ผู้เขียน หัวข้อ: จักษุแพทย์เตือน!! ติดจอมากระวัง “โรคตา”  (อ่าน 756 ครั้ง)

patchanok3166

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 288
    • ดูรายละเอียด

จักษุแพทย์เตือน พบอาการตาแห้งแสบเคืองตา เมื่อยตา ปวดตา ตามัว ขณะใช้คอมพิวเตอร์ แท๊ปเล็ต มือถือ อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคตาที่เกิดจากการติดจอมากเกินไป

นพ.ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ป่วยโรคตาที่มีสาเหตุมาจากการอยู่กับหน้าจอมากเกินไป มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในวัยเด็กและผู้ใหญ่ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดกลุ่มอาการตาไม่สู้แสง โดยจะมีอาการแสบตา ตาแห้ง ปวดตา ซึ่งอาการดังกล่าวจะเกิดขึ้นชั่วคราวเมื่อพักตา อาจช่วยบรรเทาอาการ แต่หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดผลตามมา เช่นกระจกตาอักเสบ กล้ามเนื้อตาล้า ดังนั้น หากเกิดอาการผิดปกติทางตา ควรพบจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องเหมาะสม

พญ.สายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มเติมว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) ในปี 2560 ที่ผ่านมา เป็นผู้ป่วยโรคตาจากความผิดปกติของสายตาและการเพ่งมองถึง 3,844 ราย สาเหตุของการเกิดโรคเหล่านี้ มาจากการใช้สายตาเพ่งมองหน้าจอมากเกินไป แม้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อตาอย่างเฉียบพลัน แต่ทำให้เกิดความไม่สบายตา ระคายเคือง และเป็นปัญหารบกวนการใช้สายตาอยู่เสมอ ทั้งนี้ หากมีปัญหาสายตาควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติและรับการรักษาอย่างทันท่วงที

อย่างไรก็ตาม สามารถถนอมดวงตาได้ด้วยวิธีการดังนี้กระพริบตาให้บ่อยเมื่ออยู่หน้าจอเพื่อป้องกันตาแห้ง หากมีอาการตาแห้งควรใช้น้ำตาเทียม เพื่อลดการระคายเคืองตาควรพักสายตาเป็นระยะทุก 20-30นาที ให้พักจากจอประมาณ 30-60 วินาที โดยการมองออกไปไกลๆหรือหลับตาหากจำเป็นต้องอยู่หน้าจอนานเกิน30นาที ควรพักการทำงานทุก1-2ชั่วโมงประมาณ5-15 นาที ใช้แผ่นกรองแสงจากหน้าจอหรือใส่แว่นกรองแสงปรับแสงหน้าจอให้พอเหมาะไม่สว่างเกินไป และไม่ควรทำงานในที่มืดจัดวางจอให้อยู่ในระยะพอเหมาะที่ตามองสบายไม่ต้องเพ่งโดยเฉลี่ยระยะจากตาถึงจอควรมีระยะ45-50 ซม.รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา ได้แก่ ผักผลไม้ที่มีสีเหลืองส้มอาทิ แครอท ฟักทอง ผักใบเขียว เช่น คะน้า ปวยเล้ง ฯลฯ และดื่มน้ำให้เพียงพอเนื่องจากการดื่มน้ำบ่อยๆจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ดวงตา

เผยแพร่: 4 พ.ย. 2561    โดย: ผู้จัดการออนไลน์