ผู้เขียน หัวข้อ: "อนุทิน" ลุย "กัญชา" ลั่น สธ.ต้องไม่มีคอขวด ส.ค.นี้เริ่มใช้ใน รพ.  (อ่าน 756 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
"อนุทิน" ลุยนโยบาย "กัญชาเสรีทางการแพทย์" ลั่นส่วนของ สธ.ต้องไม่มีคอขวด สเต็ปแรกลุยใช้ในสถานพยาบาล ชี้ดันเข้าบัญชียาหลักจะเข้าสู่บัตรทองได้ อาจต่อยอดสู่พืชเศรษฐกิจ ย้ำควรใช้ในคนที่ควรใช้ ภายใต้คำแนะนำแพทย์ ส่วนสเต็ปถัดไปค่อยเปิดเสรี สันทนาการเป็นเรื่องแต่ละบ้าน อย่าคิดแค่เรื่องสูบ ยังใช้เป็นอาหาร พืชสมุนไพรได้ แต่ห้ามเอาออกนอกบ้าน ปลัด สธ.เผย ส.ค.นี้ได้ใช้ใน รพ.

วันนี้ (18 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข หลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว ได้เข้าประชุมรับฟังการดำเนินงานจากผู้บริหาร สธ.

นายอนุทิน กล่าวว่า ตนมีโอกาสกลับมาที่ สธ.อีกครั้ง นับเป็นครั้งที่ 5 ตนกับ สธ.ก็เปรียบเสมือนญาติกัน ทั้งนี้ สธ.ถือเป็นกระทรวงที่มีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศไทยและคนไทย ทั้งเรื่องสุขภาพและสังคม เพราะเมื่อคนไทยแข็งแรง เมืองไทยแข็งแรง เศรษฐกิจไทยก็แข็งแรง และเป็นกระทรวงครอบจักรวาลมีส่วนเกี่ยวข้องในทุกๆ เรื่อง จึงมีสโลแกนว่า "ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ร่างกายแข็งแรง" เพราะถ้าเราให้บริการพี่น้องประชาชนที่ดี การรักษามีมาตรฐานมีคุณภาพ คนป่วยน้อยลง ไม่ติดเตียงเยอะขึ้น ลดการพบแพทย์ สังคมก็จะได้ประโยชน์ ค่าใช้จ่ายโดยรวมภาครัฐจะลดลง ทำให้สภาพเศรษฐกิจไทยแข็งแรงขึ้นมา

"ผมและ รมช.สธ.มาเพื่อทำงานร่วมกับทุกคน และพร้อมสนับสนุนทุกภารกิจให้ลุล่วง เป้าหมาย คือ ประโยชน์สูงสุดของประชาชนและแผ่นดิน ประชาชนมีสุขภาพที่ดี รับบริการที่ดี สะดวกสบาย บุคลากรก็ต้องมีความสุขด้วย พวกผมสองคนเป็นผู้แทนราษฎร ขอให้มั่นใจนโยบาย ความคิด ภารกิจต่างๆ ไม่มีอะไรเอื้อประโยชน์ตัวเอง พวกพ้อง หรือคนรู้จัก นอกจากเพื่อประโยชน์ประชาชนที่เป็นคนที่สั่งให้เราเข้ามาทำงานที่นี่ สำหรับการไปตรวจเยี่ยมต่างๆ ขอให้สบายใจ พวกเราสองคนอยู่ง่ายกินง่าย ไม่ต้องเลี้ยงอะไรเยอะ ก๋วยเตี๋ยวชามเดียว ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ โอเลี้ยง ชาดำเย็น ไม่ต้องมีอะไรเป็นพิเศษเลย ท่านพักที่ไหนผมก็พักที่นั่น ไม่รบกวนเงินบำรุงโรงพยาบาลที่ต้องมาเลี้ยง เพราะควรนำไปใช้ในภารกิจอื่นๆ อยากให้ถือเป็นมาตรฐานของการเดินทาง" นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับนโยบายในการทำงาน คงต้องรอนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในช่วงสัปดาห์หน้าก่อน จึงจะหารือกันอีกครั้งในเชิงรายละเอียด แล้วจึงจะขับเคลื่อนเต็มรูปแบบ รวมถึงการแต่งตั้งที่ปรึกษา เลขานุการ คณะกรรมการต่างๆ การมอบหมายงานให้ รมช.สธ. ส่วนตอนนี้ก็ทำงานประจำกันไปก่อน ส่วนการทำงานระหว่างฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำ จะทำแบบบูรณาการร่วมกัน ไม่มีพรรค ไม่มีพวก มีแต่เรื่องบ้านเมือง ความผาสุก ปากท้องที่ดีขึ้นของประชาชน มั่นใจว่าจะทำร่วมกันได้อย่างดี และนโยบายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคของตน ของ รมช.สธ. พรรคร่วมรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ถ้าเป็นประโยชน์ก็พร้อมที่จะช่วยผลักดันทุกเรื่อง

