ผู้เขียน หัวข้อ: งานวิจัย และบทความที่อยู่ใต้พรม 1 - ดื่มน้ำดีกว่ากินยาลดไขมัน  (อ่าน 939 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
ดื่มน้ำดีกว่ากินยาลดไขมัน

ในปี 2002 นักวิจัยกลุ่มหนึ่งตีพิมพ์ผลงานที่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณน้ำที่ดื่มต่อวัน กับจำนวนการเสียชีวิตจากโรคหัวใจในสหรัฐอเมริกา ในประชาชน 20,000 คน โดยติดตามผลเป็นระยะเวลา 6 ปี
ผู้วิจัยพบว่า การดื่มน้ำมาก สัมพันธ์กับการเสียชีวิตจากโรคหัวใจน้อยลง คนที่ดื่มน้ำตั้งแต่5แก้วขึ้นไป(ต่อวัน) ลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคหัวใจได้ประมาณครึ่งหนึ่ง(50% )เมื่อเทียบกับคนที่ดื่มน้ำไม่เกิน2แก้วต่อวัน
นั่นหมายความว่า การดื่มน้ำที่มากพอ ลดอัตราตายจากโรคหัวใจได้ดีกว่ายาลดไขมันเสียอีก


เหตุผลสำคัญของการดื่มน้ำที่มากพอ คือ การลดความหนืดของเลือด (Blood viscosity) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงปัจจัยหนึ่งสำหรับโรคหัวใจ เมื่อเลือดหนืดเหนียวจะไหลเวียนได้ไม่ดี เหมือนน้ำหวานที่ข้นจะไหลไม่ดี เส้นเลือดจึงอุดตันได้ง่าย เป็นที่ทราบกันดีในวงการแพทย์ว่า โรคหัวใจมักเป็นช่วงเช้ามืด หรือตอนกลางคืนเพราะไม่ได้ดื่มน้ำ เลือดจึงข้นและหนืด
ที่น่าเป็นห่วง คือ ผู้สูงอายุเพราะระบบการกระตุ้นให้รู้สึกหิวน้ำไม่สามารถทำงานได้ดี ทั้งๆที่ร่างกายขาดน้ำมากแล้ว ก็ยังไม่รู้สึกหิวน้ำเลย เป็นอันตรายต่อสุขภาพจริงๆ ดังนั้นไม่ต้องรอให้หิวน้ำ จิบน้ำบ่อยๆ  รอให้หิวน้ำก็สายเสียแล้ว


สมองคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 80-85% ถ้าร่างกายขาดน้ำจะทำให้สมองทำงานได้ไม่ดี สมาธิ ความจำ การเรียนรู้จะแย่ลง อารมณ์หงุดหงิด แปรปรวน หรือซึมเศร้าได้ บางคนถึงกับปวดหัวเลยทีเดียว
ดื่มน้ำแค่ไหนถือว่ามากพอแล้ว งานวิจัยนี้แนะนำว่ามากกว่า 5 แก้ว สุขบัญญัติแห่งชาติล่าสุดบอกว่ามากกว่า 8 แก้ว ที่สังเกตได้ง่ายๆ คือ สีของปัสสาวะของเราต้องไม่เหลืองเข้ม ขาวใสได้เป็นดี เหลืองจางๆก็น่าจะพอได้
มาดื่มน้ำเป็นยากันดีกว่า

6 พ.ย. 2562
...............................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 พฤศจิกายน 2019, 23:38:55 โดย story »