ผู้เขียน หัวข้อ: จับทุจริต 18 คลินิกชุมชนอบอุ่น แต่งข้อมูลเบิกงบ “บัตรทอง”  (อ่าน 971 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
“อนุทิน” เรียก สปสช.แจง “คลินิกชุมชนอบอุ่น” ทุจริตเบิกจ่ายงบตรวจสุขภาพป้องกันโรค พบทำผิด 18 แห่ง เบิกเงินไปเกิน 72 ล้านบาท ติดตามคืนแล้ว 60.77 ล้านบาท ด้านเลขาธิการ สปสช. ระบุมีการตกแต่งตัวเลขผลตรวจสุขภาพ เพื่อให้เกิดการเจาะเลือดตรวจ เอาเงินเพิ่ม 300 บาท แจ้งความเอาผิดฐานฉ้อโกง ขีดเส้นคืนเงินที่เหลือในสิ้น ก.ย.นี้ ขณะที่ สบส.เตรียมตรวจสอบด้วย หากผิดเอาโทษคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่น รวมพักใช้ใบอนุญาต

วันนี้ (3 ก.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนพิมาย เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้ประชุมหารือถึงกรณีข้อมูลการทุจริตเบิกจ่ายงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ในส่วนของคลินิกชุมชนอบอุ่นจำนวน 18 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งได้มีการอภิปรายในสภาเมื่อเร็วๆ นี้

นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ว่า ตนได้เรียก สปสช.มาประชุมชี้แจงร่วมกับผู้บริหาร สธ. ก็พบว่า เรื่องนี้เกิดจากการที่ สปสช.เห็นข้อมูลความไม่ปกติของคลินิกชุมชนอบอุ่นที่ส่อไปในทางทุจริต โดยมีการส่งใบเรียกเก็บเงิน และบอกว่า ได้ทำการตรวจเช็กสุขภาพประชาชนในเขต กทม. จึงทำการตรวจสอบ และพบว่า มีการเรียกเก็บเงินเกินกว่างานที่ทำจริง โดยยอดเงินที่เสียหายราว 72 ล้านบาทนั้น สปสช.ได้เรียกเก็บมาแล้วประมาณ 60.77 ล้านบาท ส่วนความผิดในทางคดีอาญา เลขาธิการ สปสช.ก็จะแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อไปตามขั้นตอน นอกจากนี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ที่ดูแลเรื่องการให้ใบอนุญาตสถานพยาบาลแก่คลินิกต่างๆ ก็จะลงไปตรวจสอบอย่างละเอียด หากพบว่ามีการกระทำผิดตามมาตรา 73 พ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริยธรมและข้อมูลอันเป็นเท็จ ก็จะดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตทั้งหมด

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า คลินิกชุมชนอบอุ่มใน กทม.มีประมาณ 190 แห่ง โดยพบการกระทำผิด 18 แห่ง โดยพบว่า มีการตบแต่งตัวเลขเพื่อเบิกเงินจากทาง สปสช.ในส่วนของบริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ในกลุ่มของโรคเมตาบอลิก คือ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน เป็นต้น ซึ่งตามปกติแล้วคลินิกจะมีการตรวจคัดกรองประชาชนว่ามีความเสี่ยงในการเป็นโรคเหล่านี้หรือไม่ โดยทำการตรวจวัดน้ำหนัก ส่วนสูง วัดความดัน สอบถามประวัติความเสี่ยง เช่น ครอบครัวมีคนป่วยด้วยโรคเหล่านี้หรือไม่ หากไม่พบความเสี่ยงหรือไม่ผิดปกติก็จะแนะนำให้ไปตรวจคัดกรองเป็นประจำทุกปี โดยการตรวจเหล่านี้จะเบิกจ่ายประมาณ 100 บาทต่อราย แต่หากมีความเสี่ยงผิดปกติ จะมีการเจาะเลือดเพื่อส่งตรวจ ซึ่งรายการตรงนี้จะเบิกเพิ่มเติมอีก 300 บาท ซึ่งเราพบว่า มีการตกแต่งตัวเลข เช่น น้ำหนัก 50 กิโลกรัม แต่เขียนมาว่า 60 กิโลกรัม เพื่อให้ค่า BMI เกิน ว่ามีความเสี่ยงที่จะต้องเจาะเลือดเพื่อเอาเงิน 300 บาทตรงนี้

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า การเบิกจ่ายนั้น ทางคลินิกจะส่งชื่อ นามสกุล เลขประชาชน 13 หลัก มาเบิกจ่ายในแต่ละสิทธิประโยชน์ ซึ่งตามปกติ สปสช.จะมีการตรวจสอบ (Audit) เป็นประจำอยู่แล้ว และจะสุ่มตรวจประมาณ 5% ว่า มีความผิดปกติหรือไม่ โดยมีการโทร.ไปสอบถามผู้ป่วยว่ามีการตรวจมีการบริการเช่นนี้หรือไม่ด้วย โดยในปีงบประมาณ 2562 เราดำเนินการตรวจสอบจนถึงช่วง ส.ค. 2562 ก็พบเห็นความผิดปกติ จึงขยายการสอบสวนทั้งหมดจนทราบจำนวนคลินิกและวงเงินที่เบิกไปเกิน มีการนำเรื่องของสู่คณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพ กทม.เมื่อ ก.ย.- ต.ค. 2562 และมีมติให้เรียกเงินคืน พร้อมแจ้งเรื่องมายัง สปสช.พิจารณา ซึ่งเราก็เห็นว่ามีมูล ทั้งนี้ การเรียกเงินคืนในส่วนที่เหลือกำหนดให้คืนภายในสิ้น ก.ย. 2563 นี้ อย่างไรก็ตาม จะมีการรวบรวมหลักฐานในแง่ของกฎหมาย เพื่อส่งเรื่องให้แก่ สบส.และแจ้งความฐานฉ้อโกงในคดีอาญาด้วย ซึ่งเอกสารต่างๆ เสร็จแล้ว ตนได้มอบอำนาจตัวแทนไปดำเนินการแล้ว

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า หากมีการสั่งปิดคลินิกชุมชนอบอุ่นทั้ง 18 แห่ง จะมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการต้องไปรับบริการประมาณ 2 แสนคน แต่ สปสช.ได้เตรียมการรองรับไว้แล้ว คือ จะจัดหาคลินิกชุมชนอบอุ่นข้างเคียงที่ยังมีโควตารองรับได้ และผู้ป่วยเหล่านี้จริงๆ ยังมีหน่วยบริการประจำ หรือ รพ.ตามสิทธิที่รับดูแลอยู่ เนื่องจากเรากระจายผู้ป่วยจาก รพ.มายังคลินิกชุมชนอบอุ่นเพื่อลดความแออัด

นพ.ธเรศ กล่าวว่า สบส.จะตรวจสอบคลินิกดังกล่าว โดยจะพิจารณาตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล คือ
1. ความผิดทางอาญาในมาตรา 73 เรื่องการทำหลักฐานเท็จ การปลอมเอกสารเบิกจ่ายต่างๆ ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริง ก็จะมีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท และจะดำเนินการแจ้งความ สน.ในท้องที่ และ
2. มาตรการทางปกครอง ตรงนี้จะรอข้อมูลจาก สปสช. ว่ามีผู้เสียหายจากการดำเนินการนี้อย่างไร เช่น สปสช.เป็นผู้เสียหายจากการถูกฉ้อโกง หรือมีประชาชนได้รับความเสียหายหรือไม่ เพราะไม่ป่วยแต่ถูกวินิจฉัยว่าป่วย ต้องไปกินยาอะไรหรือไม่ ก็จะใช้อำนาจตามมาตรา 49 และ 50 ให้ระงับการดำเนินการ และหากมีความผิดร้ายแรงก็จะสั่งพักใช้ใบอนุญาต ทั้งนี้ เราจะส่งทีมลงไปตรวจสอบใน 3-4 วันนี้ด้วยในคลินิกทั้ง 18 แห่ง