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับการขับเคลื่อนงาน อยากให้เน้นพิเศษ คือ โครงการถวายพระเกียรติ เทิดพระเกียรติต่างๆ ของพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น ระบบหลักประกันสุขภาพคงต้องมาคุยกันในรายละเอียดอีกที อย่างที่ได้ไปหารือกับ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลีทุกอย่างที่รับมานั้นก็ต้องร่อนตะแกรง เอาสิ่งที่ทำให้ได้ก่อน เพราะพวกตนเข้ามาไม่ใช่ว่าทำทุกอย่างได้ เอาที่เป็นหลัก ทำอะไรที่สำเร็จเป็นขั้นเป็นตอน เพราะยังไม่รู้ว่าน้ำมันจะหมดเมื่อไร ขอดูสถานการณ์ทางการเมืองไปสักพักนึงก่อน ส่วนเรื่องแพทย์จบใหม่ ก็จะช่วยผลักดันให้มีการบรรจุแพทย์ที่เพียงพอ โดยเฉพาะโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซึ่งคงต้องไปหาสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ในการขอตำแหน่ง โดยทำให้ประเด็นเรื่องอัตราตำแหน่ง และการรักษาพยาบาลให้ทั่วถึงมาบรรจบกันให้ได้ มีผู้ให้บริการเพียงพอแก่ผู้รับบริการ โดยอะไรที่ทำได้ก็จะทำอะไรที่ อะไรทำไม่ได้ก็จะแก้ไขให้ดีขึ้น

นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนเรื่องระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ที่ผ่านมาตนทำหน้าที่ขนอวัยวะที่จะใช้ในการปลูกถ่าย เหมือนเป้นเดลิเวอรีหรือไลน์แมน แต่หลังเป็นรัฐมนตรีไม่เคยได้ทำ ครั้งสุดท้าย คือ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น หากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) มีเคสก็เรียกตนได้ ไฟลท์แรกจะพา รมช.สธ.และปลัด สธ.ไปด้วย ที่สำคัญคืออยากให้สื่อสารให้ชาวบ้านเข้าใจ ว่าถ้าคนใกล้ชิดเสียชีวิตไปแล้วและอวยัวะยังใช้ได้ อยากให้บริจาคเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ เพราะที่ผ่านมาบางครั้งยังไม่เข้าใจและไม่ยินยอมให้อวัยวะ

