ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กป่วยจาก “นมแม่บริจาค” คนบริจาคมีความผิดด้วย ฐานผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์  (อ่าน 537 ครั้ง)

patchanok3166

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 288
    • ดูรายละเอียด
อย.ชี้ บริจาคนมแม่ ควรทำผ่านธนาคารนมแม่ มีอยู่ 2 แห่งในไทย คือ ศิริราช และ รามาธิบดี ผ่านระบบฆ่าเชื้อตามมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของลูก ย้ำ เด็กได้รับอันตราย หรือเจ็บป่วยจากการดื่มนมแม่ที่บริจาค ถือว่าผู้บริจาคมีความผิดทางกฎหมาย เตือนอย่าหลงเชื่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อวดอ้างสรรพคุณเพิ่มน้ำนม


นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า การบริจาคนมแม่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการดื่มนมแม่ในเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด มีน้ำหนักตัวน้อย และทารกที่มีปัญหาการเจ็บป่วย ซึ่งแม่มีปริมาณน้ำนมไม่เพียงพอ โดยมีการบริหารจัดการในลักษณะของธนาคารนมแม่ ซึ่งปัจจุบันมีธนาคารนมแม่จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารนมแม่ศิริราช และธนาคารนมแม่รามาธิบดี ดำเนินการภายใต้ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ซึ่งได้นำมาตรฐานของคลินิกนมแม่ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย มาจัดทำหลักเกณฑ์และปรับให้สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย สำหรับคุณแม่ที่จะบริจาคน้ำนมจำเป็นต้องได้รับการซักประวัติ และการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ ว่า ไม่เจ็บป่วยหรือติดเชื้อ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพน้ำนมที่บริจาค เมื่อพบว่าผลการตรวจวิเคราะห์ผ่านมาตรฐานแล้วจึงจะจ่ายให้เด็กทารก ในโรงพยาบาลต่อไป


ทั้งนี้ การบริจาคน้ำนมแม่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อจำหน่ายจึงไม่ต้องขออนุญาตกับ อย. แต่อย่างไรก็ตาม อย. มีหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับอาหารที่ปลอดภัย หากพบมีเด็กได้รับอันตราย หรือเจ็บป่วยจากการดื่มนมแม่ที่บริจาคจะถือว่าผู้บริจาคมีความผิดทางกฎหมายกรณีผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


“การส่งเสริมการดื่มนมแม่นั้นเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากนมแม่ เป็นอาหารที่มีประโยชน์สูง สำหรับเด็กปกติสนับสนุนให้เด็กกินนมแม่ตนเอง หากจำเป็นต้องได้รับการบริจาคนมแม่จะต้องได้รับผ่านธนาคารนมแม่ที่มีกระบวนการคัดกรองโรคและฆ่าเชื้อนมที่มีมาตรฐาน เนื่องจากเด็กอาจมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ ส่วนคุณแม่ที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมน้อย หรือมีปัญหาเรื่องการให้นมแม่ สามารถเข้ารับคำปรึกษาได้ที่ คลินิกนมแม่ ที่ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน หรือสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย ไม่ควรซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีการอวดอ้างสรรพคุณเพิ่มน้ำนมมารับประทานเอง เนื่องจากสตรีมีครรภ์และแม่ที่อยู่ในช่วงการให้นมลูกถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องมีความตระหนักและระมัดระวังในการเลือกบริโภคอาหาร เนื่องจากอาหารทุกชนิดที่แม่รับประทานจะมีผลโดยตรงต่อทารกด้วย หากมีความประสงค์จะบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการบริโภค และขอย้ำว่า อย. ไม่เคยอนุญาตการกล่าวอ้างสรรพคุณของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวว่า สามารถช่วยเพิ่มน้ำนมได้” เลขาธิการ อย. กล่าว


เผยแพร่:  16 ต.ค. 2561   โดย: ผู้จัดการออนไลน์