เมื่อถามว่า การออกมาแถลงตรงนี้มีการมองว่าเกิดจากศึกซักฟอกที่ผ่านมา นายสาธิต กล่าวว่า ไม่ใช่ ต้องย้ำว่าการอภิปรายของ ส.ส.ในสภา เป็นกรณีที่ สปสช.ตรวจสอบพบเอง และเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2562 และตรวจสอบมาตลอด เมื่อ สธ.รับทราบไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อเห็นข้อมูลจากการอภิปราย จึงมาเรียกประชุมเพื่อจัดการให้ดำเนินการตามขั้นตอนและกฎหมายอย่างเด็ดขาด ไม่ได้หมายความว่าปกปิด หลักเป็นอย่างนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลินิกที่ถูกตรวจสอบทั้ง 18 แห่ง ได้แก่
1. เรือพระร่วงสหคลินิก บจก.คลินิกชุมชนอบอุ่น
2. คลินิกปิยะมินทร์สาขาอุดมสุข บจก.เมืองธรรม 5
3. เรือพระร่วงคลินิกเวชกรรมสาขารามคำแหง 39 บจก.นวันธรการแพทย์
4. เรือพระร่วงคลินิกเวชกรรมสาขา 2 บจก.เรือพระร่วง แล็บ
5. เรือพระร่วงคลินิกเวชกรรมสาขา 3 บจก.เมืองคำ
6. เรือพระร่วงคลินิกเวชกรรมสาขา 4 บจก.วิศราการแพทย์
7. เรือพระร่วงคลินิกเวชกรรมสาขาปัฐวิกรณ์ บจก.คลินิก แคร์
8. เรือพระร่วงคลินิกเวชกรรมสาขา 5 บจก.ศักดาการแพทย์
9. คลินิกเวชกรรมปิยมินทร์สาขาราม 2 บจก.เมืองธรรม 4
10. รักสุขภาพคลินิกเวชกรรม บจก.สายใยรักสุขภาพ
11. นิมิตรใหม่คลินิกเวชกรรม บจก.ธัญญ์ฐรัศม์การแพทย์
12. เพชรเกษม 54 คลินิกเวชกรรม บจก.รดาวุฒิ
13. คลินิกเวชกรรมเพชรเกษม 102 บจก.รดาวุฒิ
14. คลินิกเวชกรรมรดาวุฒิ สาขาบางบอน 1 บจก.รดาวุฒิ
15. คลินิกเวชกรรมหนองค้างพลู 1 บจก.สายเพชรงานเพื่อนแพทย์
16. คลินิกเวชกรรมรดาวุฒิสาขาบางแวก บจก.รดาวุฒิ
17. คลินิกเวชกรรมท่าพระ บจก.วนาเวช และ
18. คลินิกเวชกรรมตลิ่งชัน บจก.วนาเวช


3 ก.ค. 2563   โดย: ผู้จัดการออนไลน์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 กรกฎาคม 2020, 12:18:07 โดย story »

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
บอร์ด สปสช.ตั้ง กก.สอบสวนข้อเท็จจริง 18 คลินิกทุจริตเบิกเงินคัดกรองโรค กองทุนบัตรทอง พร้อมดำเนินการเอาผิดทางกฎหมาย ยกเลิกหน่วยบริการ พร้อมจัดหาคลินิกใหม่รองรับผู้ป่วย

ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกประชุมผู้บริหารสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) พร้อมแถลงพบคลินิกชุมชนอบอุ่น 18 แห่งทุจริตเบิกจ่ายงบตรวจสุขภาพป้องกันโรคเกินไป 72 ล้านบาท ตามคืนแล้ว 60.77 ล้านบาท จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ โดยนพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อดีตอธิบดีกรมอนามัยและอดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊ก Wachira Pengjuntr ตั้งคำถามเรื่องนี้ว่า ต้องมีใครรับผิดชอบหรือไม่ และการดำเนินการแจ้งความมีการดำเนินการอย่างรวดเร็วหรือไม่อย่างไรนั้น

ความคืบหน้าวันที่ 8 ก.ค. 63 ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) มีวาระพิจารณาการตรวจสอบการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคพื้นฐานคลินิกชุมชนอบอุ่น จากกรณีพบคลินิกชุมชนอบอุ่น 18 แห่ง ตกแต่งตัวเลขเบิกจ่ายค่าบริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในกลุ่มของโรคเมตาบอลิก

นายอนุทิน กล่าวว่า หลังจากที่ได้ตรวจสอบพบข้อมูลการเบิกจ่ายค่าบริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในกลุ่มของโรคเมตาบอลิกของคลินิกชุมชนอบอุ่น 18 แห่ง ไม่น่าเชื่อถือ เช่น ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้รับบริการได้รับบริการจริง, ไม่สามารถติดต่อผู้รับบริการจากเบอร์โทรศัพท์ที่บันทึกในเอกสาร และมีการแก้ไขข้อมูลน้ำหนัก ส่วนสูง เพื่อให้เข้าเกณฑ์ตรวจคัดกรอง เป็นต้น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้เร่งดำเนินการกับคลินิกชุมชนอบอุ่นทั้ง 18 แห่งจากความเสียหายที่เกิดขึ้นและในวันนี้ บอร์ด สปสช. เห็นชอบตามที่ สปสช.เสนอ โดยให้ สปสช.เรียกเงินส่วนที่หน่วยบริการเรียกเก็บเกินจริง ซึ่งในกรณีที่หน่วยบริการไม่คืนเงิน ให้ สปสช.มีอำนาจระงับค่าใช้จ่ายที่หน่วยบริการมีสิทธิได้รับ พร้อมกันนี้ให้ดำเนินการตามกฎหมายทั้งในคดีแพ่งและอาญา ดำเนินการทางวินัยและสภาวิชาชีพ เพื่อขอให้เพิกถอนความเป็นสถานพยาบาล

อีกทั้ง บอร์ด สปสช.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นนี้ โดยมี นายจิรวุสฐ์ สุขได้พึ่ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธาน ให้ดำเนินการแล้วเสร็จ 30 วัน

“กรณีนี้เป็นการฉ้อโกงภาษีประชาชน ฉ้อโกงเงินราชการ เป็นการให้บริการแต่ผู้รับบริการไม่มีตัวตน เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ต้องสอบสวนที่มาที่ไป และเรื่องนี้ สปสช.เป็นผู้เสียหายคนแรก ต้องดำเนินการกับคลินิกเหล่านี้ให้ถึงที่สุด โดยขณะนี้ สปสช.ได้แจ้งความดำเนินคดีกับคลินิกทั้ง 18 แห่ง และได้เพิกถอนการเป็นหน่วยบริการในระบบ สปสช.แล้ว นอกจากนี้ได้ให้ สปสช.เตรียมหาหน่วยบริการแห่งใหม่เพื่อรองรับประชาชนที่ขึ้นทะเบียนในหน่วยบริการดังกล่าว และให้เลขาธิการ สปสช. แถลงรายละเอียดการดำเนินการทั้งหมด เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและสร้างความเข้าใจต่อสาธารณะต่อไป” นายอนุทิน กล่าว


นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ในการดำเนินงาน “กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” สปสช.ให้ความสำคัญต่อการตรวจสอบการใช้งบประมาณมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการที่ได้วางระบบเฝ้าระวัง ติดตามและตรวจสอบ ซึ่งกรณีพบการตกแต่งตัวเลขเบิกจ่ายค่าบริการในคลินิกชุมชนอบอุ่น 18 แห่งที่ปรากฎเป็นข่าวนี้ ก็เป็นผลจากระบบการตรวจสอบของ สปสช. ที่ได้ตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีการเบิกจ่ายบริการคัดกรองความเสี่ยงโรคเมตาบอลิกในคลินิกชุมชน 45 แห่งที่ให้บริการสูงสุด เมื่อวันที่ 14-15 ส.ค. 62 โดย สปสช.เขต 13 กทม. พบข้อมูลการเบิกจ่ายของคลินิก 18 แห่ง ไม่น่าเชื่อถือ

ทั้งนี้ สรุปมติบอร์ด สปสช.วันที่ 8 ก.ค.63 การดำเนินการกรณีพบหน่วยบริการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเกินจริง ดังนี้

ด้านหน่วยบริการ

1.ระงับการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์จากเงินพึงได้ทั้งหมดของหน่วยบริการทั้ง 18 แห่ง และเรียกคืนเงินตามจำนวนที่ตรวจสอบพบว่าการเบิกจ่ายไม่ถูกต้อง

2.ดำเนินการแจ้งความคดีอาญา (กองปราบปราม)

3.ดำเนินการตามกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล โดยส่งเรื่องกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ รวมทั้งสภาวิชาชีพ เพื่อดำเนินการเรื่องจรรยาบรรณวิชาชีพ

4.ยกเลิกสัญญาและประกาศยกเลิกการเป็นหน่วยบริการ ของหน่วยบริการทั้ง 18 แห่ง

ด้านประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจในการได้รับบริการอย่างต่อเนื่องตามความจำเป็น

1.เตรียมหน่วยบริการประจำ เพื่อรองรับประชาชนที่ลงทะเบียนไว้กับหน่วยบริการทั้ง 18 แห่งดังกล่าว ทั้งนี้สำนักงานจะประชาสัมพันธ์และจัดระบบการขึ้นทะเบียนใหม่ให้ประชาชนอย่างเร็วที่สุด

2.ในระหว่างรอการลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการประจำแห่งใหม่ ประชาชนสามารถไปรับบริการที่หน่วยบริการรับส่งต่อ หรือที่หน่วยบริการใกล้บ้านที่ใดก็ได้ตามความจำเป็น

ด้านระบบในภาพรวม

1.ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณารายละเอียดของปัญหาอย่างเป็นระบบ การบริหารจัดการภายในของ สปสช. รวมทั้งระบบการตรวจสอบการเบิกจ่ายค่าบริการและคุณภาพบริการ เพื่อดูว่ามีจุดใดที่ต้องพัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติม และจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาการดำเนินงานต่อไป

นพ.ศักดิ์ชัย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ว่า ขณะนี้ สปสช.ได้ดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดคลินิกทั้ง 18 แห่งเรียบร้อยแล้ว ส่วนยอดเงินที่พบมีการเบิกเกินไป 70 กว่าล้านบาท มีการส่งคืนมาแล้วกว่า 60 ล้านบาท นั้น ส่วนที่เหลือ ยังไม่มีใครประสานชี้แจงมาว่าจะจ่ายคืนเมื่อไหร่ แต่เราได้ให้เวลาถึงสิ้นเดือน ก.ย.นี้ และขอย้ำว่าจากนี้จะมีการตรวจสอบคลินิกอบอุ่นทั้งหมดแน่นอน เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพียงแต่รอให้ดำเนินการกับคลินิกอบอุ่นทั้ง 18 แห่งให้เสร็จสิ้นก่อน

เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าความผิดปกติในการเบิกจ่ายเงินดังกล่าวทาง สปสช.ตรวจพบนานแล้ว แต่เหตุใดจึงเพิ่งจะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายหลังมีส.ส.ออกมาเปิดเผยในสภา นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ซึ่งที่ผ่านมาต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ เก็บรวมรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ นำเข้าสู่การพิจารณาของอนุกรรมการหลายคณะ ขอยืนยันว่าเราไม่ได้ปล่อยปละละเลย หรือจะอะลุ่มอล่วยแน่นอน เพราะนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่จะอะลุ่มอล่วยไม่ได้

Wed, 2020-07-08 18:01 -- hfocus team

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
MGR Online - กองปราบรับลูกลุยเอาผิด “คลินิกชุมชนอบอุ่น” ทุจริตบัตรทอง 74 ล้านบาท เตรียมเรียกสอบพยานบุคคลอีกหลายปาก

วันนี้ (10 ก.ค.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงกรณีการทุจริตคลินิกชุมชนอบอุ่น ที่ให้บริการแก่ผู้มีสิทธิบัตรทอง 18 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นเงิน 74,397,720 บาทว่า เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้มีตัวแทนจาก สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.โดยเจ้าหน้าที่ได้รับไว้เป็นคดี และกำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งพยานบุคคลและเอกสาร ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากผู้ร้องทุกข์ได้เข้ามาให้การปากเปล่า อีกทั้งคลินิกที่มีความเกี่ยวข้องนั้นมีหลายแห่ง ซึ่งจะต้องสอบปากคำคนไข้ที่เข้ารับการตรวจนับหลักพันถึงหลักหมื่น

พ.ต.อ.สมควร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ต้องสืบหาพยานหลักฐานว่าคลินิกแต่ละแห่งได้เบิกงบไปเท่าไหร่ ซึ่งลักษณะการทุจริตเบื้องต้นนั้น ทราบว่า คลินิกจะกรอกข้อมูลคนไข้ไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น คนไข้มีมวลร่างกายปกติ ก็จะทำให้ไม่ปกติเพื่อให้ดูมีความเสี่ยงจึงจะสามารถเบิกงบจาก สปสช.ได้สูงขึ้น ซึ่งมีข้อมูลการทุจริตนับตั้งแต่ช่วงปี 2562 เป็นต้นมา แต่เชื่อว่า น่าจะมีการทุจริตมานานกว่านั้น เนื่องจากยอดความเสียหายมูลค่าสูงถึง 70 ล้านบาท

11 ก.ค. 2563  โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
“อนุทิน” เผยขยายผลตรวจสอบคลินิกชุมชนอบอุ่น 86 แห่งทั่ว กทม. เจอปลอมเอกสารเบิกเงินบัตรทองอีก 63 แห่ง ชี้ทุจริตชัด ตั้ง กก.สอบต้นตอปัญหา หาแนวทางแก้ไขปรับปรุงการเบิกจ่าย ยันเอาผิดเต็มที่ทั้งแพ่ง อาญา เพิกถอนสถานพยาบาล เอาผิดทางจรรยาวิชาชีพ จ่อขอข้อมูล ส.ส.ประเดิมชัย เพิ่ม

