ผู้เขียน หัวข้อ: ล้างผักด้วยน้ำไหล ช่วยล้างพิษได้กว่า 70 เปอร์เซนต์  (อ่าน 628 ครั้ง)

patchanok3166

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 288
    • ดูรายละเอียด
แม้ว่าการรับประทานผักนั้นจะเป็นการดีต่อสุขภาพก็ตามที แต่การพบกับสารพิษปนเปื้อนในผักนั้นก็เป็นสิ่งที่ทำใจได้ยากเช่นกัน เพราะแน่นอนว่าจะส่งผลเสียต่อสุขภาพเป็นแน่แท้ รองศาสตราจารย์ ดร.สมพนธ์ วรรณวิมลรักษ์ แห่งศูนย์วิจัยพัฒนานวัตกรรม คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ก็ได้แนะนำข้อมูลถึงอันตรายของผักเปื้อนสารพิษ รวมถึงคำแนะนำในการล้างสารพิษในผักมานำเสนอกัน


“องค์การอนามัยโลกเขาก็บอกว่าให้กินอย่างน้อยวันละ 4 ขีด 400 กรัม ผักและผลไม้ เพราะว่าถ้าเรากินครบมันมีหลักฐานยืนยันแล้วว่าจะช่วยป้องกันโรคหัวใจ และโรคมะเร็ง แต่อีกมุมหนึ่งผักและผลไม้ที่เราซื้อมากินไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่เราคิด มีการปนเปื้อน เพราะการปนเปื้อนจากสารตกค้างของสารฆ่าแมลงจากเกษตรกรที่เข้าใช้ในการเกษตรกรรม เราก็ไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้นะ ได้ยินข่าวลือเฉยๆ ว่ากะหล่ำปลีเยอะมาก แต่ก็ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ แต่พอเรามาทำเองแล้วเป็นตัวเลขที่น่าวิตกเพราะผักไทยที่เราเจอใน 7 อย่าง ปนเปื้อนในผักไทย 90 ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ต่างประเทศเขายอมรับไม่ได้ 100%”


“ที่ว่าถ้าคุณไปซื้อคะน้าจากตลาดสด หรือซูเปอร์มาร์เกต มันก็มีทั้งหมด ที่เราเก็บเราไม่ได้เก็บแค่ที่เดียว เราเก็บจากหลายจังหวัด แล้วเราก็เก็บทีเป็นร้อยตัวอย่าง ในระยะเวลา 8 ถึง 12 เดือน เพื่อให้ครอบคลุมฤดูกาลด้วย และเพื่อให้เป็นตัวแทนของผักของประชาชนหรือผู้บริโภคได้กินกันอยู่ทุกวัน ยิ่งมีสารเคมีมากเท่าไหร่โอกาสที่เราได้รับอันตรายมันก็ย่อมเยอะขึ้น เพราะฉะนั้น เวลาที่เราตรวจเจออย่างคะน้า พบเจอถึง 12 ชนิด มังคุดเราก็เจอ 20 ชนิด หรือส้มเราเจอ 21 ชนิด และราคาก็ไม่ได้รับประกันว่าจะดีหรือปลอดภัย เพราะตอนแรกเราก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ เราก็ทดลองเก็บผักจากตลาดสดมา แล้วเราก็ไปซื้อผักจากซูเปอร์มาร์เกตมา แล้วก็เขียนว่าผักปลอดสารพิษ ผักปลอดภัย ผักอินทรีย์ แต่ปรากฏว่าเราเจอสารพิษเพียบเลย คุณจ่ายราคาผักสูงมาก 6-7 เท่า แต่คุณได้รับสารฆ่าแมลงมากเท่ากับที่เราเจอในตลาดสดธรรมดา


เราจะทำยังไงให้คนลดความเสี่ยงได้ สิ่งที่เราทำได้ก็คือ ผู้บริโภคจะต้องดูแลตัวเอง การล้างผักมันช่วยลดความเสี่ยง ผมก็เอา 4 วิธีมาใช้ช่วยในการลดความเสี่ยง วิธีแรกที่ใช้กันมากก็คือ ล้างด้วยด่างทับทิม เราพบว่าวิธีนี้ล้างออกได้แค่ 20-30 เปอร์เซ็นต์, วิธีที่ 2 ล้างด้วยน้ำส้มสายชู ล้างออกได้ 30-40 เปอร์เซ็นต์, วิธีที่ 3 ล้างด้วยเบกกิ้งโซดา วิธีนี้ล้างออกได้แค่ 30-40 เปอร์เซ็นต์, วิธีที่ 4 ล้างด้วยวิธีน้ำไหล สามารถล้างสารตกค้างได้ถึง 60-70 เปอร์เซ็นต์”


วิธีล้างผักด้วยวิธีน้ำไหลที่ถูกต้อง ข้อแรก แยกใบออกมาในน้ำและแช่ผัก 10 นาที หลังจากนั้นก็เปิดน้ำให้ไหลตลอด จากนั้นก็นำขึ้นมาถูใบและถูก้าน ประมาณ 2 นาที น้ำจะช่วยกำจัดชะล้างสารเคมีที่อยู่บนผิวผักออกไปได้ ในแง่ของคนกินผักผลไม้ก็ต้องระวัง เพราะเรามีข้อมูลว่ามันปนเปื้อน ฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดก็คือต้องล้างผักและผลไม้ก่อนรับประทาน”


ขอบคุณข้อมูลจาก มหาวิทยาลัยมหิดล

เผยแพร่: 25 ธ.ค. 2561    โดย: ผู้จัดการออนไลน์