ผู้เขียน หัวข้อ: แจงใช้สิทธิบัตรทองทุกที่ในเขตบริการ ชูระบบส่งต่อโรงพยาบาลเครือข่าย  (อ่าน 337 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9739
    • ดูรายละเอียด
ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดการแถลงข่าว “ไขข้อสงสัยยกระดับบัตรทอง พัฒนา 4 ระบบบริการ” โดย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า จากนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. ที่ต้องการยกระดับการให้บริการบัตรทอง


โดยยึดหลักการ 4 ประการคือ
1. ผู้ใช้สิทธิบัตรทองในเขตกรุงเทพฯ สามารถเข้ารับบริการในคลินิกชุมชนอบอุ่นที่มีชื่อขึ้นทะเบียนหรือคลินิกใกล้บ้านอื่นที่เป็นเครือข่ายที่ใดก็ได้ภายในเขตของตนเอง รวมทั้งศูนย์บริการสาธารณสุขกรุงเทพฯทั้ง 69 แห่ง โรงพยาบาลสังกัด กทม.11 แห่ง และ วชิรพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.63 เป็นต้นไป
2.ผู้ป่วยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว โดยนำร่องวันที่ 1 พ.ย.63 ที่เขตสุขภาพ 9 นครชัยบุรินทร์ ได้แก่ จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ซึ่งมีประชากร 7.5 ล้านคน หากประชาชนเกิดเจ็บป่วยในจังหวัดใดในเขต 9 สามารถเข้ารับการรักษาโดยไม่ต้องมีใบส่งตัว ส่วนประวัติคนไข้นั้น สปสช.จะเป็นเชื่อมระบบออนไลน์ส่งข้อมูลระหว่างคลินิกกับโรงพยาบาลให้
3. การรักษาโรคมะเร็ง สปสช.ร่วมกับกรมการแพทย์ โดยกรมการแพทย์ได้วางแผนบริการให้กับผู้ป่วยมะเร็งให้เข้าถึงการรักษาโดยเร็ว ซึ่งโรคมะเร็งอยู่ในแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ หรือ Service Plan ของกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว โดยกรมการแพทย์มีสถาบันมะเร็งแห่งชาติและโรงพยาบาลมะเร็ง 7 แห่งทั่วประเทศ โดยจะเชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วย การรักษาบริการ จะทำให้เห็นภาพรวมของการให้บริการ เพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลใกล้เคียงที่มีคิวว่าง เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มดำเนินการวันที่ 1 ม.ค.2564 เป็นต้นไป และ
4.การย้ายหน่วยบริการ จะให้มีผลทันที โดยไม่ต้องรอ 15 วันเหมือนที่ผ่านมา โดยผู้ป่วยที่ต้องการย้ายสิทธิไปที่แห่งใหม่ก็จะมีสิทธิรับบริการได้ทันที โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564


“ระบบใหม่นี้จะช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากขึ้น จากเดิมหากมีชื่อขึ้นทะเบียนในคลินิกแห่งใดก็ต้องไปรักษาที่คลินิกนั้น แต่ระบบใหม่จะแบ่งเป็นโซนหรือเครือข่ายที่ผู้ป่วยไปรับบริการคลินิกใดก็ได้ในโซนเดียวกันและหากมีระบบการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลในเครือข่าย 7-10 แห่งได้อีกด้วย” นพ.จเด็จกล่าว.

ไทยรัฐฉบับพิมพ์
28 ต.ค. 2563