ผู้เขียน หัวข้อ: คู่กรณีซิ่งเก๋งเสยพยาบาลสาวกลางสี่แยก ปัดเยียวยา.. อยากได้เงินก็ไปฟ้องเอาเอง  (อ่าน 991 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
น้องแพรว พยาบาลสาวถูกเก๋งขาวเสยท้ายขณะจอดรอไฟแดง นัดเคลียร์คู่กรณีวันนี้ (5 มี.ค.2561) หลังยึกยักเงินเยียวยาจนเวลาผ่านมากว่าเดือน คู่กรณีลั่น.. ถ้าอยากได้ก็ไปฟ้องเอา !!
 
         จากเหตุการณ์นางสาวพัชนก โพยนอก อายุ 23 ปี พยาบาลสาว โรงพยาบาลหนองบัวลำภู ถูกรถยนต์ชนขณะจอดรอสัญญาณไฟจราจร จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเบื้องต้นเจ้าตัวอาการปลอดภัยแล้ว และจากการสอบปากคำ นางวรรณนภัสสร ลากุล คู่กรณี ให้การว่า ไม่ชินเส้นทาง และแสงจากดวงอาทิตย์ส่องตา ทำให้มองไม่เห็น ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น

ตำรวจเผยคำสารภาพสาวขาซิ่งชนพยาบาล อ้างแสงอาทิตย์แยงตา ไม่เห็นสัญญาณไฟแดง-ไม่ชินเส้นทาง พบพิรุธ ทะเบียนบ้านรถอยู่ในพื้นที่ ไม่ชินเส้นทางจริงหรือ

        จากกรณีข่าว น.ส.พัชนก โพยนอก อายุ 23 ปี พยาบาลประจำห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลหนองบัวลำภู ถูกรถเก๋งสีขาวพุ่งตรงเข้าชนขณะจอดมอเตอร์ไซค์ติดไฟแดง ส่งผลให้ น.ส.พัชนก ลอยเคว้งกลางอากาศ ก่อนจะตกมากระแทกพื้น ทราบชื่อคนขับเก๋งคือ  นางวรรณนภัสสร อายุ 38 ปี โดยเหตุเกิดขึ้นที่สี่แยก ถนนสายรอบเมืองหนองบัวลำภู

เพจดังแจง พยาบาลถูกเก๋งชนกลางไฟแดง ยังไม่ตาย - รักษาตัวในไอซียู

คืบหน้าสาวพยาบาลคลิปถูกเก๋งพุ่งชนขณะติดไฟแดง เพจดังเผยอาการปลอดภัยแล้ว ไม่ได้เสียชีวิตตามบางกระแสข่าว

          ถือเป็นเหตุการณ์สุดช็อก กรณีรถเก๋งสีขาวพุ่งตรงเข้าชนรถจักรยานยนต์คันหนึ่งที่จอดติดไฟแดง ส่งผลให้หญิงคนขี่ลอยเคว้งกลางอากาศ ก่อนจะตกมากระแทกพื้นนั้น (อ่านข่าว : คลิปเก๋งซิ่งชนพยาบาลจอดติดไฟแดงลอยเคว้งกลางอากาศ ต่อหน้าต่อตาตำรวจ)
          ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 โลกออนไลน์ได้เปิดเผยว่า หญิงที่ถูกเก๋งชนบาดเจ็บดังกล่าว มีชื่อว่า น.ส.พัชนก โพยนอก อายุ 23 ปี พยาบาลประจำห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลหนองบัวลำภู ขณะที่คนขับรถเก๋งนั้นชื่อว่า นางวรรณนภัสสร อายุ 38 ปี โดยเหตุเกิดขึ้นที่สี่แยก ถนนสายรอบเมืองหนองบัวลำภู