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับนโยบายหลัก เรื่องกัญชา ถือว่าได้รับการตอบสนองที่ดี นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของกัญชง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำลังช่วยประสานปลดล็อกกัญชงให้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยเรื่องกัญชงและกัญชาอยากให้จบในสมัยนี้ อยากเดินออกไปด้วยกัญชาและกัญชงเป็นยาที่ประชาชนเข้าถึงได้ เกิดประโยชน์ ซึ่งทำดีๆ อาจเป็นพืชเศรษฐกิจ ที่ช่วยสร้างรายได้ประเทศทางหนึ่ง ช่วยเกษตรกรที่ไม่มีทางเลือกทำมาหากิน ถ้าเร่งรัดให้เป็นบัญชียาหลักของประเทศได้ ก็จะอยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เป็นยาที่สามารถจ่ายได้ ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงได้ภายใต้การแนะนำของแพทย์ ก็มีความมั่นใจว่าจะลดค่าใช้จ่าย ภาระต่างๆ ของรัฐ ให้ผู้รับบริการจริงๆ ได้รับการดูแลอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่าอยากให้กัญชาและกัญชงจบในสมัยนี้ เป้าหมายคืออะไร นายอนุทิน กล่าวว่า ไปให้ไกลที่สุด และจะทำให้เต็มที่ ตรงไหนที่เป็นคอขวด เป็นอุปสรรค ถ้าอยู่ภายในขอบข่ายของ สธ.เอง หลุดแน่นอน ตรงไหนต้องไปขอความร่วมมือหน่วยงานอื่นๆ โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ก็จะประสานไปยัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่ท่าที่หารือ เลขาธิการ ป.ป.ส.ก็พร้อมร่วมมือนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์อย่างเต็มที่ ตามนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ ซึ่งการพัฒนากัญชา การนำพืชกัญชามาใช้เสรีทางการแพทย์ การสร้างนวัตกรรมจากกัญชาอยู่ในวาระเร่งด่วนหน้า 28 ของรัฐบาล

เมื่อถามว่า จะปลดล็อกกัญชงก่อนหรือไม่ เพราะสามารถแก้กฎกระทรวงได้เลย นายอนุทิน กล่าวว่า กัญชงจะเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ และเลขาธิการ อย.เตรียมปลดอยู่แล้ว รอคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ แต่สิ่งที่ต้องการ คือ ปลดแล้วต้องทำได้เลย ไม่ใช่ปลดแล้วมาบอกติดปัญหาอีก ปลดแล้วต้องเปลื้อง เสรีให้ได้เต็มที่ ขอเวลาทำให้จบ ไม่ใช้ทำมาเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดแล้วปฏิบัติไม่ได้

เมื่อถามว่า เสรีหมายถึงนำมาใช้สันทนาการหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องหลัก คือ ทางกาแพทย์ เป็นสเต็ปแรก การใช้ในสถานพยาบาล การค้นคว้าวิจัยทางการแพทย์ ส่วนสันทนาการจะเป็นผลพลอยได้ในสเต็ปต่อไป คือ การให้เข้าถึงส่วนที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ของกัญชา เช่น อสม.ปลูก 6 ต้นในบ้าน ก็เหมือนมีสมุนไพร มีพืชที่ใช้รักษาโรคในบ้านได้ อย่างกัญชาช่วยการเจริญอาหาร สันทนาการอย่าไปคิดว่าเป็นการสูบอย่างเดียว เอามาใช้ต้ม ทำเป็นอาหาร แต่ที่จะไม่เกิดแน่นอน คือ การซื้อขายกันเอง ไม่มีการพกออกนอกเคหะสถาน ต้องควบคุมระดับหนึ่งก่อน ซึ่งเจ้าของบ้านต้องดูเอง เพราะกัญชาอยู่หลังบ้าน จะบอกห้ามใครจะไปดูคนเป็นล้านคน

เมื่อถามถึงราชวิทยาลัยห่วงเรื่องการใช้ในเด็กและผู้ป่วยจิตเวช นายอนุทิน กล่าวว่า ของทุกอย่างมีคุณและโทษ ต้องควบคุมการใช้ อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่ก็ต้องควบคุม ใช้เกินไปไม่ได้ มองเป็นเหมือนยาแก้ปวด ยานอนหลับ ยาแก้เครียด เหมือนสุรา บุหรี่ ก็ต้องควบคุมอย่าให้คนที่ไม่ควรได้ใช้ไปหยิบฉวยอย่างสะดวก หรืออิสระ อย่างไรก็ตาม อย่าไปมองกัญชา กัญชง จากนี้ไปควรเรียกซีบีดี ทีเอชซี ซึ่งซีบีดีเป็นของดี ทีเอชซีก็เป็นของดี แต่ต้องใช้ในกลุ่มเล็กๆ กลุ่มที่ต้องการใช้จริงๆ สำหรับกรณีนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี ที่จะประสานเข้ามาพบ มีการประสานมาแล้ว ก็มอบปลัด สธ.ให้ช่วยดูแล เพราะเป็นหัวหน้าส่วนราชการ เรามอบนโยบาย ปลัดรับนโยบายผู้บริหารและสั่งการต่อไป แต่ตอนนี้รออย่างเดียว คือ รอนโยบาย

