ผู้เขียน หัวข้อ: รพ.ธนบุรี ชี้แจงกรณี หมอบุญ พาดพิง องค์การเภสัชกรรม  (อ่าน 344 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
โรงพยาบาลธนบุรีเผยแพร่หนังสือชี้แจง กรณี “หมอบุญ” พาดพิงองค์การเภสัชกรรม จนเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน

วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการนำเข้าวัคซีนทางเลือกของสมาคมโรงพยาบาลเอกชนว่า การนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา อาจต้องเสียงภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) 7% ประมาณ 2 รอบ เท่ากับ 14% โดยรอบแรกมาจากองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ซื้อวัคซีนจากบริษัทผู้แทน

และรอบที่สองจากโรงพยาบาลเอกชน ซื้อต่อจาก อภ.อีกครั้ง บวกกับค่าบริหารจัดการที่ อภ.จะคิดอีก 5-10% รวมทั้งหมดแล้วอาจสูงสุดที่ 24% ทำให้ต้นทุนวัคซีนดันขึ้นไปที่ 2,000 กว่าบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

หมอบุญ เผย วัคซีนทางเลือก เจอภาษี 2 รอบ เฉียด 24%
ล่าสุด บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ฟ จำกัด (มหาชน) เผยแพร่เอกสารชี้แจงว่า กรณี นายแพทย์บุญ กล่าวพาดพิงถึงการจัดการวัคซีนขององค์การเภสัชกรรม (GPO) ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทางบริษัทฯรู้สึกเสียใจที่ข้อความดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงขององค์การเภสัชกรรม บริษัทฯจึงกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ และขอเรียนว่ามิได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์การเภสัชกรรม แต่อย่างใด

ทั้งนี้ หนังสือชี้แจงดังกล่าวลงนามโดย นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นลิน วนาสิน กรรมการบริหาร

มติชน รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกลไกซื้อขายวัคซีนต้องมีค่าดำเนินการ เป็นเรื่องปกติของการซื้อมาขายไป  เหมือนกรณีการจัดซื้อวัคซีนของกรมควบคุมโรคที่สั่งซื้อวัคซีนซิโนแวค ซึ่งต้องจ่ายค่าดำเนินการส่วนนี้เช่นกัน ยืนยันว่าเป็นระเบียบการซื้อขายตามปกติ ไม่มีค่าหัวคิว

“การที่ อภ.เข้ามาเป็นสะพานกลางเชื่อมระหว่างผู้ผลิตวัคซีนกับโรงพยาบาลเอกชน เป็นไปตามคำขอที่ภาคเอกชนระบุว่า ไม่สามารถจัดซื้อได้เอง ทำให้ อภ.เข้ามาช่วยซื้อ ซึ่งไม่ใช่ภารกิจหลักขององค์การฯ ซึ่งการจัดซื้อวัคซีนจะสั่งซื้อตามจำนวน ตามความต้องการของเอกชนทั้งหมด”

12 พฤษภาคม 2564
https://www.prachachat.net/marketing/news-667008

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
หมอบุญ เผย วัคซีนทางเลือก เจอภาษี 2 รอบ เฉียด 24%
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2021, 13:29:06 »
“หมอบุญ” เผยความคืบหน้านำเข้าวัคซีนทางเลือก ชี้โดนค่าบริการ-ภาษี 2 รอบ รวมกว่า 24% แต่ต่อมาทางโรงพยาบาลชี้แจง รู้สึกเสียใจที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน

วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand กรณีประชาชนหวั่นผลข้างเคียงวัคซีนโควิด รวมถึงประเด็นความคืบหน้าการนำเข้าวัคซีนทางเลือกของสมาคมโรงพยาบาลเอกชน

เบื้องต้น ปัญหาการลงชื่อฉีดวัคซีนโควิดน้อยในประชาชน จากเป้าหมายแรกผู้สูงวัยและผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรังจำนวนกว่า 16 ล้านคน มีการลงทะเบียนราว 1.6 ล้านคน โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ในบางพื้นที่มีประชาชนจองคิวฉีดไม่ถึง 15% ถือว่าน่าเป็นห่วงมาก

เนื่องจาก ปัจจุบันการแพร่ระบาดยังมีแนวโน้มรุนแรง ประกอบกับห้องไอซียูภายในประเทศไทยเริ่มรองรับไม่ไหว ดังนั้น ตนจึงอยากแนะนำให้คนไทยฉีดวัคซีนโควิดในยี่ห้อที่มีในช่วงนี้ไปก่อน และขอยืนยันว่าวัคซีนทุกตัวมีประสิทธิภาพสามารถป้องกันโควิดได้ แต่มากน้อยแล้วแต่ยี่ห้อ

