ผู้เขียน หัวข้อ: เครือข่ายเอดส์ จี้ สธ.ย้าย “หมอสมาน” เหตุไม่หนุนมาตรการแจกเข็มฉีดยา  (อ่าน 612 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
เครือข่ายเอดส์ จี้ สธ. ย้าย “หมอสมาน” จาก ผอ.สำนักโรคเอดส์ เหตุไม่หนุนมาตรการแจกเข็มฉีดยา เพราะกลัวขัด กม. หนุนการเสพ ชี้อยู่ระหว่างแก้กฎหมายปลดล็อก

วันนี้ (8 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ แห่งประเทศไทย น.ส.สุภัทรา นาคะผิว ผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ พร้อมด้วย ผู้แทนภาคประชาสังคมที่ทำงานด้านเอดส์และยาเสพติด เดินทางมายื่นหนังสือต่อผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อทวงถามจุดยืนในการทำงานลดอันตรายการใช้สารเสพติดของ สธ. โดยเฉพาะการให้เข็มและอุปกรณ์สะอาดเพื่อลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ รวมถึงให้พิจารณาหาคนที่เหมาะสมมารับผิดชอบงานดังกล่าว แทน นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักโรคเอดส์ วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดย มีนพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) เป็นผู้รับหนังสือ

นายอภิวัฒน์ กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯ กังวลถึงจุดยืนการทำงานของ สธ. เพราะหลังจาก นพ.สมาน มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักโรคเอดส์ฯ ก็ดูเหมือนว่าทำผิดภารกิจ เนื่องจากต้องเน้นการให้บริการและการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค แต่ประเด็นในการทำงานลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด โดยเฉพาะการให้เข็มและอุปกรณ์สะอาดเพื่อลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ กลับไม่ได้ถูกให้ความสนใจ โดย นพ.สมาน กังวลแต่ว่า จะขัดต่อกฎหมายว่าจะเป็นการสนับสนุนผู้เสพยาหรือไม่ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะเรื่องกฎหมายก็ให้นักกฎหมาย ซึ่งอยู่ในกระบวนการอยู่แล้ว แต่ นพ.สมาน ต้องทำตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง โดยผู้เสพยาฯ เป็นผู้ป่วยคนหนึ่งที่ต้องบำบัดรักษา แต่ระหว่างนั้นก็มีความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีจากการใช้เข็มร่วมกัน ดังนั้น จึงต้องมีการแจกเข็มฉีดยาในบางกรณี ซึ่งมาตรการแจกเข็มฉีดยาถือเป็นหนึ่งในหลายมาตรการ ไม่ใช่ว่าจะมุ่งเรื่องนี้อย่างเดียว

น.ส.สุภัทรา กล่าวว่า ในเรื่องกฎหมายที่กังวลว่า หากแจกเข็มฉีดยาจะเป็นการสนับสนุนผู้เสพยานั้น จริงๆไม่ใช่ เพราะขณะนี้มีการปรับปรุงร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งทางเครือข่ายฯได้ยื่นหนังสือขอปรับปรุงกฎหมาย โดยขอให้บรรจุเรื่องมาตรการลดอันตรายและผลกระทบต่อสุขภาพ สรุปคือ กฎหมายก็อยู่ในขั้นตอน ซึ่ง นพ.สมาน ไม่ต้องไปกังวล แต่เพราะทัศนคติ การคิดที่แตกต่างทำให้เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ตนมองว่า เมื่อสมัย นพ.สมาน ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำงานและเชี่ยวชาญกว่ามาอยู่สำนักนี้ หากเป็นไปได้อยากขอให้ย้าย นพ.สมาน กลับไปสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น่าจะดีที่สุด

นพ.ภาณุมาศ กล่าวว่า จะรับเรื่องดังกล่าวเสนอต่อผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเพื่อพิจารณา เพราะการเสนอย้าย นพ.สมาน นั้น คงตอบอะไรไม่ได้ ขอให้เป็นหน้าที่ผู้บริหารพิจารณาดีกว่า