"การทำงานทุกอย่างไม่มีเป้า ผลักดันเต็มที่ และแจ้งที่ประชุมไปแล้ว ขอให้พี่น้องข้าราชการ สธ. ช่วยทำงานโดยยึดนโยบายรัฐมนตรีคนปัจจุบันเป็นหลัก ที่ผ่านมาอาจมีอะไรไม่ตรงกัน ไม่มีใครผิดถูก ทุกคนมีความคิดองค์ความรู้แตกต่างกัน แต่วันนี้รัฐมนตรีมี 2 คน ขอให้ใช้นโยบายของทั้ง 2 คนนี้เป็นสำคัญ" นายอนุทิน กล่าว

นายสาธิต กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ตนเข้ามารับตำแหน่งที่กระทรวงสาธารณสุข ส่วนตัวมองว่า กระทรวงนี้เป็นกระทรวงที่มีแต่คนศักยภาพมากที่สุด ดังนั้น ตนซึ่งมาในฐานะตัวแทนของประชาชน จะตั้งใจทำงานหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต สำหรับงานที่ตนอยากจะเห็น มีอยู่ 3 ส่วน คือ 1.การรณรงค์ให้ประชาชนใส่ใจเรื่องของการออกกำลังกาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ลดการเจ็บป่วย ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล 2.การพัฒนาระบบบริการ ลดความแออัดในโรงพยาบาลทุกระดับ และ 3.การใช้เทคโนโลยีเป็นส่วนในการสนับสนุนการให้บริการประชาชน และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในข้อมูลสุขภาพของตัวเอง

"ผมเป็นคนชอบออกกำลังกาย โดยเฉพาะการเตะฟุตบอล ซึ่งคนที่เล่นฟุตบอลมีความหลากหลายในพื้นที่ตัวเอง ดังนั้น ผมจะมาเป้นผู้ช่วยโค้ชในฐานะรัฐมนตรีช่วย ที่จะทำหน้าที่สอดประสานเอาความหลากหลายให้สามารถทำงานร่วมกันได้ เพื่อนไปสู่การทำประตู คือ ประชาชนมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดี และผมจะเป็นผู้นำในการออกกำลังกายและจะชวนนายอนุทินออกกำลังกายให้มากขึ้น แม้นายอนุทินจะเป็นคนที่ออกกำลังกายอยู่แล้วก็ตาม" นายสาธิต กล่าว

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. กล่าวว่า ยินดีต้อนรับนายอนุทิน รมว.สาธารณสุข และนายสาธิต รมช.สาธารณสุข ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนงานด้านสาธารณสุขของไทย ซึ่งนายอนุทินก็ทำงานที่กระทรวงสาธารณสุขมาหลายครั้ง ความรู้สึกจึงเหมือนพี่น้อง และเรายินดีสนับสนุนทุกนโยบาย ทั้งนี้สำหรับสิ่งที่กระทรวงดำเนินการอยู่นี้มีการดำเนินโครงการตามพระราชดำริของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เน้นเรื่องการสืบสาน รักษา ต่อยอด นอกจากนี้ยังเสริมศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ที่มี 1,040,000 คน

