ผู้เขียน หัวข้อ: แพทย์เตือนผู้ป่วยเบาหวาน หากพบอาการบ่งชี้ควรรีบพบแพทย์ทันที  (อ่าน 690 ครั้ง)

patchanok3166

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 288
    • ดูรายละเอียด
                  สถาบันโรคทรวงอก เตือนผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวายเรื้อรัง ตาบอด และโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน อันตรายถึงชีวิตได้ หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการหันมาใส่ใจดูแลตนเอง ชี้หากพบอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า เบาหวานเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของการหลั่งฮอร์โมน์อินซูลิน หรือการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนอินซูลิน หรือร่วมกันทั้ง 2 อย่าง ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถเปลี่ยนน้ำตาลที่ได้รับมาจากอาหารเป็นพลังงาน จนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 126 มก./ดล. อีกทั้งหากป่วยเป็นโรคเบาหวานในระยะเวลานานๆ จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงกว่าปกติ เพราะโรคเบาหวานจะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง หลอดเลือดแดงตีบหรืออุดตัน ในส่วนต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะที่พบบ่อย คือ หัวใจ สมอง ไต ตา เท้า ส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวายเรื้อรัง ตาบอด และโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันอันตรายถึงชีวิตได้
ทั้งนี้ความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานเกิดได้จากหลายปัจจัยได้แก่
                            1.กรรมพันธุ์
                            2.ภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนลงพุง
                            3.มีพฤติกรรมการบริโภคไม่เหมาะสม
                            4.ขาดการออกกำลังกาย
                            5.อายุมากขึ้น
                            6.สตรีที่มีประวัติเบาหวานขณะตั้งครรภ์
                            7.พบผิวหนังสีคล้ำดำเหมือนกำมะหยี่บริเวณลำคอหรือรักแร้
                   ดังนั้น ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการหันมาใส่ใจดูแลตนเอง หากพบอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน พญ.วิพรรณ สังคหะพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคเบาหวาน คือ เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก ตามัว มือเท้า ชา บวม ปัสสาวะบ่อย นอกจากนี้ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ไขมันสูง สูบบุหรี่ ควรตรวจเช็คโรคเบาหวานเช่นกัน เนื่องจากเป็นปัจจัยเสี่ยงร่วมกันที่ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ดังนั้น ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการหันมาใส่ใจดูแลตนเอง โดยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงของหวาน ชา กาแฟ น้ำอัดลม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด รวมทั้งระวังไม่ให้เกิดภาวะติดเชื้อ รับประทานยาหรือฉีดยาตามคำแนะนำของแพทย์ และหมั่นตรวจสุขภาพ ตา ไต หัวใจ เท้า และสมองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานที่จะเกิดในอนาคตต่อไป


เผยแพร่ Tue, 2019-03-05 16:32 โดย -- hfocus