8 มี.ค. 2561 โดย: MGR Online

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
“หมอสมาน” แจงมาตรการแจกเข็มฉีดยาลดติดเชื้อเอชไอวี ต้องรอปลดล็อกแก้ กม. ยาเสพติดก่อน เหตุกฤษฎีกาชี้มีความผิดฐานอำนวยความสะดวก ทำได้แค่แนะให้ใช้เข็มสะอาด ไม่ใช้เข็มร่วมกัน พ่วงใช้ถุงยางอนามัย ยาเพร็พ ในกลุ่มคนเสพเพื่อมีเซ็กซ์ ย้ำมาตรการแจกเข็มสังคมต้องยอมรับได้ก่อน เป้าหมายต้องชัดให้เฉพาะคนบำบัดแต่ยังเลิกไม่ได้ และต้องไม่ขัดกฎหมาย

นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการกฤษฎีกาท้วงติงมาตรการแจกเข็มฉีดยาในการลดการติดเชื้อเอชไอวี ว่า เรื่องนี้ขอยืนยันก่อนว่าไม่ใช่มาตรการส่งเสริมการเสพยาเสพติด สิ่งสำคัญคือเรื่องนี้เป้าหมายต้องชัดเจน คือ คนที่อยู่ในขั้นตอนของการบำบัดรักษา แต่เลิกอย่างเด็ดขาดไม่ได้ นอกจากนี้ การดำเนินการต้องเคารพและไม่ขัดต่อกฎหมาย ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาก็ท้วงติง ว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เนื่องจากผู้ใช้ยาเสพติดถือว่ากระทำผิดกฎหมายอยู่ ขณะที่หน่วยงานที่ดำเนินการแจกเข็ม ถือเป็นผู้สนับสนุนหรืออำนวยความสะดวก ทั้งที่ทราบเจตนาว่านำไปใช้เสพยา ตรงนี้ก็ถือว่าร่วมคิดร่วมทำก็ถือว่ามีความผิดด้วย จึงต้องรอการปรับแก้กฎหมายยาเสพติดใหม่เสียก่อน เพื่อปลดล็อกเรื่องดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ป.ป.ส.) แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือต้องปรับทัศนคติของคนในสังคมด้วยว่า สามารถยอมรับกับเรื่องนี้ได้หรือไม่

“สิ่งที่หน่วยงานสาธารณสุขและเครือข่ายดำเนินการได้ขณะนี้ คือ การแนะนำผู้อยู่ระหว่างการบำบัดรักษา ว่า อย่าใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น เพื่อลดการติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากการซื้อเข็มฉีดยาถือเป็นเรื่องถูกกฎหมายและราคาไม่แพง อยู่ที่ประมาณ 5 - 10 บาท ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะต่อให้มีการแจกเข็มฉีดยา แต่ไม่ได้แนะนำเรื่องนี้ยังคงใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น ก็จะไม่สามารถลดการติดเชื้อเอชไอวีลงได้ โดยปัจจุบันการติดเชื้อทางเอชไอวีรายใหม่ของประเทศไทยนั้น มาจากเข็มฉีดยามีประมาณ 4% เท่านั้น อีก 96% ยังมาจากการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์” นพ.สมาน กล่าว

นพ.สมาน กล่าวว่า นอกจากมาตรการดังกล่าวแล้วยังต้องดำเนินการมาตรการอื่นควบคู่ด้วย เช่น การใช้ถุงยางอนามัย และนวัตกรรมอย่างยาเพร็พ (PreP) เนื่องจากผู้เสพยาเสพติดบางส่วนมักใช้ยาเสพติดเพื่อความสนุกในการมีเพศสัมพันธ์ จึงควรใช้ถุงยางอนามัยและยาเพร็พเพื่อป้องกันด้วย โดยยาเพร็พมีข้อดี คือ ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ทั้งจากทางเข็มฉีดยาและการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนเรื่องการแจกเข็มฉีดยานั้น สำหรับข้อกังวลเรื่องการใช้ยาเพร็พ จะส่งผลให้คนไม่ป้องกันตัวด้วยการใช้ถุงยางอนามัยนั้น เท่าที่ติดตามผลในกลุ่มผู้ใช้ยาเพร็พ ก็พบว่า ยังคงให้ความสำคัญกับการป้องกันด้วยถุงยางอนามัยอยู่ เพราะเขารู้ดีว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง จึงยิ่งต้องป้องกันตนเองมากขึ้น ไม่ได้พบว่าประมากในการป้องกันตัวเองมากขึ้นแต่อย่างใด

8 มี.ค. 2561   โดย: MGR Online