สำหรับเรื่องกัญชาทางการแพทย์ได้พัฒนาทั้งในด้านการแพทย์แผนไทย และการแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งภายในเดือนส.ค.นี้ รพ.ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจะมีน้ำมันกัญชาทางการแพทย์ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้ ให้ประชาชนเข้าถึงการใช้น้ำมันกัญชาอย่างถูกต้องและมีมาตรฐาน พัฒนาแพทย์และบุคลากรสาธารณสุขให้มีความรู้ โดยที่ผ่านมามีการจัดอบรมไปหลายรุ่น ขณะที่อย.กำลังวางแผนให้เกิดการนำมาใช้ประโยชน์อย่างถูกต้อง ส่วนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทำเรื่องการพัฒนามาตรฐานและสารสกัดกัญชาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่กัญชาไทยในสังคมโลก

18 ก.ค. 2562 15:10   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
"อนุทิน" หารือร่วม อ.เดชา ได้ข้อสรุป จ่อแก้ระเบียบ สธ. รับรองหมอพื้นบ้าน 3,000 คน รวม อ.เดชา โดยไม่ต้องพิสูจน์คุณสมบัติใหม่ เล็งถอดสารซีบีดีออกจากยาเสพติด พร้อมให้คนไข้ อ.เดชา ไปรับน้ำมันกัญชาสูตรใกล้เคียงใน รพ.ที่ไว้วางใจในช่วงเปลี่ยนผ่าน

ความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ มีมติเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่รับรองตำรับน้ำมันกัญชาสูตรนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี เพราะคุณสมบัติของนายเดชา ยังเป็นหมอพื้นบ้านตามระเบียบกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แต่ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 กำหนดให้เป็นหมอพื้นบ้านตาม พ.ร.บ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2556 โดยให้ไปทำคุณสมบัติให้ถูกต้องก่อน โดยตัวตำรับไม่ได้มีปัญหาหากแก้คุณสมบัติแล้วพร้อมพิจารณาอนุญาตทันที

   
วันนี้ (21 ก.ค.) เวลา 09.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีการหารือเป็นการส่วนตัวร่วมกับนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เกี่ยวกับนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ พร้อมด้วย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดสธ. นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ น.ส.รสนา โตสิตระกูล กรรมการมูลนิธิสุขภาพไทย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ม.รังสิต และ นายยืนยง โอภากุล หรือแอ้ด คาราบาว โดยใช้เวลาในการหารือราว 2 ชั่วโมง

นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือว่า จากการหารือร่วมกันมีทางออก คือ จะมีการแก้ไขระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน ฉบับวันที่10 มิ.ย.2562 เพื่อให้หมอพื้นบ้านที่ผ่านการรับรองตามระเบียบกรมการแพทย์แผนไทยฯ ถือเป็นหมอพื้นบ้านตาม พ.ร.บ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทย โดยอัตโนมัติไม่ต้องมีการตรวจสอบหรือรับรองใหม่โดยให้ดำเนินการทันที เพราะเป็นอำนาจ รมว.สธ.ที่สามารถลงนามแก้ไขระเบียบสธ.ได้ และไม่ก่อให้เกิดปัญหา แต่จะเป็นประโยชน์กับหมอพื้นบ้านอีกราว 3,000 คน รวมถึงนายเดชาที่ได้รับผลกระทบจากระเบียบฯฉบับวันที่ 10 มิ.ย.2562  ทั้งนี้ ได้กำชับในการแก้ระเบียบให้ดูข้อความให้รัดกุม ไม่ให้ถูกโจมตีว่าทำเพื่อประโยชน์ของคนใด กลุ่มใด หลังจากนั้น จะได้หาวิธีการรับรองตำรับยาจากสารซีบีดีที่เป็นสารที่เป็นประโยชน์จากกัญชาหรือกัญชง และผลักดันให้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษกรุณายกเลิกสารซีบีดีออกจากยาเสพติด  ทั้งนี้ หลังนายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วจะดำเนินการเรื่องนี้ทันที

"นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการซึ่งถือเป็นข้อสั่งการแรกมายังกระทรวงสาธารณสุขผ่านเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่าให้เตรียมการชี้แจงการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และรักษาโรคให้ดีและเรียบร้อย"นายอนุทินกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่ที่ฝ่ายค้านเตรียมซักฟอกนโยบายนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า  ไม่หนักใจ เรื่องนี้อยู่ที่ความตั้งใจ สามารถชี้แจงได้อย่างชัดเจนว่าเรื่องนี้ไม่ได้เอื้อประโยชน์ทางธุรกิจ หรือคนใด กลุ่มใด แต่ทำเพื่อส่วนรวมให้ได้ประโยชน์ในทางการแพทย์ เพิ่มรายได้ให้ประเทศ และความอยู่ดีกินดีขึ้นของประชาชน ซึ่งก็จะต้องตอบให้ได้ และเชื่อว่าหากทุกฝ่ายเข้าใจถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นก็จะสนับสนุนนโยบายนี้

นายเดชา กล่าวว่า เรื่องอื่นตนไม่กังวล ที่เป็นห่วง คือ ผู้ป่วยของตนที่มีกว่า 4 หมื่นคน และทยอยเสียชีวิตวันละ 1 คน รวมแล้ว 60 คน เพราะตนยังไม่สามารถแจกน้ำมันกัญชาอย่างถูกกฎหมาย จากการที่ตนยังไม่ถือเป็นหมอพื้นบ้าน ตำรับน้ำมันกัญชายังไม่ได้รับการรับรอง และไม่มีวัตถุดิบมาผลิตทำนำมันกัญชา อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 เดือนนี้ที่ถือเป็นช่วงรอยต่อ ตนจะต้องหยุดแจกน้ำมันกัญชาก่อนเพื่อไม่ให้เป็นการทำผิดกฎหมาย โดยคนไข้ทั้ง 4 หมื่นคนนั้น รมว.สธ.ได้สั่งการให้สธ.รับไปดูแลรักษาตามความสมัครใจของผู้ป่วย เพื่อให้ได้รับน้ำมันกัญชาในสูตรที่ใกล้เคียงกับของตนและในสถานพยาบาลที่ผู้ป่วยไว้วางใจ ทั้งนี้ ตนจะเป็นที่ปรึกษาในการนำคนไข้เข้ารับการรักษา เพื่อให้คนไข้ผ่านช่วงรอยต่อนี้ไปได้ หลังจากนั้นหากตนได้เป็นหมอพื้นบ้าน ตำรับน้ำมันกัญชาผ่านการรับรองแล้ว คนไข้จะเลือกกลับมารักษากับตนอีกก็เป็นสิทธิของผู้ป่วย วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ถูกต้องและดีที่สุดที่ทำได้แล้ว

นพ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ในการแก้ไขระเบียบฯฉบับวันที่ 10 มิ.ย.2562นั้น จะต้องพิจารณาแก้ไขในส่วนของบทเฉพาะกาล โดยอาจจะระบุในลักษณะที่ว่า ให้หมอพื้นบ้านที่ผ่านการรับรองตามระเบียบกรมฯปี 2555 ที่มีอยู่ราว 3,000 คนถือเป็นหมอพื้นบ้านตามระเบียบสธ.นี้ โดยไม่ต้องมีการตรวจพิสูจน์ใหม่ เนื่องจากหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของหมอพื้นบ้านตามระเบียบสธ.นี้ไม่ได้เปลี่ยนจากที่กำหนดไว้ในระเบียบกรมฯ แต่จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง

21 ก.ค. 2562 14:01   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
ไบโอไทย วอน "อนุทิน" เร่งแก้ระเบียบรับรองหมอพื้นบ้าน ขึ้นทะเบียนตำรับยาหมอพื้นบ้าน หนุนปลดล็อกสารซีบีดีจากยาเสพติด จี้พิจารณารอบคอบต่างชาติยื่นสิทธิบัตรกัญชา เข้าร่วม CPTPP หวั่นผูกขาดกัญชาทั้งสายพัธุ์ ยา งานวิจัย

