ผู้เขียน หัวข้อ: มะยงชิด สรรพคุณไม่น้อยหน้า เป็นผลไม้ทรงคุณค่าในฤดูร้อน  (อ่าน 689 ครั้ง)

patchanok3166

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 288
    • ดูรายละเอียด
 มะยงชิด ผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารล้นเหลือ สารต้านอนุมูลอิสระก็มีไม่น้อย แถมรสชาติอร่อยจนต่อให้มะยงชิดราคาแรงก็ต้องยอม เพราะ 1 ปีมะยงชิดจะออกผลให้ได้ลิ้มรสสัก 1 ครั้ง !

          เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ เราก็จะเริ่มเห็นผลไม้หน้าร้อนกันมากขึ้น และที่หลายคนนึกถึงมากที่สุดก็น่าจะเป็นมะยงชิด หรือมะปรางลูกเท่าไข่ไก่ รสหวานอมเปรี้ยว กินสด ๆ ก็อร่อย หรือจะนำมะยงชิดไปทำเป็นขนมหวานก็ได้ฟีลชื่นใจไปอีกแบบ และเนื่องจากช่วงนี้เป็นหน้ามะยงชิดจะออกผล วันนี้กระปุกดอทคอมเลยนำสรรพคุณของมะยงชิดมานำเสนอ มาดูกันค่ะว่า คุณค่าทางโภชนาการของมะยงชิดมีดีต่อสุขภาพของเรายังไง


มะยงชิด ผลไม้รสออกหวาน ดาวเด่นในหน้าร้อน

          มะยงชิดจัดเป็นผลไม้ในตระกูลเดียวกับมะปราง หรือเป็นมะปรางอีกชนิดหนึ่ง ทำให้ลักษณะผลของมะยงชิดจะคล้ายคลึงกับมะปรางมาก โดยผลมะยงชิดมีทั้งผลขนาดเล็ก ขนาดปานกลาง และขนาดใหญ่ ตามลักษณะของสายพันธุ์ที่แตกต่างกันออกไป ส่วนรสชาติของมะยงชิดผลดิบจะออกเปรี้ยว ถ้าผลสุกจะให้รสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย หรือบางพันธุ์อาจมีรสหวานน้อย เปรี้ยวมากก็เป็นได้

มะยงชิด นครนายก ของดีเลื่องชื่อ

          จังหวัดนครนายกเป็นแหล่งปลูกมะยงชิดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ที่สำคัญมะยงชิดของนครนายกยังเลื่องชื่อตรงที่มะยงชิดที่นี่ให้ผลใหญ่ มีรสหวาน เนื้อหนา เมล็ดเล็ก โดยมะยงชิด นครนายกจะมีสายพันธุ์เด่น ๆ เช่น มะยงชิดพันธุ์ทูลเกล้า มะยงชิดพันธุ์บางขุนนท์ และมะยงชิดพันธุ์ท่าด่าน ซึ่งจัดเป็นพันธุ์มะยงชิดที่ให้ผลดก ผลใหญ่ เปลือกหนากรอบ เมล็ดเล็ก และมีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อยทั้งนั้น มะยงชิดของจังหวัดนครนายกจึงเป็นที่นิยมมากนั่นเองค่ะ

          ทั้งนี้มะยงชิดยังมีชื่อเรียกตามแต่รสชาติด้วย โดยถ้ามีรสหวานมากกว่าเปรี้ยวจะเรียกว่า มะยงชิด แต่หากมีรสชาติเปรี้ยวมากกว่าหวานจะเรียกว่า มะยงห่าง ซึ่งในส่วนของรสชาตินั้นก็อย่างที่บอกค่ะว่าเป็นไปตามความแตกต่างของแต่ละสายพันธุ์ ส่วนแหล่งปลูกมะยงชิดในบ้านเราจะมีอยู่ที่นครนายก สุโขทัย ปราจีนบุรี เพชรบูรณ์ และกำแพงเพชร

มะยงชิด มะปราง ความแตกต่างที่สังเกตได้

          แม้มะยงชิดจะเป็นมะปรางชนิดหนึ่ง ทว่าความแตกต่างของมะยงชิดกับมะปรางก็มีข้อสังเกตให้แยกมะยงชิดกับมะปรางได้ดังนี้ค่ะ

          - เนื้อมะยงชิดจะมีรสหวาน ส่วนเปลือกมะยงชิดจะมีรสเปรี้ยว ส่วนมะปรางจะมีรสชาติเปรี้ยวอมหวานทั้งเปลือกและเนื้อใน