วันนี้ (9 ก.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวว่า การประชุมบอร์ด สปสช.เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมาได้มีรายงานว่ามีการตรวจสอบขยายผลคลินิกชุมชนอบอุ่นในกรุงเทพมหานคร (กทม.) 86 แห่ง พบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารการเบิกเงินจาก สปสช. แต่ไม่มีการดูแลประชาชนจริง 63 แห่ง เรื่องนี้ถือว่าเป็นการทุจริตชัดเจน ที่ประชุมจึงได้มีการตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบว่าปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เรื่องการเบิกจ่ายเงินต้องมีการแก้ไขปรับปรุงอะไรหรือไม่ ดังนั้น เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้อีก ตรวจสอบว่ายังมีบิลปลอมอีกหรือไม่ ตอนนี้เรื่องเงินนั้นถือว่ายังไม่เสียหาย แม้ว่าหลายที่ยังไม่จ่ายคืน สปสช. แต่ยืนยันเอาผิดเต็มที่ทั้งทางแพ่ง อาญา เพิกถอนการเป็นสถานพยาบาล และถ้ามีแพทย์ พยาบาลที่เกี่ยวข้องก็เอาผิดหมด รวมถึงการเอาผิดด้านจรรยาวิชาชีพด้วย

นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้ตำหนิผู้บริหาร สปสช.ที่ไม่ได้รายงานเรื่องนี้ให้บอร์ด สปสช.ทราบตั้งแต่แรก เพราะท่านบอกว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และมีมูลค่าความเสียหายสูง ที่สำคัญคือเป็นเงินที่มาจากภาษีประชาชนจึงต้องมีการรายงาน ดังนั้น ต้องแก้ไขการเบิกจ่ายงบการให้บริการประชาชนจะบอกว่าไม่มีคน ไม่มีเวลาไม่ได้ เรื่องแบบนี้ต้องทำให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันความเสียหาย ไม่ใช่ให้คีย์ข้อมูลเลขประจำตัวประชาชนแล้วเรียกเก็บเงินได้

นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องขอบคุณนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ที่ออกมาให้ข้อมูลเรื่องนี้ จากนี้จะมีการขอข้อมูลเพิ่มเติมจากนายประเดิมชัยด้วย ทั้งนี้ เหตุลักษณะนี้เกิดเฉพาะในพื้นที่ กทม.เท่านั้น เนื่องจากตามต่างจังหวัดนั้นจะเป็นระบบการเหมาจ่ายรายหัว


 9 ก.ค. 2563   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
ส.ส.เพื่อไทย อภิปรายขบวนการเขมือบงบ สปสช. พบปี 61 สอบสวน 18 คลินิกใน กทม. เบิกจ่ายเงิน 74 ล้านบาท ทั้งที่ไม่การรักษาจริง ระบุ 2 ปีผ่านมา ดำเนินการแค่ทวงหนี้คืน แต่ไม่พบการเอาผิด 'อนุทิน' ยันพบส่อทุจริตจริง สั่งยกเลิกใบประกอบโรคศิลป์ จี้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาทเป็นวันที่สอง นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.เพื่อไทย ได้อภิปรายถึงการใช้จ่ายงบประมาณภายใต้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่มีวงเงินเกี่ยวกับการสร้างหลักประกันทางสังคม วงเงิน 288,298.7 ล้านบาท

นายประเดิมชัย กล่าวว่า ตนมีประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับ งบบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว โดยเฉพาะเรื่องของการเบิกจ่ายเงินจากบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ซึ่งรัฐจะให้เงินสนับสนุนประมาณ 400 บาทต่อหัว เพื่อให้สถานประกอบการลงพื้นที่ชุมชนตรวจหาโรคเรื้อรัง กลุ่มเมตาบอลิก ซึ่งวงเงินส่วนนี้ได้รับการจัดสรรเพิ่มขึ้นทุกปี

อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีทราบหรือไม่ว่า มีขบวนการมาเขมือบเกาะกินเงินส่วนนี้โดยไม่ได้ก่อประโยชน์ให้กับประชาชน ในปี 2561 มีการตรวจพบกลไกการทุจริตในพื้นที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 13 กรุงเทพมหานคร โดยพบว่า มีคลินิก 18 แห่ง เบิกจ่ายเงินกว่า 74 ล้านบาทเศษ ทั้งที่ไม่ได้มีการตรวจโรคให้กับประชาชนจริง

ต่อมา สปสช.เขต 13 ได้ตรวจสอบพบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว แต่จนถึงปัจจุบันไม่มีรายงานว่าได้เรียกเก็บเงินคืนจากคลินิกเหล่านี้ รวมถึงไม่มีรายงานว่า มีการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อผิดเอาหรือมีคำสั่งให้ระงับยังยั้งการดำเนินการของคลินิกเหล่านี้หรือไม่ เพราะยังเห็นว่ามีการให้บริการกันอยู่

“18 คลินิกที่ทำเรื่องนี้ มีเครือข่ายบริษัทที่เกี่ยวข้อง 3 กลุ่มที่จัดตั้งขึ้นมา เครือข่ายที่หนึ่งเกี่ยวข้องกับ 12 คลินิก ส่วนอีก 2 เครือข่ายมีความเกี่ยวข้องเครือข่ายละ 3 คลินิก พวกนี้คือกลุ่มเกาะกินงบประมาณของประชาชน และประชาชนไม่รู้ตัวว่า สิทธิ์ของตัวเองถูกขโมยไป และเอาไปเบิกจ่ายเงินในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” นายประเดิมชัย กล่าว

นายประเดิมชัย กล่าวต่อด้วยว่า ตนจะไม่หยุดเรื่องนี้แค่การอภิปรายงบประมาณ แต่จะนำเสนอเรื่องเข้าคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดลึกซึ้งต่อไป เพื่อไม่ให้ขบวนการนี้ยืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทยได้อีก

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ทันทีที่ฟังอภิปรายจบ ตนได้สอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทราบข้อมูลว่าเรื่องทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พบว่ามีการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริตจริง มีการเบิกค่าใช้จ่ายในลักษณะที่ไม่ได้ให้บริการประชาชนจริง ซึ่ง สปสช. ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ แต่ได้มีการเรียกเก็บเงินคืน ซึ่งปัจจุบันยังติดตามทวงหนี้อย่างต่อเนื่อง

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นการทุจริตการเบิกจ่ายงบของรัฐ จึงได้มอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ทำการยกเลิกการให้บริการ และยกเลิกใบประกอบโรคศิลป์ในคลินิก 18 แห่งแล้ว

“ผมต้องขอบพระคุณ ส.ส.ที่นำเรื่องนี้ขึ้นมาพูด เมื่อสักครู่ได้ตำหนิไปแล้วว่า เรื่องลักษณะนี้ต้องดำเนินการโดยเร็ว ไม่ใช่คอยแต่จะเรียกเก็บเงิน แต่ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ผมต้องขอบพระคุณจริงๆครับ และขอรับปากว่าจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชนต่อไป” นายอนุทิน กล่าว

2 กรกฎาคม 2563
สำนักข่าวอิศรา

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
ขอเลื่อน วาระ เรื่อง การหาบันไดไต่ลง ไปก่อนนะเพื่อนๆ ปล่อยให้ ค้างเติ่งอยู่นั่นแหละ ถ้า ยัง หาเองไม่เจอ555 เพราะมี เหตุด่วนเหตุร้าย ที่ ทำเอาพลเมือง ตื่นรู้ หูผึ่ง ทันที!!!
เรื่อง มีอยู่ว่า สส ฝ่ายค้าน ได้ทำหน้าที่ ของท่าน ตรวจสอบรัฐบาลและอภิปราย ใน การประชุม พิจารณา งปม ปี64ของสภา ผู้ แทน ราษฏรฯ ความโดยสรุป ว่า"รัฐบาลปล่อยให้มี ขบวนการ งาบ งบ สปสช(30บาท)ปี61
คือ มีคลินิกเอกชน คู่สัญญา กับ สปสช เบิกเงิน จาก สปสช(เงินภาษีพวกเราทุกคน)คลินิก18แห่ง เบิก74ล้านบาท โดยไม่มีการรักษา แถมทุกวันนี้ ยังมีการเปิดคลินิกอย่างลอยนวล