          ล่าสุด เพจเฟซบุ๊กบิ๊กเกรียน เปิดเผยว่า น.ส.พัชนก มีอาการปลอดภัยแล้ว โดยได้ย้ายจากห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลหนองบัวลำภู มาพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู แผนกศัลยกรรมทั่วไป โรงพยาบาลอุดรธานี หลังจากที่ต้องผ่าตัดที่ช่องท้องเพราะถูกกระแทกอย่างแรง และมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย ศีรษะและใบหน้า แต่ไม่รุนแรงมาก ตอนนี้รู้สึกตัวดี สื่อสารตอบโต้ได้ปกติ ดื่มน้ำได้บ้าง แต่ยังมีอาการมึนงง แต่สมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือนใด ๆ อยู่ระหว่างเฝ้าดูอาการ พร้อมฝากกระจายข่าวว่า น.ส.พัชนก ยังไม่ได้เสียชีวิตแต่อย่างใด

        ล่าสุดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 เฟซบุ๊ก บิ๊กเกรียน รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี เผยว่า ได้แจ้งตำรวจแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสกับ นางวรรณนภัสสร

        โดย นางวรรณนภัสสร อ้างว่าไม่ชินเส้นทาง ไม่เคยใช้ถนนเส้นรอบเมืองมาก่อน และในช่วงเกิดเหตุซึ่งเริ่มเย็นแล้ว แสงอาทิตย์จึงสาดเข้าตาจนทำให้มองไม่เห็นสัญญาณไฟแดง และไม่เห็นว่ามีรถจักรยานยนต์จอดติดไฟแดงอยู่ จึงทำให้เบรกไม่ทัน ช่วงเกิดเหตุไม่ได้เมา หรือใช้โทรศัพท์มือถือแต่อย่างใด

        ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของ นางวรรณนภัสสร ก็ไม่พบประวัติการโทร. เข้า-ออก หรือประวัติการสนทนาในช่วงเวลาดังกล่าว และไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย โดยหลังจากนี้ จะตรวจสอบว่าใช้ความเร็วเกินกำหนดหรือไม่ พร้อมเตรียมเรียกมาสอบปากคำเรื่องค่าเสียหายกับผู้ต้องหาอีกครั้งหนึ่ง

        อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า ตรวจสอบทะเบียนราษฎรและทะเบียนรถยนต์ของนางวรรณนภัสสรแล้ว อยู่ในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นที่น่าสงสัย ว่าทำไมจึงไม่เคยใช้ถนนเส้นดังกล่าว และอ้างว่าแสงแดดสาดเข้าตานั้นสมเหตุสมผลตามที่อ้างหรือไม่)

          ล่าสุด (5 มีนาคม 2561) เพจเฟซบุ๊ก บิ๊กเกรียน มีรายงานความคืบหน้าคดีดังกล่าว ว่า ในวันนี้นางสาวพัชนก หรือน้องแพรว จะมีการนัดเคลียร์เรื่องเงินเยียวยากับนางวรรณนภัสสร ลากุล คู่กรณี อีกครั้ง เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นมานาน 1 เดือนแล้ว ยังไม่มีการชดใช้หรือเยียวยาใด ๆ จากผู้ก่อเหตุเลย และทางเพจยังระบุอีกว่า คู่กรณีอ้างว่า หากต้องการเงินเยียวยาก็ให้ไปฟ้องร้องเอาเอง

          ขณะที่ พ.ต.ท. สุเนตร สรรพ์สมบัติ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู เปิดเผยว่า ทางประกันยินยอมชดใช้ให้ผู้เสียหาย เป็นเงิน 250,000 บาท รวมถึงเรื่องค่ารักษาพยาบาลด้วย แต่อยู่ระหว่างรอสรุป ส่วนในเรื่องของค่าสินไหมนั้น นางวรรณนภัสสร ลากุล ผู้ก่อเหตุ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง

          ทั้งนี้ ในเรื่องคดีความนั้น จะมีการสรุปสำนวนภายในเดือนมีนาคมนี้ ช่วงประมาณกลางเดือน ในข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส

https://hilight.kapook.com/view/168995