          - ผลมะยงชิดมีสีเหลืองออกส้ม ส่วนผลมะปรางจะมีสีเหลืองนวล หรือเหลืองออกทอง

          - รสชาติของมะยงชิดจะออกหวานเด่นกว่าเปรี้ยว แต่มะปรางจะมีรสเปรี้ยวนำหวานมากกว่า

คุณค่าทางโภชนาการของมะยงชิด

          ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย แสดงคุณค่าทางโภชนาการของมะยงชิดปริมาณ 100 กรัม หรือมะยงชิดประมาณ 3-4 ผล ดังนี้

          - พลังงาน 62 กิโลแคลอรี

          - น้ำ 85 กรัม

          - โปรตีน 0.5 กรัม

          - ไขมัน 0.3 กรัม

          - คาร์โบไฮเดรต 14.2 กรัม

          - ใยอาหาร 1.6 กรัม

          - เถ้า 0.3 กรัม

          - โซเดียม 2 มิลลิกรัม

          - โพแทสเซียม 137 มิลลิกรัม

          - แมกนีเซียม 6 มิลลิกรัม

          - แคลเซียม 1 มิลลิกรัม

          - ฟอสฟอรัส 13 มิลลิกรัม

          - เหล็ก 0.28 มิลลิกรัม

          - สังกะสี 0.10 มิลลิกรัม

          - ไอโอดีน 1.8 ไมโครกรัม

          - เบต้าแคโรทีน 207 ไมโครกรัม

          - วิตามินซี 25 มิลลิกรัม

          - น้ำตาล 13 กรัม

มะยงชิด สรรพคุณดีต่อสุขภาพไม่น้อย

          นอกจากรสชาติมะยงชิดจะหวานอร่อยแล้ว  สรรพคุณของมะยงชิดก็ดีต่อสุขภาพของเราไม่น้อย โดยเราจะไล่เลียงประโยชน์ของมะยงชิดต่อสุขภาพให้เห็นชัด ๆ ตามนี้

1. ต้านอนุมูลอิสระ

          มะยงชิดปริมาณ 100 กรัม หรือราว ๆ 3-4 ผล มีเบต้าแคโรทีนอยู่มากถึง 207 ไมโครกรัม ซึ่งเบต้าแคโรทีนก็จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดที่ได้จากผัก-ผลไม้ที่มีสีส้ม สีเหลือง มะยงชิดจึงมีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระในตัวเอง อีกทั้งเบต้าแคโรทีนที่อยู่ในผลมะยงชิด ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงด้วยนะคะ

2. บำรุงสายตา

          เบต้าแคโรทีนเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ กล่าวคือ เมื่อร่างกายได้รับเบต้าแคโรทีนเข้าไป ร่างกายจะเปลี่ยนเบต้าเคโรทีนเป็นวิตามินเอให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และสรรพคุณของวิตามินเอก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า มีคุณสมบัติช่วยบำรุงสายตา ดังนั้นมะยงชิดที่มีสารตั้งต้นของวิตามินเออยู่จำนวนไม่น้อย จึงมีสรรพคุณช่วยบำรุงสายตาของเราไปด้วยนั่นเอง

3. ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน

          ในผลมะยงชิดมีวิตามินซีอยู่ด้วยนะคะ และวิตามินซีก็มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการเกิดเลือดออกตามไรฟัน อีกทั้งวิตามินซียังมีส่วนช่วยบำรุงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ไม่เจ็บป่วยง่าย โดยเฉพาะโรคหวัดต่าง ๆ

4. เติมความสดชื่นให้ร่างกาย

          มะยงชิดเป็นผลไม้ที่มีเนื้อเยอะ ฉ่ำน้ำ มีรสหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ กินแล้วช่วยเติมความสดชื่นให้ร่างกายได้อย่างทันทีเลยล่ะค่ะ

5. ช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูก

          สรรพคุณด้านนี้ต้องยกผลประโยชน์ให้แคลเซียมและฟอสฟอรัสในผลมะยงชิดเลยค่ะ เพราะทั้งแคลเซียมและฟอสฟอรัสเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อกระดูกมาก ๆ มีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง พร้อมกันนั้นก็ช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน และโรคกระดูกเสื่อม

          นอกจากความอร่อยแล้ว มะยงชิดยังมีสรรพคุณไม่น้อยเลยนะคะ จัดว่าเป็นผลไม้ที่ควรค่าแก่การรับประทานจริง ๆ



06 เม.ย 61  ขอขอบคุณข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย