ผู้เขียน หัวข้อ: ศิริราชเปิดตัวน้องใหม่ “ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก”รองรับผู้ป่วยโซนตะวันตก ลดแออัด  (อ่าน 542 ครั้ง)

patchanok3166

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 288
    • ดูรายละเอียด
ศิริราชอ้าแขนรับ “ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก” เป็นส่วนหนึ่งของ รพ. เข้าพัฒนาวางระบบเป็นหนึ่งเดียวกัน ส่งอาจารย์แพทย์ร่วมบริการ ขยายเป็น รพ. 200 เตียง ในปี 65 รองรับผู้ป่วยฝั่งตะวันตก ลดความแออัด รพ. เป็นพื้นที่สอน นศ.แพทย์โรคพื้นฐานในชุมชน และวิจัยส่งเสริมสุขภาพ


วันนี้ (26 พ.ย.) ที่ รพ.ศิริราช ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงข่าวเปิดตัวศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก เป็นส่วนหนึ่งของศิริราช ว่า ที่ผ่านมา รพ.ศิริราช มีปัญหาผู้เข้ามารับบริการจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นโรคยาก ซับซ้อน บางโรคไม่สามารถหาเตียงให้ได้ และเรามีพื้นที่จำกัดไม่สามารถขยายเพิ่มได้ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการเรียนการสอนนักศึกษาแพทย์ เพราะเราเป็น รพ.ตติยภูมิ รักษาโรคยากซับซ้อน ทำให้ได้เรียนรู้แต่โรคยาก ขาดประสบการณ์การเรียนรู้โรคพื้นฐานที่มักพบในชุมชน และมีปัญหาเรื่องการวิจัยส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ซึ่งต้องมีพื้นที่วิจัยในชุมชน แต่โดยรอบศิริราชเป็นชุมชนเมือง ทั้งที่เมื่อเรียนจบไปจะอยู่พื้นที่ไม่ใช่ชุมชนเมืองเท่าไร


“ทั้งสามโจทย์นี้ไปได้คำตอบที่ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ซึ่งศิริราชมองที่แห่งนี้ไม่น้อยกว่า 5 ปีแล้ว เพราะเป็นพื้นที่น่าศึกษา อยู่กึ่งกลางนครปฐม และ ศิริราช ทันทีที่ ม.มหิดล มีแนวคิดให้ศิริราชเข้าไปดูแลพัฒนาศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก เราจึงตอบรับทันที โดยส่งทีมเข้าไปช่วยวางระบบการบริหารงาน และการให้บริการรักษาประชาชนตั้งช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ทำให้มีระบบดีขึ้น ประชาชนจึงคาดหวังให้ศูนย์การแพทย์ฯ พัฒนาขึ้นไปอีก สภามหาวิทยาลัยมหิดลจึงมีมติให้ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ซึ่งอยู่ภายใต้สำนักงานอธิการบดี ม.มหิดล เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคณะแพทยศาสตร์ศิริราช เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2560 จึงเข้ามาดูแลได้เต็มตัว” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว


ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า การเข้ามาอยู่ใต้ร่มศิริราช เป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้ามาเติมเต็มซึ่งกันและกัน โดยศูนย์การแพทย์ฯ จะช่วยรองรับผู้ป่วยในเขตสุขภาพที่ 5 ประกอบด้วย 8 จังหวัด คือ นครปฐม ราชบุรี กาญจบุรี สุพรรณบุรี เพชรบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และ ประจวบคีรีขันธ์ และเป็นที่การเรียนการสอนนักศึกษาแพทย์ได้เรียนรู้โรคที่ควรศึกษา และการศึกษาวิจัยโรคพื้นฐานในชุมชน โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ขณะที่ศูนย์การแพทย์ก็จะได้รับการพัฒนาศักยภาพมากขึ้น ถือเป็นต้นหล้าใหม่ของศิริราช สำหรับการพัฒนาจะพัฒนาทั้งบุคลากรทางการของศูนย์ และส่งอาจารย์แพทย์ศิริราชเข้าไปรักษาและถ่ายทอดองค์ความรู้ รวมถึงพัฒนาการขยายบริการโดยการสร้างศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกส่วนขยายระยะที่ 2 คาดว่า ภายในปี 2565 จะสามารถเปิดให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ภายในปี 2562 อย่างเร็วคือ พ.ค. หรืออย่างช้าคือ ธ.ค. จะสามารถเปิดให้บริการบางส่วนได้ รวมขยายระยะเวลาในการเปิดเบริการจาก 08.00-20.00 น. 7 วันทำการ เป็นให้บริการ 24 ชั่วโมง


“ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการที่ รพ.ศิริราช โดยเฉพาะผู้ป่วยนอกวันละ 8,000-10,000 คนต่อวัน บางส่วนมาแค่ตรวจสุขภาพและรับยา ซึ่งจริงๆ ไม่จำเป็นต้องเข้ามาที่ศิริราชก็ได้ ตรงนี้จะมีการเชื่อมข้อมูลระหว่างศูนย์แพทย์กาญจนาฯ และศิริราช ทำให้ผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงศูนย์แพทย์กาญจนาฯ สามารถเข้าไปรับบริการที่ศูนย์ฯ แทน จะช่วยลดความแออัดของผู้ป่วยในศิริราชได้ นอกจากนี้ จะเชื่อมโยงระบบส่งต่อกับอีก 5 รพ. คือ รพ.นครปฐม รพ.สามพราน รพ.ราชพิพัฒน์ รพ.เมตตาประชารักษ์ และ รพ.พุทธมณฑล เป็นโมเดลใหม่ในการทำงานร่วมกันระหว่าง รพ. ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และ รพ. สังกัดกระทรวงสาธารณสุข” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว


รศ.นพ.ธีระ กลลดาเรืองไกร ผอ.ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก กล่าวว่า ตั้งแต่ศิริราชเข้ามาช่วยพัฒนาระบบ พบว่า มีคนไข้มารับบริการเพิ่ม 30% อัตราการครองเตียง 90% บางหน่วยมีอัตราการครองเตียงสูงถึง 120% หากยังเป็นนี้จะเกิดความคับคั่ง จึงมีการขยายศูนย์ฯ โดยจะใช้งบก่อสร้างและจัดหาครุภัณฑ์ทั้งหมด 850 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้รับงบจากรัฐบาล 500 ล้านบาท ต้องระดมทุนเอง 350 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการเพิ่มจำนวนเตียงจากปัจจุบันที่มี 60 เตียง เป็น 200 เตียง ห้องผ่าตัดจาก 8 ห้อง เป็น 16 ห้อง และเพิ่มห้องไอซียูเป็น 20 ห้อง หากประชาชนอยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ป่วยสามารถบริจาคได้ที่ “ศิริราชมูลนิธิ กองทุนศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 901-7-00988-8 หรือมูลนิธิศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 280-200 388-2 หรืองานการคลัง ชั้น 4 ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 316-304130-9 หรือสแกนผ่านคิวอาร์โค้ดทางแอปพลิเคชันธนาคาร ซึ่งสามารถนำใบเสร็จรับเงินไปลดหย่อนภาษีได้


เผยแพร่: 26 พ.ย. 2561    โดย: ผู้จัดการออนไลน์