ผู้เขียน หัวข้อ: 11 หน่วยงานลงนามทำ “Big Data” สวัสดิการ ปชช. สปสช.หวังดึงข้อมูลพัฒนา “บัตรทอง”  (อ่าน 566 ครั้ง)

patchanok3166

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 288
    • ดูรายละเอียด
สปสช. ร่วมลงนาม 11 หน่วยงานรัฐ หนุนทำ “Big Data” บูรณาการข้อมูลสวัสดิการดูแลประชาชน สร้างความเท่าเทียม วิเคราะห์ ประเมินผล และพัฒนาระบบบัตรทอง ด้านตัวแทนเครือข่ายผู้ป่วยขอบคุณรัฐบาล บัตรทองช่วยให้เข้าถึงการรักษา



นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นหนึ่งในหน่วยงานภาครัฐที่ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในการสนับสนุน “การจัดทำข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อใช้กำหนดและติดตามประเมินผลการจัดสวัสดิการภาครัฐและการนำระบบบริการจัดการข้อมูลแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytic Platform : TPMAP) มาใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ร่วมเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการ



การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ มีเป้าประสงค์เพื่อบูรณาการข้อมูลสวัสดิการของหน่วยงานภาครัฐที่ร่วมลงนามเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลผู้รับสวัสดิการให้เป็นฐานข้อมูลเดียวกัน เพื่อสนับสนุนภาครัฐในบริหารจัดการด้านสวัสดิการภาครัฐเพื่อประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้เข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานที่จำเป็นได้อย่างทั่วถึงและเหมาะสม สร้างความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ และยังเป็นประโยชน์ในการติดตามและประเมินผล รวมถึงการจัดทำนโยบายต่างๆ ขณะเดียวกัน ยังช่วยสนับสนุนการตรวจสอบการดำเนินโครงการต่างๆ ให้เกิดความโปร่งใส


นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า สปสช. เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่บริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นสวัสดิการภาครัฐด้านสุขภาพที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ มีภารกิจสำคัญคือการดำเนินการเพื่อให้ประชาชนกว่า 48 ล้านคนทั่วประเทศ มีหลักประกันสุขภาพรองรับ เข้าถึงบริการรักษาพยาบาลและบริการสาธารณสุข ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในช่วงตลอด 16 ปีที่ผ่านมา มีข้อมูลที่เป็นผลจากการดำเนินงานในระบบมากมาย ทั้งข้อมูลการรักษาพยาบาล ข้อมูลสาธารณสุข ข้อมูลด้านสุขภาพ และข้อมูลด้านงบประมาณในระบบสุขภาพ เป็นต้น ที่ผ่านมา คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ก็บริหารกองทุนโดยนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์อยู่แล้ว สำหรับการลงนามครั้งนี้ นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ข้อมูลต่างๆ ที่ได้เหล่านี้จะถูกนำไปใช้ประโยชน์เพื่อบริหารประเทศ ขณะเดียวกัน สปสช. สามารถร่วมใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ วางแผนและจัดสรรงบประมาณบริหารจัดการระบบ การจัดทำสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อดูแลประชาชน นำไปสู่การพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


“ด้วยความร่วมมือการสนับสนุนจัดทำข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data โดยทุกหน่วยงานภาครัฐที่ลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากเป็นการสนับสนุนนรัฐบาลเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมแล้ว ยังเป็นโอกาสสู่การพัฒนาศักยภาพของแต่ละองค์กรให้รุดหน้า ทันต่อการกระแสการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและสังคมในปัจจุบัน” เลขาธิการ สปสช. กล่าว


ทั้งนี้ ในการลงนามความร่วมมือครั้งนี้ สปสช. ได้ร่วมจัดนิทรรศการ “สร้างสุขทุกช่วงวัย สวัสดิการแห่งรัฐ” โดยนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมผลการดำเนินงานกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกล่าวทักทายตัวแทนเครือข่ายผู้ป่วยล้างไตผ่านช่องท้องและผู้ป่วยลูคีเมีย ที่ได้มากล่าวขอบคุณรัฐบาลที่ได้ดำเนินโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมาอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้เข้าถึงการรักษา พร้อมกันนี้ ยังได้เยี่ยมชมผลงานผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ผลิตจากถุงน้ำยาล้างไต อาทิ ผ้ากันเปื้อน เสื้อกันฝน เป็นต้น เป็นการสร้างมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้และช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ป่วย




เผยแพร่: 24 ธ.ค. 2561   โดย: ผู้จัดการออนไลน์