วันนี้ (22 ก.ค.) นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) กล่าวว่า ปัญหาเกี่ยวกับหมอพื้นบ้านตอนนี้มี 3 เรื่อง คือ 1.การรับรองหมอพื้นบ้าน 3,000 ราย รวมทั้งนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สามารถใช้อำนาจแก้ระเบียบ สธ.ว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน ฉบับวันที่ 10 มิ.ย. 2562 ได้ 2.ตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสมเฉพาะรายของหมอพื้นบ้าน ควรเร่งรัดให้มีการรับรองมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงยาได้ และ 3.การปรุงยาของหมอพื้นบ้าน ที่ติดระเบียบ สธ. ว่าด้วยการปรุงยาของหมอพื้นบ้าน โดยไม่สามารถแยกออกเป็นต้น ดอก หรือใบ โดยการปรุงยาต้องมาใช้เครื่องยากลางถึงจะสามารถปรุงตำรับยาได้ รวมถึงระบุให้มีการเติมส่วนผสมบางอย่างลงไปในตำรับ ตรงนี้จะทำให้ผิดสูตรตำรับยาหมอพื้นบ้านเฉพาะราย

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า เรื่องอื่นที่ รมว.สธ.ต้องดำเนินการ คือ 1.การยื่นขอจดสิทธิบัตรกัญชาของต่างชาติ ที่ถูกยกเลิกโดยรัฐบาลชุดที่แล้ว ผ่านมาตรา 44 แต่หากปลดล็อกกัญชาออกจากพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ต่างชาติจะยื่นขอจดสิทธิบัตรได้อีก ขอเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาอย่างรอบคอบ หากรับคำขอก็จะเกิดปัญหาซ้ำ โดยขอให้ รมว.สธ.หารือกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อมีคำขอยื่นสิทธิบัตรกัญชา และให้ รมว.สธ.ร่วมตรวจสอบด้วย 2.การรับรองสิทธิบัตรการรับรองสายพันธุ์กัญชา โดยทีมเศรษฐกิจชุดใหม่มีแนวโน้มจะเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรี CPTPP ซึ่งจะมีการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาท้องถิ่น สมุนไพร ยา วัคซีน ชีววัตถุ โดยข้อตกลงดังกล่าวจะบังคับให้ไทยเข้าร่วมอนุสัญญาคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ (UPOV1991) ทันที ซึ่งจะให้ความคุ้มครองสิทธิต่อนักปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่ แต่ไม่คุ้มครองชุมชนต้นทางของสายพันธุ์ ซึ่งปัจจุบันต่างประเทศได้ปรับปรุงสายพันธุ์กัญชาใหม่ๆ ก็สามารถมายื่นขอคุ้มครอง ทำให้เกิดการผูกขาดสายพันธุ์กัญชา ซึ่งทั่วโลกส่วนใหญ่ได้ขยายพันธุ์มาจากกัญชาไทย ผสมกับสายพันธุ์อื่น และกระทบต่อการค้นคว้า วิจัยและผลิตยาในอนาคต

"สิ่งแรกที่เสนอให้ รมว.สธ.ดำเนินการทันที ภายหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา คือ แก้ระเบียบ สธ.ในเรื่องการรับรองหมอพื้นบ้าน ตำรับยาหมอพื้นบ้าน วัตถุดิบปรุงยา การปลูกกัญชาในครัวเรือนที่มีผู้ป่วย ซึ่งอาจปลูกร่วมกับ รพ.สต. หรือกรมการแพทย์ไทยและการแพทย์ทางเลือก หรือหน่วยงานรัฐ ส่วนเรื่องเข้าร่วมข้อตกลง CPTPP เป็นเรื่องระยะยาว โดยไทยจะต้องไม่ยอมรับข้อตก เพื่อป้องกันการผูกขาด อย่างไรก็ตาม เราไม่สนับสนุนให้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ หรือความบันเทิง" นายวิฑูรย์ กล่าวและว่า ส่วนการปลดล็อกซีบีดีออกจากสารเสพติดสามารถทำได้ สำหรับคำแถลงนโยบายรัฐบาล 12 เรื่องเร่งด่วน ซึ่งในข้อที่ 4 เรื่องการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรรมและนวัตกรรม หน้า 31 ระบุถึงกัญชาเพื่อการแพทย์ไว้กว้างๆ โดยใจความสำคัญให้เร่งศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี การใช้กัญชา กัญชง และพืชสมุนไพรในทางการแพทย์ ภายใต้กฎหมายบัญญัติ ฉะนั้น นโยบายกัญชาภายในครัวเรือน บ้านละไม่เกิน 6 ต้น ตามที่พรรคภูมิใจไทยประกาศหาเสียงไว้กับประชาชนคงทำไม่ได้ภายใต้กฎหมาย แต่ภายใต้อำนาจ รมว.สธ.สามารถออกประกาศผ่อนปรนได้