ขณะที่ จนท สปสช ดำเนินการแค่ เรียก เงินคืน ไม่พบว่ามีการดำเนินการเอาผิด ตามกฎหมายบ้านเมือง"
ความเห็นส่วนตัว(my opinion)"เรื่อง นี้ ถ้าเส้นไม่ใหญ่จริงๆ ทำไม่ได้หรอกครับ"
เรื่องนี้ ร้อน ซิ ครับ ถ้า ไม่ร้อน สธ คงไม่เรียก สปสช มาแถลงข่าว หรอก นะครับ ดู รูป มี ตัวละคร(Actors)ที่เกี่ยวข้อง คือ
1.รมวสธ ตำแหน่ง ประธานบอร์ด สปสช และ ผู้บังคับบัญชาของ ปสธ
2.รมชสธ ไม่ได้เป็น บอร์ด สปสช แต่ถูกมอบหมาย ให้ กำกับ ดูแล กรม สบส
3.ปสธ เป็น กรรมการบอร์ด สปสช และ เป็น ผู้บังคับบัญชา อธิบดี กรม สบส(สนับสนุนบริการสาธารณสุข)
4.เลขาธิการ สปสช เป็น ผู้รับผิดชอบ เรื่องนี้โดยตรง เพราะเป็นผู้รับผิดชอบ บริหาร สัญญาฯ
 ในแถลงข่าวฯได้ยอมรับว่าเป็นความจริง ผิดสัญญาฯแน่นอนแต่มันผิดกฎหมายอาญา ด้วยซิครับ เพราะเป็นการโกงเงินหลวง(เงินภาษีพวกเราทุกคน)ตั้ง74ล้าน เข้ากระเป๋า เอกชน(เจ้าของคลินิกทั้ง18แห่ง)หลวงเสียหายมหาศาล ที่ สส ฝ่ายค้านท่าน ทวง  และ ท้วงติง นั่นแหละ ครับ แจ้งตำรวจหรือยัง?แจ้ง ปปชหรือยัง?ช้าทำไม?มีอะไรทำให้หนักใจ หรือเปล่า?
5.อธิบดี กรม สบส น่าสงสารมากที่สุด เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับเรื่อง งาบ ครั้งนี้ แต่มีอำนาจ ปิด สถานบริการฯ(คลินิกฯทั้ง18)ที่ ไม่ปฏิบัติตาม มาตรฐานฯตามที่กฎหมายกำหนด(เรียกว่าเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ดันเอากระดูกมาแขวนคอ ซะอีก ต้องไปทำบุญ ล้างซวยละครับ ก็ ขอให้ถือเสียว่า เพราะดันมีอำนาจ ที่ ผู้มีอำนาจเหนือกว่าอยากให้ใช้ นะ ครับ)เรื่อง ไม่จบ แค่นี้ สส ท่านบอกว่า หลังอภิปราย ท่านจะส่งให้กรรมาธิการ ปปช ของ สส ลงไปดูแลในรายละเอียดซึ่ง ท่านก็อภิปรายละเอียดพอสมควร มี การทำไดอะแกรม
กลไกการทุจริตประกอบ ด้วยนะครับ(เปิดคลิปดูได้นะครับ)ที่สำคัญ อันนี้ แค่สุ่มตรวจในปี61นะครับ

ถ้าตรวจทั้งหมดเกือบ200แห่ง อาจเจอมากกว่านี้ก็เป็นได้สำคัญ มากกว่านั้น ตรวจลงลึก ถึง เจ้าของคลินิก ผู้บริหาร/กรรมการคลินิก อาจเจอตอ อาจเจอรังมดแดง หรืออาจเจอคนกันเอง(อดีต จนท สปสช)เรื่องอาจGo Big นะครับ เพื่อนๆที่สนใจลองอ่านรายละเอียดตามแนบนะครับ
คงได้คำตอบนะครับ ใครต้อง รับผิดชอบ อธิบดี สบส หรือ เลขาธิการ สปสช

#หมออุ๋ยคับ

4กรกฎาคม2563
https://www.facebook.com/wachira.pengjuntr

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
การทุจริตของคลินิกชุมชนอบอุ่น18แห่ง(2) "ใครควรโดน ป อาญา ม.157 ฐาน ละเว้น?"





2กค63 ท่าน สส ฝ่ายค้าน อภิปรายใน สภาฯในวาระ งปม64
รมว สธ (ประธานบอร์ด สปสช)ตอบในสภาฯทันที อ้าง ข้อมูล จาก เจ้าหน้าที่ สปสช แสดงว่า เจ้าหน้าที่ฯรู้มาก่อน แต่อาจจะไม่รายงาน กรรมการ สปสช(บอร์ด)หรือ ประธานฯบอร์ด ก็ แปลก มาก นะครับ เรื่อง ใหญ่ขนาดนี้ ไม่รายงานได้อย่างไร? ให้ฝ่ายค้าน รู้ก่อน นำมาเปิดโปงในสภาก่อนได้อย่างไร?ถ้าเป็นผม(ถ้าเฉยๆนะครับไม่มีโอกาสได้เป็นหรอก)จะเรียกเจ้าหน้าที่เบอร์1(เลขาธิการ สปสช)มาเฉ่งซะหน่อย ตามด้วย เรื่องวินัยฯ เอาซะให้เข็ด(เอาทั้ง ทางการและไม่ทางการว่างั้นเถอะ)ผมพยายาม หาข้อมูลทั้งทางลับ คือ แหล่งข่าว และทางแจ้ง รายงานข่าวที่น่าเชื่อถือ รวมทั้ง เอกสาร ของ สปสช ที่ เปิดเผย เองนั่นแหละครับ

จริง ๆครับ เจ้าหน้าที่ (คงตัวเล็กๆ)ของ สำนักงานฯสปสชเขต13(กทม )พบ ความผิดปกติ นี้ ตั้งแต่ สค62(เป็น งปม ปี61)นะครับ เจ้าหน้าที่(ขอชื่นชม จนท ท่านนี้นะครับ)เขาคงรายงาน ตามลำดับชั้น จากจนท ถึง ผอ ถึง อปสข(กทม)ถึงสำนักงานฯสปสช ใหญ่(เลขาธิการ สปสช)เข้า อนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง(เรื่องนี้ คือ อนุกรรมการพิจารณาหักค่าใช้จ่ายฯ)ในการพิจารณา แล้วมีมติ เมื่อ เมย63นี้เอง

ข้อสังเกต นะครับ จากเจ้าหน้าที่ ที่เจอคน เเรกจน ถึง อนุฯใช้เวลาตั้ง8-9เดือน(เรื่อง ควร เร็ว กลับ ช้านักเชียว)ทางลับ ผมมีแหล่งข่าว ใน อนุฯที่เป็น ผู้แทนวิชาชีพ ทั้งแพทย์และทันตแพทย์ ทุกคน ต่างส่ายหัว ว่า พวกเขาจะเอากันขนาดนี้เลยเหรอ อย่างนี้ วิชาชีพพวกเราก็จะเสียหายมากเลยนะ แบบว่า ปลาฝูงเดียว ตาย จะเน่าเหม็น ทั้ง ฝาย เลยนั่นแหละครับ

