ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำหมักสมุนไพร ดูแล “เส้นผม” ยามหนาว  (อ่าน 1516 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
 การออกไปเผชิญสภาวะลมแรง แดดร้อนอย่างต่อเนื่อง เป็นปัญหาสำหรับคนรักเส้นผมและหนังศีรษะอย่างมาก โดยเฉพาะผู้มีผมยาว ผมดก ที่ทนทะนุถนอมมานานหลายปี เนื่องจากการเผชิญภาวะอากาศที่เย็นและแห้งนั้นทำร้ายเส้นผมอย่างมาก เพราะนอกจากเกิดรังแคได้ง่ายแล้วยังก่อปัญหาผมแตกปลายอีกด้วย ทำให้หลายคนต้องทนกับอาการระคายเคืองคันหนังศีรษะสร้างความรำคาญใจไม่น้อย
       
       ทว่า ในความเป็นจริง คงไม่อาจหลีกเลี่ยงแสงแดดหรือลมแรงได้ จึงต้องหันมาใส่ใจกับเส้นผมด้วยการทำน้ำหมักใช้เองง่ายๆ ซึ่ง ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้าโครงการสาธิตการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร การันตรีว่า ฤดูหนาวอันแสนแห้งแล้งนั้น ไม่ใช่ปัญหาสำหรับการดูแลผมเลย เพียงแค่เรียนรู้สูตรน้ำหมักสมุนไพรเล็กน้อยก็ช่วยดูแลเส้นผมและหนังศีรษะให้มีสุขภาพดี
       
       ภญ.สุภาภรณ์ บอกว่า เริ่มจากการเตรียมน้ำหมักสมอไทย มะขามป้อม อย่างละครึ่งถ้วยตวง ส่วนน้ำมันรำข้าว 1 ส่วน ดอกอัญชัน 5 ดอก แล้วนำไปเคี่ยวด้วยความร้อนเหมือนกับการเคี่ยวอาหารทั่วไป แล้วสังเกตจนสมุนไพรแห้งกรอบดีจึงตักออก กรองน้ำมันที่เคี่ยวเรียบร้อยแล้วด้วยผ้าขาวบาง เพื่อให้ได้แต่น้ำมันรำข้าวที่ใสไม่มีตะกอน ทิ้งให้เย็นกรอกใส่ขวดเก็บไว้ใช้

       “สรรพคุณของมะขามป้อมมีสรรพคุณเป็นสารชะล้างอ่อนๆ คนอินเดียนิยมนำมา ใช้ทำเป็นแชมพูสระผม คนอินเดียเชื่อว่ามะขามป้อมบำรุงผม ช่วยทำให้ผมดกดำและป้องกันผมหงอกก่อนวัย ป้องกันผมร่วง ส่วนดอกอัญชันก็ช่วยให้ผมดกดำ ขณะที่สมอไทยนั้นมีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระช่วยลดผมหงอก ขณะที่น้ำมันรำข้าวมีส่วนช่วยให้ผมสวยและนุ่มและช่วยควบคุมรูปทรงของเส้นผม ทำให้เส้นผมเรียบลื่นพร้อมเคลือบเส้นผมให้เงางาม เพราะมีวิตามินบี 1 และวิตามินบี 6 ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม ที่ล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อเส้นผมอย่างมาก” ภญ.สุภาภรณ์อธิบาย

       สำหรับใครทีมีปัญหาเรื่องแพ้สารเคมีจากครีมหมักผมบ่อยๆ น้ำหมักสมุนไพร อาจเป็น ทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหา เพราะสกัดธรรมชาติ 100% แต่ถ้ากรณีที่ไม่มีน้ำมันรำข้าวก็อาจจะใช้ไข่แดง 1 ฟองผสมกับสุมนไพรอื่นก็ได้เช่นกัน โดยวิธีการใช้ก็ไม่ต่างจากครีมหมักผมทั่วไป เพียงแค่ชโลมผมให้เปียกด้วยน้ำเปล่า หลังจากนั้น ชโลมน้ำมันลงบนผมที่เปียก ทิ้งไว้ 15 -30 นาที ก่อนที่จะล้างด้วยน้ำเปล่า หลังจากนั้น จึงสระผมตามปกติ ก็จะมีผมที่สุขภาพดีและพร้อมจะเผชิญลม แดดได้อย่างสบายใจ
       
       การบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะด้วยน้ำหมัก ไม่จำเป็นต้องทำทุกวัน แค่ดูแลหมักแค่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็นับว่าเพียงพอแล้วสำหรับการดูแลเส้นผมสุดหวงของสุภาพสตรีทั้งหลาย ซึ่งสามารถทำได้เองที่บ้านตามเวลาที่แต่ละคนสะดวก โดยไม่ต้องไปกังวลกับค่าใช้จ่ายที่ต้องออกไปทำสปาผม หรือทรีทเมนท์ในร้านหรูหราแต่อย่างใด ซึ่งสูตรดังกล่าวเป็นการคิดค้นโดยกลุ่มงานเภสัชกรรม ของ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่นับว่ามีประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว ที่หลายๆ คน ปรารถนาไปพักผ่อนนอกบ้านเพื่อสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ทั้งขึ้นดอย เดินป่า ฯลฯ หรือผู้ที่ต้องเดินทางไปทำงานนอกบ้าน เจอทั้งฝุ่น ทั้งควัน แม้กระทั่งลมจากเครื่องปรับอากาศ ย่อมทำร้ายเส้นผมเป็นธรรมดา

       ท้ายที่สุด ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวเสริมว่า ไม่ว่าจะสูตรบำรุงผมชั้นเลิศเพียงใด แต่หากคุณมีการไดร์ผม หรือโกรกสี เปลี่ยนสีบ่อยๆ ครีมหมักผมที่ว่าเยี่ยมก็ย่อมไม่ช่วยอะไร ดังนั้น ต้องมีการดูแลให้ดี อย่าซ้ำเติมสุขภาพผมด้วยการเสริมแต่ง ทรงและเปลี่ยนแปลงจากธรรมชาติมากจนเกินเหมาะสม

 จารยา บุญมาก
ASTVผู้จัดการออนไลน์    28 ธันวาคม 2554