22 ก.ค. 2562 18:06   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
กรมการแพทย์แผนไทยฯ รับลูก "อนุทิน" เร่งหารือแก้ระเบียบ สธ.รับรองหมอพื้นบ้านใหม่ ลั่นหาวิธีที่เกิดประโยชน์ที่สุด รวดเร็วที่สุด ไม่ให้เป็นภาระหมอพื้นบ้าน ไม่เกิน 1 เดือน อ.เดชา ได้เป็นหมอพื้นบ้านตามระเบียบใหม่

ความคืบหน้ากรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สั่งให้มีการแก้ระเบียบ สธ. ว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน ฉบับวันที่10 มิ.ย. 2562 เพื่อให้หมอพื้นบ้าน 3,000 คน รวมถึงนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ที่เป็นหมอพื้นบ้านตามระเบียบกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นหมอพื้นบ้านตามระเบียบ พ.ร.บ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556 โดยไม่ต้องพิสูจน์คุณสมบัติใหม่

วันนี้ (22 ก.ค.) นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า หลังจากมีข้อสรุปเรื่องดังกล่าวในวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายกฎหมายได้ยกร่างระเบียบฉบับแก้ไขขึ้นมา ซึ่งขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของ สธ.และฝ่ายกฎหมายของกรมการแพทย์แผนไทยฯ กำลังประชุมหารือกันอยู่ว่า จะดำเนินการแก้ไขอย่างไร และวิธีไหนที่จะเกิดประโยชน์ที่สุด และสะดวกรวดเร็วที่สุด ในการรับรองหมอพื้นบ้านจำนวนกว่า 3,000 คน จากที่รับรองโดยระเบียบกรมการแพทย์แผนไทยฯ มาเป็นระเบียบฉบับใหม่นี้ เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่หมอพื้นบ้าน โดยจากนี้ยังต้องมีการหารือให้ได้ข้อสรุปร่วมกันระหว่างกรมการแพทย์แผนไทยฯ สภาการแพทย์แผนไทย แะละในพื้นที่ด้วย

นพ.ปราโมทย์ กล่าวว่า การแก้ไขระเบียบเบื้องต้นน่าจะเป็นการแก้ไขบทเฉพาะกาล เพราะคุณสมบัติของหมอพื้นบ้านตามระเบียบเก่าและระเบียบใหม่ก็แทบไม่ได้แตกต่างกัน เพียงแต่ตามกระบวนการของการรับรองหมอพื้นบ้านตามระเบียบใหม่ จะต้องให้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ไปตั้งคณะกรรมการหมอพื้นบ้านระดับจังหวัด และตรวจพิสูจน์คุณสมบัติของหมอพื้นบ้านแล้วจึงรับรอง ซึ่งเป็นภาระแก่หมอพื้นบ้าน ดังนั้น การแก้ระเบียบรับรองหมอพื้นบ้านฉบับใหม่ก็จะมาหาวิธีที่จะทำให้การรับรองหมอพื้นบ้านเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น โดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่ถึง 1 เดือน เมื่อรับรองเป็นหมอพื้นบ้านตามระเบียบใหม่เรียบร้อย ก็จะสามารถส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษพิจารณาตำรับน้ำมันกัญชาสูตรนายเดชาได้

22 ก.ค. 2562 12:54   โดย: ผู้จัดการออนไลน์