ผู้เขียน หัวข้อ: ไทยมี "วัคซีนเอชพีวี" ไม่พอฉีด เหลือในสต๊อก 1.8 แสนโดส หลัง บ.ยาไม่เข้าร่วมเปิดซ  (อ่าน 551 ครั้ง)

patchanok3166

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 288
    • ดูรายละเอียด
ไทยมี "วัคซีนเอชพีวี" ป้องกันมะเร็งปากมดลูกไม่พอ หลังบริษัทยาไม่เข้าร่วมเปิดซอง เหตุ สปสช.ไม่มีระบบจัดซื้อวัคซีนข้ามปี ส่งผลเหลือในสต๊อกแค่ 1.8 แสนโดส เสนอฉีดเข็มสองให้ นร.หญิงที่ฉีดแล้ว บอร์ด สปสช.สั่งทบทวนข้อมูลก่อนเคาะประชุมครั้งหน้า


นพ.รัฐพล เตรียมวิชานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รายงานความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนเอชพีวี ป้องกันมะเร็งปากมดลูกในนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภายในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ประเทศไทยมีความต้องการวัคซีนเอชพีวีจำนวน 884,103 โดส วัคซีนเข็มแรกมีการจัดหามาแล้ว 449,121 โดส และกระจายไปฉีดให้กับนักเรียนหญิงแล้วจำนวน 269,121 โดส ยังเหลือในสต๊อก 180,000 โดส ส่วน วัคซีนเข็ม 2 ซึ่งมีแผนจัดซื้อจำนวน 449,121 โดส ซึ่งมีการเปิดซองประมูลไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ก.ย. และวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่ไม่มีบริษัทใดเข้าร่วม เนื่องจากติดปัญหาว่า สปสช.ไม่มีระบบการจัดซื้อวัคซีนข้ามปี (Multi Year Contract)


นพ.รัฐพล กล่าวว่า ตอนนี้เท่ากับว่า มีวัคซีนเหลือเท่าที่อยู่ในคลังเท่านั้น ดังนั้นจึงมี 2 ทางเลือกเสนอให้บอร์ด สปสช. พิจารณาคือ 1. กระจายวัคซีนที่เหลือให้กับนักเรียนที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว เพื่อให้ฉีดครบ 2 เข็มตามเกณฑ์ และ 2. กระจายวัคซีนที่เหลือนั้นให้กับนักเรียนหญิงที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อนเพื่อให้มีนักเรียนหญิงได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ครบทุกราย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กรมควบคุมโรค (คร.) ได้ทำหนังสือเข้ามายืนยันว่า ขณะนี้เนื่องจากวัคซีนเอชพีวีขาดจริงๆ จึงเสนอให้กระจายวัคซีนที่เหลือให้กับเด็กหญิงที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมได้รับวัคซีนเข็มแรกครบทุกคน เมื่อจัดหาวัคซีนล็อตใหม่ได้การจะฉีดเข็ม 2 ให้กับทุกคนก็ไม่ใช่เรื่องยาก อีกทั้งยังมีข้อมูลผลการศึกษาในคอสตาริกา และอินเดีย พบว่า เมื่อได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วประสิทธิภาพในการป้องกันโรคต่อไปประมาณ 4-7 ปี


นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า สปสช.จะต้องวางระบบการจัดซื้อวัคซีนข้ามปี และต้องทำทุกวัคซีนที่เราต้องจัดหาด้วย ไม่เฉพาะวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกเท่านั้น ส่วนเรื่องการกระจายวัคซีนที่เหลือในคลังให้กับนักเรียนที่ยังไม่เคยได้รับมาก่อนนั้น เนื่องจากที่ประชุมยังมีข้อห่วงใยว่าผลการศึกษาที่คอสตาริกาและอินเดียที่ยกมานั้นมีความเชื่อมโยงกับบริษัทยาเอกชน ซึ่งเข้าใจว่าในช่วงที่มีการพิจารณานั้น ยังไม่มีข้อมูลขององค์การอนามัยโลกมา แต่วันนี้มีแล้วจึงต้องให้ผู้เกี่ยวข้องกลับไปพิจารณาเรื่องนี้มาเสนออีกครั้งในการประชุมในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ โดยอิงจากคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกด้วย


เผยแพร่: 6 พ.ย. 2561   โดย: ผู้จัดการออนไลน์