล่านี้

เด็ก ๆ มักไม่ได้รับอนุญาตให้พูดภาษาของตัวเองหรือปฏิบัติตามวัฒนธรรมของตัวเอง หลายคนได้รับการกระทำทารุณและล่วงละเมิด

คณะกรรมการชุดหนึ่งที่ตั้งขึ้นในปี 2008 เพื่อหาหลักฐานของผลกระทบของระบบโรงเรียนประจำนี้ พบว่า จำนวนเด็กชนพื้นเมืองจำนวนมาก ไม่ได้กลับบ้านไปหาครอบครัวของตัวเองอีกเลย

รายงานความจริงและการสมานฉันท์ (Truth and Reconciliation report) ที่เผยแพร่ในปี 2015 ระบุว่า นโยบายนี้เทียบเท่ากับ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทางวัฒนธรรม”

ในปี 2008 รัฐบาลแคนาดา ขอโทษอย่างเป็นทางการต่อระบบนี้

โครงการเด็กสูญหาย (Missing Children Project) ได้บันทึกหลักฐานการเสียชีวิตและสถานที่ฝังศพของเด็ก ๆ ที่เสียชีวิตขณะเข้าโรงเรียนประจำ จนถึงปัจจุบันมีการระบุตัวเด็กที่เสียชีวิตขณะเข้าโรงเรียนประจำแล้วมากกว่า 4,100 คน

29 พ.ค. 2564
https://www.khaosod.co.th/bbc-thai/news_6425269

[story]

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสมีพระดำรัสแสดงความ “เจ็บปวดพระทัย" หลังทราบข่าวการค้นพบศพเด็กชนพื้นเมือง 215 คนฝังซุกอยู่ในที่ดินของอดีตโรงเรียนประจำคาทอลิกในแคนาดา และทรงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพสิทธิและวัฒนธรรมของชนพื้นเมือง ทว่าไม่ทรง “ขออภัย” ในนามคริสตจักรตามที่หลายฝ่ายเรียกร้อง

ก่อนหน้านั้น นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด แห่งแคนาดาได้ฝากไปถึงคริสตจักรคาทอลิกให้แสดงความรับผิดชอบ เนื่องจากมีหน้าที่โดยตรงในการบริหารจัดการโรงเรียนเหล่านี้ เช่นเดียวกับผู้นำชนพื้นเมืองและอดีตนักเรียนที่เรียกร้องให้โบสถ์คาทอลิกต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่าที่เป็นอยู่

“พวกเราทุกคนก็เจ็บปวดและเสียใจกันทั้งนั้น ใครบ้างไม่เสียใจ” บ็อบบี คาเมรอน ประธานสมาพันธ์ชนชาติพื้นเมือง (Federation of Sovereign Indigenous Nations) ในรัฐซัสแคตเชวันของแคนาดา ระบุ

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้มีพระดำรัสต่อผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยวที่บริเวณจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์วานนี้ (6 มิ.ย.) โดยทรงขอให้ผู้นำทางการเมืองและผู้นำคาทอลิกในแคนาดา “ร่วมมือกันอย่างตั้งใจ” เพื่อสืบหาความจริง อันจะนำไปสู่การปรองดองและการเยียวยาผู้สูญเสีย

โป๊ปย้ำว่าทรงเข้าใจความรู้สึกของ “ชาวแคนาดาที่ยังคงตกตะลึง และขวัญเสียกับข่าวที่ออกมา”

โรงเรียนประจำเหล่านี้เปิดทำการสอนในช่วงระหว่างปี 1831-1996 และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรคริสต์หรือโบสถ์คาทอลิกที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลแคนาดา

การค้นพบหลุมฝังศพเด็กนักเรียน 215 คนภายในที่ตั้งของโรงเรียน Kamloops Indian Residential School ซึ่งปิดตัวไปตั้งแต่ปี 1978 ทำให้บาดแผลทางประวัติศาสตร์เกิดอักเสบรุนแรงขึ้นมาอีก และนำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการปกปิดข้อมูล และการแสวงหาตัวผู้รับผิดชอบต่ออาชญากรรมเหล่านี้

“การค้นพบอันน่าเศร้านี้ทำให้เราเข้าใจความเจ็บปวดและความทรมานที่เกิดขึ้นในอดีตมากยิ่งขึ้น ความเจ็บปวดนี้จะช่วยเตือนใจเราให้ปลีกตัวออกจากแบบอย่างของผู้ล่าอาณานิคม และเดินเคียงข้างกันไปด้วยความเคารพและตระหนักในสิทธิและค่านิยมทางวัฒนธรรมของลูกหลานชาวแคนาดาทุกคน”

รายงานการสอบสวนซึ่งเผยแพร่เมื่อปี 2015 ระบุว่า ระบบโรงเรียนประจำของแคนาดาในอดีตมีการบังคับแยกเด็กชนพื้นเมืองอินเดียน, อินูอิต และเมทิสราว 150,000 คนออกจากครอบครัว ซึ่งเข้าข่ายเป็นการล้างเผ่าพันธุ์ทางวัฒนธรรม (cultural genocide)

เด็กๆ เหล่านี้ยังเผชิญการล่วงละเมิดหลายอย่างขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียน ทั้งการทำร้ายร่างกาย, ข่มขืน, ภาวะทุพโภชนาการ และความรุนแรงอื่นๆ

โป๊ปฟรานซิสทรงได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาหลังจากที่โรงเรียนประจำชนพื้นเมืองแห่งสุดท้ายถูกปิดตัวไปนานถึง 17 ปี และเคยตรัส “ขออภัย” เกี่ยวกับบทบาทของคริสตจักรในการล่าอาณานิคมที่ทวีปอเมริกามาแล้ว