แหล่งข่าว ยังบอกอีกว่า มีการเจรจาต่อรองตลอดทาง จากต้นทาง จนถึง ก่อน ลง มติ จนสุดท้าย เจ้าหน้าที่ ที่ เป็น เลขาฯอนุฯจะเสนอเหลือแค่18แห่ง มี เหตุผลว่า"ขอเชือดไก่ให้ลิงดูก่อน"แสดงว่ามีลิงอีกหลายฝูง บางฝูง รับมากกว่า500ล้าน/ปี ฝูงใหญ่ รอ ถูกเชือด อยู่อีกเยอะ เลยนะครับ ถ้า เจ้าหน้าที่ ไม่ไปเปลี่ยนแปลงหรือทำลาย เอกสาร ซะก่อน ยังๆ ยังมีอีก ครับท่าน หลังมีมติ บางข้อ(โดยเฉพาะ ข้อ5)ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จากสำนักฯ(โดยเจ้าหน้าที่)เลยนะครับ มีการต่อรองจากหลายฝ่าย แถมยังมีเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ระดับสูง (เกือบ เบอร์1)ต่อรอง ขอนำเรื่อง เข้าที่ประชุม  ให้ อนุฯกลับมติ ข้อ5แหล่งข่าวของผมบอกว่า เป็นตายยังไงฉันก็ไม่ยอม(สุดยอด ขอ ซูฮก นะครับ)

อีกด้าน เอกสาร สปสช เอง ยังมีการตั้ง งบประมาณและจ่ายเงินให้ คลินิก 18เเห่งที่เปิดตามปกติ เหมือนที่ ท่าน สส ท่านพูด(ดู เอกสาร แนบท้ายนะครับ) เขียนยาวเกินไปละเอาไว้ต่อพรุ่งนี้นะครับ อ้อเกือบลืม ข้อ5คืออะไร?"ดำเนินการแจ้งความตามคดีอาญา"นะครับ(มีแนบ) 3เดือนแล้วยังไม่แจ้งความนะครับ "รอช้าอยู่ใย?"
"ช้าเพื่อใครบางคนรึเปล่า?"
ทั้งหมดนี้ เพื่อนๆ คิดว่า ใครควรโดน ม 157 ครับ
#หมออุ๋ยคับ

5กรกฎาคม2563
https://www.facebook.com/wachira.pengjuntr
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 กรกฎาคม 2020, 14:13:40 โดย story »

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
ธุรกิจคลินิกชุมชนอบอุ่น(3)"อดีตเลขาธิการ สปสชเป็นคู่สัญญากับสปสชเหมาะสมหรือไม่?"













ผมได้ข้อมูลมา3วันแล้วผมนั่งคิดอยู่นาน ว่า เขียนไม่เขียนดี? ผมมี2เหตุผล ที่ผม หนักใจ คือ
1.ผมรู้จัก สนิทสนม กับ คนที่จะเขียนถึงเป็นอย่างดี ประเด็นนี้ คิดตกเมื่อตัดสินใจได้ว่า "ส่วนรวม มาก่อน ส่วนตัว"
2.เขียนแล้วโดน คดีอาญา ม 326ไหม?(มีแนบลองอ่านดูนะครับ)

แต่พออ่าน ม 329ความเห็นโดยสุจริต และ ม 330 คือความจริงก็เบาใจขึ้นระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องเขียนด้วยความระมัดระวังแต่ถ้าผิดพลาดมา เพื่อนๆอย่าลืมไปส่งข้าวส่งน้ำนะครับ

กลับมาเข้าเรื่อง
อดีต เบอร์1 ทำสัญญา กับ ลูกน้องเก่าตนเองเหมาะสมหรือไม่? ลูกน้องเก่า จะคิด และ ปฏิบัติอย่างไร?เช่น
จะ มีความเกรงใจไหม?จะกล้าตรวจเอกสารหรือกิจการอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่?ตรวจพบความผิดปกติจะกล้ารายงานไหม?ความเป็นธรรม ในการแข่งขัน กับ คู่แข่งทั้ง เอกชนและภาครัฐเช่น เป็น การเอาเปรียบ คลินิกฯ อื่นๆ ที่เป็นคู่แข่งหรือไม่?ดูผลประกอบการและการขยายกิจการนะครับ โต เร็วมากมาก มีการขัดกันซึ่งผลประโยชน์บ้างไหม?(Conflict of Interest) โดยเฉพาะ กับ ผู้บริหาร สปสช ปัจจุบัน(ลูกน้องเก่าทั้งนั้น)
การ จัดสรร และ การออกหลักเกณฑ์ฯเอื้อประโยชน์บ้างไหม? (ลองอ่านที่ แนบมามาครับ)

สุดท้ายสำคัญมาก
"Treading Insider"ธุรกิจ ที่ ประธานฯรู้ วงใน ของคู่ค้า โดยเฉพาะ คู่ค้า ที่ เป็น องค์กร ภาครัฐ ไม่ใช่ รู้ เล็กๆน้อยๆ แต่รู้ ใส่ทุกขด เลย เพราะ องค์กรแห่งนั้น(สปสช)ตนเองเคย เป็นผู้บริหารสูงสุด(ฝ่ายประจำ)มาประมาณ8ปี อย่างนี้ เพื่อนๆน่าจะได้คำตอบ แล้ว นะครับ ต้องช่วยกัน เรียกร้องหา "ธรรมาภิบาล"อีกแล้วนะครับ
แต่จะไปเรียกร้อง กับ ใครดี?
#หมออุ๋ยคับ

6 กรกฎาคม 2563
https://www.facebook.com/wachira.pengjuntr

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
การทุจริตในคลิกนิกชุมชนอบอุ่น(4)"ขอผิดพลาดทางนโยบาย หรือ ความมักง่ายในการปฏิบัติ?"


ก่อนอื่น เพื่อนๆ ลองศึกษา กลไกการทำงาน ของ สปสช ก่อนนะครับ จะได้กล่าวหา ถูกว่า ใครต้องรับผิดชอบอะไร อย่างไร?
องค์กร บริหาร สูงสุด ทั้ง การออกนโยบาย หลักเกณฑ์ วิธีการปฏิบัติฯ และ กำกับติดตาม ประเมินผล ทั้ง เชิงนโยบายและ การปฏิบัติ คือ คณะกรรมการหลักฯ เรียกชื่อเล่นว่า บอร์ด สปสช(บอร์ด"Board" นะครับ ไม่ใช่ บอด)การทำงาน โดยปกติประชุมกัน 1ครั้ง/เดือน เบี้ย ประชุม ครั้งละ10,000บาท ยกเว้น ประธานฯจะได้มากกว่า คนอื่น เขา เพิ่มอีก2,000บาท องค์ประกอบ ของ บอร์ด ตามที่มา มี4ส่วน คือ
1.โดยตำแหน่ง มี รมวสธ เป็น ประธานฯ ปลัด สธ เป็น กรรมการ เลขาธิการ สปสช เป็น เลขาฯ นอกนั้น เป็น กก ทั้งหมด คือ
2.ตัวแทน วิชาชีพ ด้าน สุขภาพ เลือกกันเอง
3.ผู้ทรงคุณวุฒิ ตั้ง โดย ครม เสนอโดย รมวสธ
4.ตัวแทน องค์กรเอกชน ฯด้านสุขภาพ เลือกกันเอง ส่วนนี้แหละครับที่เราจะเห็นคนหน้าซำ้ๆ กลุ่มเดิมๆ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน เข้ามาเป็น กรรมการ บอร์ด เพราะ ทำ บล๊อกโหวตได้ง่ายมากๆ(มีเวลาจะเขียนถึง)

เรียกได้ว่า ที่มา ของสมาชิก องค์กรบริหารสูงสุด ที่ ดูแลเงินภาษี ของประชาชน เกือบ 200,000ล้านบาท ต่อ ปี ผ่านกองทุน สปสช. ก็ถูกตั้งคำถามเสียแล้วว่า ที่มา มี "ธรรมาภิบาล"พอเพียงหรือไม่? แล้วที่ไปจะเป็นอย่างไร?

