ผู้เขียน หัวข้อ: แม่ร้อง สธ.เอาผิด รพ.บางบ่อ กังขาปิดสาเหตุการตายลูกสาววัย 3 วัน ขัดแย้งผลนิติเวช  (อ่าน 529 ครั้ง)

patchanok3166

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 288
    • ดูรายละเอียด
แม่บุก สธ. ร้องลูกสาววัย 3 วัน เสียชีวิตคา รพ.บางบ่อ คดีไม่คืบหน้า ชี้ ผลนิติเวชกับสาเหตุลูกตายที่ รพ. แจ้ง ขัดแย้งกัน กังขาปกปิดสาเหตุการตายหรือไม่ หวัง สธ.ช่วยให้ความเป็นธรรม ดำเนินการเอาผิดแพทย์ ผู้บริหาร รพ.


วันนี้ (27 พ.ย.) นายสุวรรณ ผิวขำ และ นางปิยธิดา ผิวขำ ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายภูวนาถ ประคำ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลังแรงงานไทย เดินทางมายังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์และผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางบ่อ จ.สมุทรปราการ ถึง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จากกรณีน้องเดียร์ บุตรสาวเสียชีวิตหลังคลอดเพียง 3 วัน และมีข้อสงสัยสาเหตุการเสียชีวิต โดยมี น.ส.กฤษณา สนองคุณ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือแทน


นางปิยธิดา กล่าวว่า ตนติดใจการเสียชีวิตของลูกสาว ถ้าหากไม่หาสาเหตุก็คงจะติดใจไปชั่วชีวิต จึงต้องไปขุดศพลูกขึ้นมาพิสูจน์อีกครั้งว่า เสียชีวิตจากสาเหตุอะไร เพราะตอนที่คลอดครั้งแรกก็ได้รับแจ้งว่า ลูกอาการปกติดี ไม่มีการติดเชื้อ แต่ขณะที่จะให้นมลูกที่ห้องพักฟื้น พยาบาลมาบอกว่าจะนำลูกของตนไปป้อนนมเองที่ห้องปลอดเชื้อเด็ก แต่สามารถให้ตนเข้าไปดูลูกตัวเองได้ ซึ่งพยาบาลได้แจ้งว่า เด็กในห้องปลอดเชื้อนี้ มีแต่เด็กติดเชื้อ ยกเว้นลูกของตนคนเดียว แต่ภายหลังกลับมาแจ้งว่าลูกของตนติดเชื้อแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งว่าติดเชื้ออะไร จากการสอบถามแพทย์ระบุว่า ติดเชื้อจากการดูดนมแล้วสำลัก ตรวจพบว่า ลำไส้ใหญ่ผิดปกติ ดูดนมแล้วไม่ย่อยทำให้ท้องอืด จึงให้งดนม 3 วัน และให้สารอาหารผ่านทางน้ำเกลือ ซึ่งลูกของตนร้องไห้ตลอดเวลา พยาบาลจึงเอาจุกนมยัดสำลีใส่ปากลูกของตน อย่างไรก็ตาม จากการร่วมดูแลลูกกับพยาบาลตลอด ไม่พบว่า ลูกของตนมีไข้เลย แต่ช่วงที่ตนเหนื่อยอ่อนจากการดูแลลูก เมื่อนอนหลับไป พอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ระยะห่างเพียงชั่วโมงเศษ กลับได้รับแจ้งว่าเสียชีวิตแล้ว



“รพ. ไม่ได้แจ้งอะไรเลย แต่มาแจ้งอีกครั้งวันรุ่งขึ้นว่า ติดเชื้อในลำไส้อย่างรุนแรง แต่ไม่ได้อธิบายอะไรมากกว่านี้ ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายก็นำลูกกลับไปประกอบพิธี แต่เมื่อพูดคุยกันในครอบครัวก็ติดใจ จึงขุดนำร่างลูกมาพิสูจน์อีกครั้ง ซึ่งผลทางนิติเวช ระบุว่า เกิดจากหัวใจล้มเหลว และผลลำไส้เล็ก พบว่า มีสีคล้ำขนาด 5 เซนติเมตร แต่จากการตรวจชิ้นเนื้อ พบว่า ปกติ ซึ่งถือว่าผลขัดแย้งกันอย่างรุนแรง จึงต้องมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมที่ สธ. เนื่องจากไม่อยากให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก เพราะที่ผ่านมา รพ.บางบ่อ ไม่เคยมาชี้แจง หรือแจ้งให้ทราบเลยว่า ลูกเราป่วยเป็นอะไร ไม่ได้ชี้แจงอะไรเลย มีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสและเจตนาปกปิดสาเหตุการตายของลูกสาวหรือไม่ จึงอยากให้ดำเนินการกับบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างถึงที่สุด” นางปิยธิดา กล่าว


นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ทนายความที่ดูแลเรื่องให้นางปิยธิดา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวพนักงานสืบสวนเคยชี้ว่า มีมูล และส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว แต่เกรงว่าจะล่าช้า นอกจากนี้ ยังเคยไปเรียกร้องที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สมุทราปราการ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า จึงต้องมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมที่ สธ. เพิ่มเติม รวมถึงยังติดใจเรื่องวิชาชีพแพทย์ของ ผอ.รพ.บางบ่อ ที่เพิ่งเกษียณ จึงจะไปร้องเรียนที่แพทยสภาอีกครั้งในวันที่ 28 พ.ย. 2561 เวลา 10.00 น. และจะไปร้องที่ ป.ป.ช. และนายกรัฐมนตรีตามลำดับต่อไป




เผยแพร่: 27 พ.ย. 2561   โดย: ผู้จัดการออนไลน์