อย่างไรก็ตาม พระองค์มักจะทรงขออภัยโดยตรงระหว่างที่เสด็จฯ ไปเยือนประเทศนั้นๆ หรือพูดคุยกับชนเผ่าพื้นเมือง ซึ่งโป๊ปยังไม่มีกำหนดการเยือนแคนาดาในเร็วๆ นี้

ที่มา: รอยเตอร์

7 มิ.ย. 2564  ผู้จัดการออนไลน์

[story]

รัฐบาลแคนาดาเรียกร้องให้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงแถลงขออภัยอย่างเป็นทางการ ต่อกรณีที่โรงเรียนประจำซึ่งดำเนินงานโดยโบสถ์คาทอลิกในอดีตเคยล่วงละเมิดเด็กชนพื้นเมือง และทำให้เด็กๆ เหล่านั้นต้องทุกข์ทรมานไม่ต่างกับอยู่ใน “ค่ายผู้ใช้แรงงาน”

มาร์ก มิลเลอร์ รัฐมนตรีฝ่ายกิจการชนพื้นเมืองของแคนาดา ได้ฝากข้อเรียกร้องไปถึงประมุขแห่งคริสตจักรคาทอลิก หลังมีการค้นพบหลุมฝังศพเด็กนักเรียน 215 คนภายในที่ตั้งของโรงเรียน Kamloops Indian Residential School ที่ปิดตัวไปตั้งแต่ปี 1978

โรงเรียนแห่งนี้เป็นหนึ่งในโรงเรียนประจำ 139 แห่งที่ตั้งขึ้นเมื่อช่วง 100 ปีก่อนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบังคับเด็กชนพื้นเมืองให้ละทิ้งประเพณีความเชื่อของตัวเอง และยอมรับค่านิยมกระแสหลัก

“ผมว่ามันน่าอายที่พวกเขาไม่เคยออกมาขอโทษเลยจนกระทั่งถึงวันนี้” มิลเลอร์ ระบุในงานแถลงข่าว “พวกเขาควรเอ่ยคำขอโทษ เรื่องนี้เป็นความผิดของสภาบิชอปแห่งแคนาดาล้วนๆ”

แคโรลีน เบนเน็ตต์ รัฐมนตรีฝ่ายความสัมพันธ์ชนพื้นเมือง ก็ระบุในทำนองเดียวกันว่าคำขอโทษจากสมเด็จพระสันตะปาปาจะช่วย “ปลดล็อก” ทุกอย่าง และเยียวยาบาดแผลให้แก่ชุมชนคนพื้นเมืองในแคนาดา

“พวกเขาต้องการได้ยินคำขอโทษจากพระสันตะปาปา” เธอกล่าว

หลังจากที่รัฐมนตรี มิลเลอร์ เปิดแถลงข่าวเพียงไม่กี่ชั่วโมง อาร์ชบิชอปแห่งแวนคูเวอร์ก็ได้ออกมาแถลงขออภัยผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ทั้งยังรับปากว่าจะนำบันทึกหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับโรงเรียนประจำในอดีตมาเผยแพร่ให้สาธารณชนทราบ

“ตามที่มีการเปิดเผยเรื่องการพบศพนักเรียน 215 คนภายในที่ตั้งโรงเรียน Kamloops Indian Residential School ข้าพเจ้าขออภัยจากใจจริง และขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวและชุมชนซึ่งได้รับทรมานใจจากข่าวนี้”

“เป็นความผิดของทางโบสถ์ที่เคยปฏิบัติตามนโยบายล่าอาณานิคมของรัฐ จนเป็นเหตุให้เยาวชน ครอบครัว และชุมชนต้องได้รับความเดือดร้อน เพื่อให้คำขอโทษต่อการกระทำอันเลวร้ายนี้สามารถชุบชีวิตและเยียวยาผู้คนได้ เราจึงควรมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้ความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผย”

รายงานการสอบสวนซึ่งเผยแพร่เมื่อปี 2015 ระบุว่า ระบบโรงเรียนประจำของแคนาดาในอดีตมีการบังคับแยกเด็กชนพื้นเมืองอินเดียน, อินูอิต และเมทิสราว 150,000 คนออกจากครอบครัว ซึ่งเข้าข่ายเป็นการล้างเผ่าพันธุ์ทางวัฒนธรรม (cultural genocide)

เด็กๆ เหล่านี้ยังเผชิญการล่วงละเมิดหลายอย่างขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียน ทั้งการทำร้ายร่างกาย, ข่มขืน, ภาวะทุพโภชนาการ และความรุนแรงอื่นๆ

คณะผู้แทนชนพื้นเมืองเคยเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์เมื่อปี 2009 ซึ่งอดีตโป๊ปได้ทรงแสดงความ “เสียพระทัย” ที่ระบบโรงเรียนคาทอลิกถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกดขี่ชนพื้นเมือง

แม้ผู้แทนชนพื้นเมืองจะมองว่าคำแถลง “เสียใจ” ดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ก็เรียกร้องให้ประมุขคริสตจักรคาทอลิกขออภัยอย่างเป็นทางการด้วย

เมื่อปี 2018 รัฐสภาแคนาดาได้ผ่านร่างญัตติเรียกร้องให้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงขออภัย แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมา ซึ่งทำให้นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ออกมากล่าวตำหนิอย่างสุภาพว่า “รู้สึกผิดหวัง”

ที่มา: เอเอฟพี

3 มิ.ย. 2564  ผู้จัดการออนไลน์