บอร์ด ท่าน งานเยอะรับผิดชอบเยอะ แต่ประชุมกันแค่เดือนละ1ครั้งเวลาไม่พอเพียง (ที่จริง1ครั้งก็ดีแล้ว มากกว่านี้ เปลืองเบี้ยนะครับ)ก็เลยมอบอำนาจให้อนุกรรมการฯ(sub-Board)ทำงานแทน ซึ่งสามารถ ประชุมฯกันได้มากกว่าเดือนละ1ครั้ง(เบี้ยประชุมฯก็เอาเรื่องเหมือนกันนะครับ

เกือบ เท่าๆบอร์ด จะเห็นคนหน้าซำ้ๆ หมุนเวียนมาเป็นอนุกรรมการ บางคนชื่อ เดียว เป็น หลาย อนุฯหมุนเวียนเป็นมานานหลายปี โดย เฉพาะ บางอนุฯที่มีอำนาจ มากๆเช่น อนุการเงินการคลังฯลองเข้าไปดูรายชื่อ ย้อนหลัง10ปีดูซิครับ) อนุกรรมการมีเยอะมาก แต่แบ่งเป็น2ประเภทหลักๆคือ
1.เฉพาะเรื่องเฉพาะประเด็น ที่ เกี่ยวข้อง กับ คลินิกฯมากๆมี3อนุฯคือ
  1.1อนุฯพิจารณค่าใช้จ่ายฯ พิจารณา งปม ให้ไปจ่าย ผลงานชิ้นโบแดงของอนุฯนี้ คือ มติ 18คลินิก(ที่ จนท เสนอ ที่จริงมีมากกว่านั้น แต่ต่อรองยังไม่นำเสนอ"อ่านตอน(1)")6ข้อ นั่นแหละครับ สรุป นอกจาก ไม่ให้จ่าย ข้อ5ยังให้ไปแจ้งความเอาผิดทางอาญาอีกนะครับ(ถึงวันนี้ไปแจ้งความรึยังก็ไม่รู้?)
  1.2อนุฯการเงินการคลังฯพิจารณา หลักเกณฑ์ฯการจัดสรร และการเบิกจ่าย งบประมาณ
  1.3อนุฯยุทธศาสตร์ฯออกนโยบาย แผนฯงานและแผน งปม ทั้งเชิงยุทธศาสตร์5ปี และเชิงปฏิบัติการ รายปี
ในเรื่อง "คลินิกชุมชนอบอุ่น"ผมพยายาม ค้นหา "การประเมินนโยบาย"ว่ามีหรือไม่?ผลของนโยบายสำเร็จอย่างไร?มีโอกาสพัฒนาอย่างไรบ้าง? เพื่อนๆเชื่อไหมครับ "ผมหาไม่เจอ" แล้วจะเรียกว่า "มีธรรมาภิบาล"ได้อย่างไร?

2.อนุฯ เฉพาะพื้นที่ แบ่งเป็นกลุ่มจังหวัด เรียกว่า อปสข 1-13
คือ 12กลุ่มจังหวัด และ กทม หน้าที่หลัก แปลงนโยบายสู่การปฏิบัติ และกำกับติดตามประเมินผลการปฏิบัติ
เช่นกัน ผมพยายาม. ค้นหาวิจัยฯประเมินผลการปฏิบัติ(Implementation Research)เรื่อง "คลินิกชุมชนอบอุ่น" ผมก็หาไม่เจอครับ อย่างนี้จะเรียก"ธรรมาภิบาล"ไหมครับ? หน่วยปฏิบัติฯและการปฏิบัติ ละ เป็นอย่างไร? ถ้าผมเป็น กรรมการ บอร์ด ผมจะตั้ง คำถามกับใครอย่างไร?
ยาวเกินไปละ เพื่อนๆ รอพรุ่งนี้นะครับ แต่ถ้าท่านใดใจร้อน ร้อนใจ ถามตอบ กัน ในเม้นท์ตามบายนะคับ ว่างๆ ผมจะเข้าไปช่วยเมนท์ช่วยตอบด้วยเท่าที่รู้นะคับ
#หมออุ๋ยคับ

7กรกฎาคม2563
https://www.facebook.com/wachira.pengjuntr

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
การทุจริตในคลินิกชุมชนอบอุ่น กทม(5)
"เขาโกงกันอย่างไร?"

เมื่อวาน บอร์ด สปสช มีมติ ในเรื่องนี้แล้วครับ(อ่าน รายละเอียด ในHfocusที่ผมคัดมานะคับ ขอบคุณHfocus
มากนะคับ)ผมมีข้อสังเกต 2ประการ คือ

1.ทำไมเลือก วิธี แจ้งความ กองปราบ กว่าสำนวนจะถึงอัยการและศาล คงใช้เวลา 1-2ปี หรือ มากกว่า?
ทำไมไม่เลือกแต่งทนายความ ทำงานคู่กับทนายแผ่นดิน(อัยการ)ฟ้องศาลเองเลยซึ่ง ใช้เวลาสั้นกว่า?
2.ทำไม?ไม่ตั้ง คณะทำงานอิสระ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคู่สัญญา และไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ศึกษากลไกการโกง เพื่อหาโอกาสปิดช่องโหว่ เพื่อ หาทางป้องกัน ในอนาคต?

ผมขอยกตัวอย่าง บางตอน เขาเริ่มต้นโกงกันเมื่อไหร่อย่างไร? ในฐานะ พลเมืองตื่นรู้ เจ้าของภาษี นะคับ ผมได้ข้อมูลจากเเหล่งข่าว ที่คลุกคลีกับวงการนี้มานาน inboxมาให้ผม ผมปรับปรุงเล็กน้อย โดย เฉพาะ ชื่อ คน และ ชื่อคลินิกฯที่เกี่ยวข้อง เพราะ เขาอาจเสียหาย ถ้า สปสช อยากรู้ ไปสืบสวนสอบสวน เอาเองละกันนะคับ(ยกเว้น มีอะไร มาอุดปากอยู่ พลเมืองตื่นรู้ ก็ต้องช่วยกันกระทุ้งต่อเนื่องต่อไปนะคับ)
"ความเลวร้ายทั้งหมดเริ่มจาก(??ชื่อคน)​ ร่วมกับสปสช​ ร่วมกันKeyโกงเบิกเงิน​ PP.itemized.​ ตั้งแต่ช่วงน้ำท่วม2554 มีจนท.สาธารณสุขที่เคยทำงานที่(?ชื่อบริษัท)ช่วงนั้นเล่าให้ฟังว่า​  ทุกเย็นจะมีตระกร้ามีใบแลปมาให้keyข้อมูลเบิกโดยไม่ทำOPD.card.​ (หลักฐานการตรวจผู้ป่วย) โดยบอกให้ตอบเวลามีคนมาaudit(ตรวจ)ว่าน้ำท่วมเอกสารเสียหายหมด​  keyเบิกผิดปกติ​ น่าจะเดือนละเกือบล้าน​  คลินิกในเครือฯน่าจะทำด้วยต้องตามข้อมูลต่อ​  คลินิกอื่นที่ทำปกติ​  ได้เป็นหลักหมื่นหรือแสนต้นๆ​

