ผู้เขียน หัวข้อ: ปรับแผนช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง ใช้ ฮ.ส่ง รพ.เชียงรายใน 15 นาที ครอบครัวคุย “บิ๊ก  (อ่าน 520 ครั้ง)

patchanok3166

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 288
    • ดูรายละเอียด
สธ.ปรับแผนช่วยเหลือ 13 ชีวิตติด “ถ้ำหลวง” ใหม่ ใช้เฮลิคอปเตอร์ส่งต่อ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ เท่านั้น ใช้เวลาเพียง 15 นาที แทนการใช้ส่งต่อด้วยรถ ห่วงอ่อนแรง อากาศชื้น มีผลต่อทางเดินหายใจ ต้องระวังดวงตาหลังออกจากที่มืด ด้านครอบครัวความเครียดลดลงหลังพูดคุยกับ “บิ๊กตู่”


วันนี้ (1 ก.ค.) นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 1 กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการปรับแผนการช่วยเหลือ 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ใน “ถ้ำหลวง” ใหม่ โดยจะใช้การเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งจะสามารถขนย้ายทั้ง 13 คนได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 15 นาที หากเดินทางโดยรถยนต์ต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมง อีกทั้งขณะนี้จากการประเมินสถานการณ์ เบื้องต้นเชื่อว่า ทั้ง 13 คน น่าจะอ่อนแรง เพราะขาดอาหารและน้ำ หรือหากได้รับก็ไม่เพียงพอ ไม่เต็มที่ เกลือแร่ในร่างกายคงไม่สมดุล แต่หากมีบาดแผลตามร่างกายก็จะทำแผลที่ รพ.สนาม ส่วนเรื่องอากาศการหายใจไม่น่าเป็นห่วง แต่สภาพอากาศที่ชื้น อาจมีผลกับระบบทางเดินหายใจ ส่วนการไม่ได้เจอแสงแดดมาหลายวัน ย่อมมีผลกับสายตา โดยขณะอยู่ในที่มืด ม่านตาจะขยาย ฉะนั้น เมื่อออกมาภายนอกต้องมีการปิดดวงตา เพื่อให้ดวงตาปรับสภาพ


นพ.ธงชัย กล่าวว่า ส่วนเรื่องสภาพจิตใจญาติของทั้ง 13 ชีวิต ขณะนี้ได้รับการดูแลจากทีมแพทย์ อีกทั้งที่ผ่านมา ได้รับรู้การส่งแรงใจจากทุกพื้นที่ของประเทศ ที่ส่งมาให้ ก็มีกำลังใจและมีความหวัง และนายกรัฐมนตรีเองก็ได้มาพูดคุยด้วย ประกอบกับทางทีมแพทย์ก็จำกัดบุคคลที่เข้าไปพูดคุยซักถามก็ช่วยลดความเครียด แต่จะมีผู้ปกครอง 2-3 คนที่ยังคงมีความเครียดมากอยู่


น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า หลังจากที่ครอบครัวนักบอลได้พบกับนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้มีกำลังใจดีขึ้น บรรเทาความวิตกกังวลลงได้มาก สภาวะทางสุขภาพจิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น ยิ้ม หัวเราะได้ นอนหลับพักผ่อนได้ดี สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ถือเป็นช่วงวิกฤตทางใจของญาติเช่นกัน อารมณ์จิตใจจะตึงเครียด ความกังวลห่วงใยยังคงสูงตามระยะเวลาที่รอคอยจะพบกับลูกหลานที่ยังติดอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อร่างกายได้ ปรากฏอาการถี่ขึ้น เช่น อาการปวดศีรษะ ปวดท้อง ท้องเสีย ใจสั่น ภาวะหายใจไม่อิ่ม หงุดหงิด โกรธ โมโหง่าย ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดกิจกรรมผ่อนคลายให้ตามความเหมาะสม เช่น การฝึกสอนการนวดคลายเครียดง่ายๆ ฝึกให้ทำสมาธิ ซึ่งจะช่วยให้จิตใจผ่อนคลายลงได้ดี รวมทั้งการขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ระมัดระวังเรื่องการสัมภาษณ์ครอบครัว เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางจิตใจมากที่สุด


นพ.ธรณินทร์ กองสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ประชาชนทั่วประเทศที่ติดตามผลการค้นหาช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่า 13 คน ของทีมเจ้าหน้าที่ อาสากู้ภัยทุกฝ่าย ซึ่งในวันนี้เป็นวันที่ 8 อาจก่อความเครียดให้ผู้ติดตามได้เช่นกัน ดังนั้น จึงขอแนะนำให้ประชาชนยึดหลัก 6 ประการดังนี้ 1. ให้ตั้งความหวังที่เหมาะสม ควรเผื่อใจไว้สำหรับทุกผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นทั้งบวกและลบ 2. เป็นกำลังใจให้ทีมผู้ปฏิบัติงานทุกคน 3. เลือกติดตามข่าวสารจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือเท่านั้นคือข่าวจากภาครัฐ เพื่อลดความสับสน 4. ดูแลสุขภาพร่างกาย รับประทานอาหาร และนอนหลับให้เพียงพอ เป็นเวลา 5. มีกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ทำงานบ้าน อ่านหนังสือ ฟังเพลง ไม่จดจ่อกับข่าวติดต่อกันเกิน2ชั่วโมง และ 6. ทำสิ่งที่มีประโยชน์ต่อการช่วยเหลือเท่าที่สามารถทำได้ ตามกำลังความสามารถ อาจเป็นด้านการให้ข้อมูลความรู้ หรือสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยีต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์กับการให้ความช่วยเหลือ





1 ก.ค. 2561  โดย: MGR Online