ทั้งนี้ วัคซีนซิโนแวคเป็นวัคซีนจากเชื้อตาย มีความปลอดภัยสูง และมีผลข้างเคียงน้อยกว่าแอสตร้าเซนเนกาถึง 2 เท่า อาจจะมีอาการปวดเมื่อย เจ็บแขน 1-2 วันเท่านั้น ส่วนผลข้างเคียงที่เป็นอัมพฤกษ์ยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด เพราะจากการเอ็กซเรย์เบื้องต้นไม่พบสิ่งปกติ แต่หากติดเชื้อโควิด ไวรัสจะเข้าไปทำลายอวัยวะหลายส่วน อาทิ ตับ ไต ปอด สมอง มีความรุนแรงมากกว่าผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนถึงพันเท่า เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วการฉีดวัคซีนย่อมดีกว่าไม่ฉีดอย่างแน่นอน

“ตอนนี้เราต้องเร่งฉีดวัคซีนโควิดสู่ประชาชน เราไม่มีทางเลือก แอสตร้าเซนเนกามีเหลือจากทั่วโลก บางประเทศเขาคืน งดฉีดกัน ฉีดยังดีกว่าปล่อยให้ผู้ป่วยโควิดล้นโรงพยาบาล ซึ่งห้องไอซียูเราไม่พอแล้ว”

อย่างไรก็ดี สำหรับความคืบหน้าด้านการนำเข้าวัคซีนทางเลือก ขณะนี้สมาคม รพ.เอกชน ร่วมกับองค์การเภสัชฯ ได้เจรจาวัคซีน 2 ตัว ได้แก่ โมเดอร์นา และโนวาแวกซ์ โดยโมเดอร์นาจะผ่าน อย.ภายใน 2 สัปดาห์นี้ แต่จะสามารถส่งวัคซีนให้แก่ไทยได้อีก 4 เดือนข้างหน้า เพราะขณะนี้ทางประเทศอเมริกายังมีข้อห้ามส่งออกวัคซีนออกนอกประเทศ

“ขณะนี้ทางเราได้พยายามส่งคนไปเจรจากับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้กระจายวัคซีนมาประเทศเราบ้าง เพราะประเทศเขามีเพียงพอแล้ว” หมอบุญกล่าวและว่า อย่างไรก็ดี การนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา เราอาจต้องเสียงภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) 7% ประมาณ 2 รอบ เท่ากับ 14%

โดยรอบแรกมาจาก อภ.ซื้อวัคซีนจากบริษัทผู้แทน และรอบที่สองจาก รพ.เอกชน ซื้อต่อจาก อภ.อีกครั้ง บวกกับค่าบริหารจัดการที่ อภ.จะคิดอีก 5-10% รวมทั้งหมดแล้วอาจสูงสุดที่ 24% ทำให้ต้นทุนวัคซีนดันขึ้นไปที่ 2,000 กว่าบาท

อย่างไรก็ตาม หาก รพ.ซื้อตรงกับบริษัทวัคซีนเองอาจไม่เสียภาษี เพราะได้รับการยกเว้น แต่ปัญหาอยู่ที่วัคซีนอนุมัติใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ดังนั้นเขาจึงอยากดีลกับภาครัฐมากกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันเดียวกัน ทางบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เผยแพร่เอกสารชี้แจง ระบุว่า ตามที่มีข่าว นายแพทย์บุญ วนาสิน กล่าวพาดพิงถึงการจัดการวัคซีนขององค์การเภสัชกรรม (GPO) ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ขอเรียนชี้แจงว่าทางบริษัทรู้สึกเสียใจที่ข้อความดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงขององค์การเภสัชกรรม บริษัทจึงกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ และขอเรียนว่ามิได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์การเภสัชกรรมแต่อย่างใด

โดยมีการลงชื่อ พร้อมลายเซ็นกำกับของ นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นลิน วนาสิน กรรมการบริหาร ข้างท้ายเอกสาร

ขณะที่ทางองค์การเภสัชกรรมได้ออกมายืนยันว่า กระบวนการปัจจุบันยังไม่ได้มีการเก็บค่าใช้จ่าย เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมความต้องการวัคซีนจากภาคเอกชนเท่านััน ข่าวสารที่เกิดขึ้นสร้างความเข้าใจผิดแก่สังคม

11 พฤษภาคม 2564
https://www.prachachat.net/marketing/news-666455