เพราะบริบทคนกทม.​ จะไม่ร่วมมือ​ และสปสช เขต13 กทม.ยังออกกฏห้ามทำคัดกรองนอกคลินิก ทำให้คลินิกส่วนใหญ่ได้งบในส่วนนี้น้อยมาก โดยน่าจะซื้อข้อมูลแลปจาก​ (??บริษัทห้องปฏิบัติการ)ซึ่งเป็นบริษัทที่ออกตรวจสุขภาพตามโรงงาน​ รายละ100บาท​  บริษัทนี้เคยมาเสนอขายข้อมูลให้หลายคลินิกหลายที่ซื้อ หลายที่ปฏิเสธ​ แม้จะเดือดร้อนมาก​  ช่วงนี้เป็นช่วงที่ สปสช เขต13 กทม.เปลี่ยนนโยบายPP.itemize
จากเหมาจ่ายเป็นจ่ายตามผลงาน​  เงินจ่ายคลินิกเหล่านี้จะมากกว่าคลินิกที่ทำปกติน่าจะมากถึง10ล้าน/ปี/แห่ง​  สปสชรู้อยู่แล้วเพราะเป็นคนจ่ายเงิน​  แต่ไม่เคยตรวจสอบ​ เกือบ10ปีแล้ว​  เครือข่ายจึงใหญ่โตมาก​  ทั้งคนสปสช,  อนุกรรมการชุดต่างๆ​  ปล่อยผ่านโดยไม่ตรวจสอบ​ ถึงขนาด(??ชื่อคน) คุยว่า คุมเครือข่ายฯ ได้หมด  ทั้งสปสช, อนุกรรมชุดต่างๆ​  สรุปตัวละคร​ที่ สำคัญ คือ
1. สปสช​*******ไม่ทำหน้าที่+  (อาจเป็นผู้ร่วมทุจริตหรือไม่?)
2.(??ชื่อคน).
3. (??ชื่อบริษัท)
โดยเฉพาะ1, 2​ โหมสร้างเครือข่าย​ ฯ เสนอเงิน, หุ้นลมให้ข้าราชการกทม.​ ตอนนี้สำนัก(???) กทม,  ผอ.รพ(หลายแห่ง)ทุกคนน่าเป็นเครือข่ายฯหมด​  ช่วงนี้เริ่มมีการกระจายประชากร​  จึงล็อก​spec.​ให้เครือข่ายฯ
(??ชื่อคน) ร่วมกับหมอในรพ.​  และ(??ชื่อบริษัท)
   กลุ่มเหล่านี้เสนอผลตอบแทนจนข้าราชการดีๆ​  เสียคนหมดเลยน่าเศร้าใจมาก​   มีคลิปหลายชิ้นที่เห็นแล้วรู้เลยว่า​ ผอ.รพ.(หลายแห่ง) บางคนน่าจะไม่คุ้นเคยกับการคอรัปชั่นแบบนี้​   แต่ก็มาเสียคนช่วงนี้​
คิดว่าสปสช​ น่าจะเป็นจำเลยที่2​  ที่ควรจะต้องเปลี่ยนคนออก​ 

คนเหล่านี้เสพติดเงินจำนวนมาก​ มาต่อเนื่องยาวนาน​ คงแก้ไขไม่ได้เแล้วทราบข่าวว่า(??ชื่อบริษัท ​ ยังไปซื้อแลปจากศูนย์ฯ(ชื่อห้องแลป)มา20บาท​  แล้วเอา มาขาย100บาทด้วยตอนหลังเห็นบอกว่าซื้อถูก เอาข้อมูลดิบไปละกัน ผลแลปไปเขียนกันเอาเอง   ขายกันโต้งๆ แบบนี้เลยเเหละ ควรตรวจสอบ ห้อง แลปฯ ต่างๆ ด้วยนะ"
ยังยังมีอีก แหล่งข่าว คงอัดอั้น เเละ คงเห็นการกดขี่กดดัน  ถูกเอาเปรียบจากบาง บริษัทฯบางคนที่ใหญ่โต ไม่ไหว นะคับ ค่อยต่อ พรุ่งนี้ ละกัน นะ เพื่อนๆ

มันกว่านี้อีก เพราะว่าด้วย กลไก ที่ หย่อนยาน ขาดประสิทธิภาพของ สปสช เชิงระบบ ด้วย
แปลก คนทั่วไป รู้ แต่ บอร์ด สปสช ไม่ยักจะรู้ หรือ ว่า???
#หมออุ๋ยคับ

9กรกฎาคม2563
https://www.facebook.com/wachira.pengjuntr

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
การทุจริตในคลินิกชุมชนอบอุ่น(6)"การตั้งกรรมการหมุนเวียนได้คนหน้าเดิม

เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม หรือ ไม่?
เพื่อนๆ ลองอ่าน พรบ ปปช ม.100และ ม 101ในรายละเอียด ดู นะครับ ที่ ผมเขียน ตอนที่(3)อดีต เลขาฯ สปสช เข้าข่าย หรือ ไม่? ถ้าเข้าข่าย ใคร ควรไปร้อง ปปช?ผมว่า สปสช ควรรับผิดชอบนะครับ ถ้าเขาไม่รับผิดชอบ เรา(พลเมืองตื่นรู้)ควรไว้วางใจพวกเขาไหม?หรือ พวกเราควรยื่นเรื่องให้ ปปช เอง?
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งกรรมการฯอนุกรรมการฯหมุนเวียนแต่ได้คนหน้าเดิมซำ้ๆกันต่อเนื่อง เช่น ประธานฯ พชบ
คนที่ 4,5,20เขาคงเก่งมากๆนะครับ เป็น สาระพัด กรรมการฯมาต่อเนื่องยาวนาน ใน สปสช(ดูที่แนบ)

นอกจากนี้ ประธานฯพชบ คนที่5เพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่
ประธานฯ อปสข เขต13(กทม)วาระ2563-2567เพื่อมารับผิดชอบ คลินิกฯ190แห่ง ที่ พวกเรา กำลังช่วยกันตรวจสอบอยู่เราควรไว้วางใจ เขา ไหมครับ?
อปสข เขต13(กทม)มีอำนาจ มากกว่า เขต1-12ทั่วประเทศ ด้วยนะคับ เพราะเขต13สามารถ ออกหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการปฏิบัติ ในการซื้อบริการทั้ง ภาคเอกชนและหน่วยบริการฯภาครัฐ แต่ เขต1-12รับคำสั่ง จาก บอร์ด ใหญ่ว่างั้นเถอะยิ่งทำให้พวกเราระแวงสงสัย ว่า เป็นไปได้ไหม?ที่จะมาดำเนินการชงเอง(ออกกฎ)กินเอง(ทำเอง)ซ่อนเอง(กำกับเอง)หรือมากลบเอง(เรื่องทุจริตที่โผล่ขึ้นมา)
ควร ช่วยกัน ติดตามโดยใกล้ชิด นะครับ
อย่างนี้เรียกว่า
"การขัดกันระหว่างประโยชน์ฯ"หรือไม่? เพื่อนๆช่วยกันแสดงเหตุผล เพื่อ วินิจฉัย ด้วย นะ คับ
หลังจากนี้ ผม ขอหยุด ไปเที่ยว พักผ่อน5วัน นะคับ ยกเว้น มีเหตุด่วนเหตุร้าย จะมาเข้าเวร รายงาน ตัวใหม่นะคับ
#หมออุ๋ยคับ

11กค2563
https://www.facebook.com/wachira.pengjuntr
...................................................