ผู้เขียน หัวข้อ: “ไม่ทานแป้ง” ความเชื่อผิดๆ ของคนอยากลดความอ้วน  (อ่าน 663 ครั้ง)

patchanok3166

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 288
    • ดูรายละเอียด
 “ไม่กินข้าวนะ กำลังไดเอตอยู่” ประโยคนี้คุ้นๆ ไหมคะ คุณอาจจะเป็นคนพูดเอง หรืออาจจะได้ยินคนใกล้ตัวพูดกันอยู่บ่อยๆ ไม่กินข้าวในที่นี้ เป็นไปได้ทั้งการ “ไม่กินข้าว แต่กินเกาเหลา สุกี้ ยำ ส้มตำ ฯลฯ” ไปจนถึง “งดมื้ออาหาร” ไปเลย บางคนทำแล้วได้ผล แต่บางคนก็อาจจะไม่ได้โชคดีเสมอไป หากไม่ทานแป้งเลยจะมีผลเสียต่อร่างกายอย่างไรบ้าง Sanook! Health มีคำตอบค่ะ

 

แป้งนั้น สำคัญไฉน?

แป้ง หรือคาร์โบไฮเดรต เป็นหนึ่งในอาหาร 5 หมู่ที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน โดยคาร์โบไฮเดรตเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะแปลงเป็นน้ำตาลกลูโคส มีหน้าที่คอยให้พลังงานแก่ร่างกาย ไม่ว่าจะทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม ยืน เดิน วิ่ง ทำงาน ออกกำลังกาย ทุกกิจกรรมล้วนแล้วแต่ต้องการพลังงานทั้งสิ้น ดังนั้นหากร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพอ อาจทำให้เราขาดพลังงานในการทำกิจกรรมดังกล่าว ไม่เรี่ยวแรง สมองไม่แล่น เหนื่อยง่าย หรืออาจถึงขั้นโหยหิว มือสั่น อยากทานอะไรหวานๆ อาการคุ้นๆ ไหม ใครที่หักดิบอดข้าวไปสักพักหลายคน อาจเคยมีอาการคล้ายๆ กันนี้มาแล้ว

 

อันตรายจากการขาดคาร์โบไฮเดรต

หากเราไม่ทานแป้ง หรือน้ำตาลเลย อะไรจะเกิดขึ้น? แน่นอนว่าอันดับแรกคือ ร่างกายจะไม่มีเรี่ยวแรงในการทำกิจกรรมต่างๆ ขาดพลังงานในการดำรงชีวิต ร่างกายอาจพยายามหาแหล่งพลังงานมาเผาผลาญแทนคาร์โบไฮเดรต โดยการดึงไขมัน และโปรตีนมาเผาผลาญแทน แต่ในเมื่อไขมัน และโปรตีนเป็นตัวที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ สร้างความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง หากโดนดึงมาเผาผลาญพลังงานแทนคาร์โบไฮเดรตอยู่เรื่อยๆ กล้ามเนื้อก็อาจจะลีบแบน ร่างกายซูบผอม ผิวหนังเหี่ยวย่น

นอกจากนี้ เมื่อร่างกายขาดสารอาหารที่สำคัญไป ระบบการทำงานภายในก็จะเริ่มแปรปรวน ภูมิคุ้มกันเริ่มบกพร่อง ตับไตกระเพาะอาหารเริ่มทำงานผิดปกติ รวมไปถึงระบบโลหิต ต่อมน้ำเหลือง และอื่นๆ จึงอาจเป็นช่วงอันตรายที่หลายโรครุมเร้าได้ง่าย เพราะร่างกายจะอ่อนแอ เชื้อแบคทีเรีย และไวรัสอาจเข้ามาก่อโรคให้เราได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

ทานแป้งเท่าไรต่อวัน ถึงจะพอดี?

สำหรับใครที่ยังอยากลดความอ้วน ลดน้ำหนัก อย่างปลอดภัย ไร้โรค ยังคงต้องจำกัดปริมาณในการทานแป้งนั่นแหละถูกแล้ว แต่ไม่ควรงดทานเลย 100% ควรทานให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เลืออกทานคาร์โบไฮเดรตที่ดีมีคุณภาพ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ดี มีประโยชน์ และไม่มากเกินไปจนเหลือไปสะสมเป็นชั้นไขมันหนาๆ ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

คาร์โบไฮเดรตที่แนะนำ คือ ข้าวที่ไม่ได้รับการขัดสี หรือขัดสีน้อย เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ขนมปังที่ไม่ฟอกขาว เช่น ขนมปังโฮลวีท รวมไปถึงผักผลไม้ที่มีรสหวานน้อย กากใยอาหารเยอะ อย่างมันเทศ ข้าวโพด ก็ยังทานได้ และดีต่อร่างกาย แต่ควรควบคุมปริมาณไม่ให้มากจนเกินความจำเป็นต่อร่างกาย

คิดง่ายๆ คือใน 1 มื้อ ทานได้ 1 กำปั้นมือ ทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ มื้อเย็นจะลดแป้งลงอีกสักนิด และเพิ่มเนื้อสัตว์ และผักผลไม้เข้ามาแทนก็ได้ แต่อย่าถึงกับงดทานแป้ง และน้ำตาลโดยสิ้นเชิง

แต่ถ้าต้องการที่จะลดปริมาณของคาร์โบไฮเดรตที่น่าจะส่งผลดีต่อร่างกาย คือ การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินไป โดยเราไม่ควรบริโภคเกินวันละ 6 ช้อน เพราะร่างกายจะนำน้ำตาลไปใช้ไม่ทัน ทำให้เกิดการสะสมไขมันในตับ ทำให้ตับอักเสบ และเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดตับแข็งได้ รวมทั้ง น้ำตาลที่เกินจะกลายเป็นไขมันที่สะสมอยู่ตามพุงของเรานั่นเอง

สิ่งสำคัญที่คนอยากผอมมักมองข้าม คือนอกจากการควบคุมปริมาณอาหารที่ทานในแต่ละวันแล้ว เราควรเผาผลาญพลังงานที่มีอยู่ออกไปด้วยการออกกำลังกาย ดังนั้นหากต้องออกกำลังกาย ร่างกายของเราจึงจำเป็นต้องมีพลังงานเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินด้วย ใครทำได้ตามนี้ รับรองว่านอกจากจะได้รูปร่างดีๆ กลับไปแล้ว ยังได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไร้โรคภัยเป็นของแถมไปด้วยแน่นอน


08 เม.ย. 61 sanook.com