ผู้เขียน หัวข้อ: รพ.กบินทร์บุรี ขอโทษผู้ป่วยจ่ายยาผิด สั่งเพิ่มเภสัชกรเช็กจ่ายยาลดผิดพลาด  (อ่าน 528 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
ผอ.รพ.กบินทร์บุรี ขอโทษผู้ป่วยจ่ายยาผิด จากยาแก้ไอเป็นยาทาแก้คัน เผยผู้ป่วยไม่ติดใจ เตรียมขอโทษทางการ พร้อมตรวจอาการผู้ป่วยถึงบ้านวันที่ 19 ก.พ. นี้ รับผิดพลาดเพราะเภสัชกรไม่พอ สั่งเพิ่มเภสัชกรเป็น 2 คน ในทุกจุดแล้ว ช่วยตรวจสอบการจ่ายยาให้รอบคอบขึ้น ระบุ เม.ย. ได้เภสัชกรเพิ่มอีก 2 ตำแหน่ง

จากกรณีลูกสาวของผู้ป่วยโพสต์รูปภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงห้องจ่ายยา รพ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีการจ่ายยาผิด โดยจ่ายยาบรรเทาอาการคันมาแทนยาน้ำแก้ไอ ซึ่งผู้ป่วยได้จิบไปแล้ว 2 ครั้ง โดยขอให้โรงพยาบาลมีความรอบคอบมากกว่านี้

วันนี้ (16 ก.พ.) นพ.โชคชัย มานะดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ก็ยอมรับว่า เป็นความผิดพลาดของโรงพยาบาลจริง โดยญาติผู้ป่วยได้นำยามาเปลี่ยนที่โรงพยาบาลแล้ว และเภสัชกรที่จ่ายยาได้ขอโทษเเละได้สอบถามถึงอาการผู้ป่วย รวมถึงเเนะนำให้มาตรวจที่โรงพยาบาลเพิ่ม ซึ่งทางญาติผู้ป่วยไม่ติดใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว สำหรับสาเหตุของความผิดพลาดนั้น เนื่องจากปริมาณคนไข้มีมาก แต่เภสัชกรมีไม่เพียงพอ ซึ่งความผิดพลาดที่เกิดขึ้นคือ ส่วนของคลินิกพิเศษที่แยกให้บริการแบบวันสตอปเซอร์วิส ที่รองรับในส่วนของเขตอุตสาหกรรม ซึ่งในส่วนนี้มีเภสัชกรเพียงคนเดียว ทำให้ไม่ได้มีการดับเบิลเช็กว่ายานั้นถูกต้องหรือไม่

นพ.โชคชัย กล่าวว่า หลังจากนี้ ได้สั่งการแล้วว่า ให้มีเภสัชกรประจำเป็น 2 คนในทุกจุด เพื่อช่วยกันตรวจสอบว่าจ่ายยาถูกต้องแล้วหรือไม่ ก็ช่วยให้โอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดลดน้อยลง เพราะขณะอธิบายการใช้ยาให้ผู้ป่วยฟังก็ได้เป็นการตรวจสอบการจ่ายไปด้วยในตัวว่าถูกต้องหรือไม่ ส่วนปัญหาเภสัชกรไม่เพียงพอนั้น เบื้องต้นช่วง เม.ย.จะมีเภสัชกรจบใหม่ ก็ได้มีการขอตำแหน่งจากทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ไปแล้ว คาดว่า จะได้มาเพิ่มอีก 2 ตำแหน่งก็น่าจะเพียงพอกับปริมาณงาน

“เท่าที่ตรวจสอบคนไข้ที่รับยาผิดไปนั้น เพียงแค่รับประทานยาดังกล่าวเข้าไปเพียงจิบ 2 จิบ แล้วพบว่ารสชาติเฝื่อน ซึ่งคนไข้มีเพียงอาการเวียนศีรษะเล็กน้อย โดยวันนี้สามารถไปทำงานได้แล้ว ส่วนข้อกังวลว่าการรับประทานเข้าไปจนเป็นอันตรายนั้น เนื่องจากติดข้างกล่องว่าเป็นยาอันตราย แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นยาอันตรายร้ายแรงมาก หากรับประทานเข้าไป เนื่องจากเป็นสเตียรอยด์ก็อาจทำให้ระคายเคืองระบบทางเดินอาหารและมีอาการแสบร้อน แต่ไม่เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลต้องขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง” นพ.โชคชัย กล่าว

นพ.โชคชัย กล่าวว่า เบื้องต้นวันนี้ได้มีการประสานไปเยี่ยมผู้ป่วยที่ได้รับยาผิดในเวลา 12.00 น. แต่ทางผู้ป่วยยังไม่สะดวก เนื่องจากติดทำงาน จึงจะมีการไปพบผู้ป่วยอีกครั้งในวันที่ 19 ก.พ. ที่บ้านผู้ป่วย เพื่อตรวจเช็กอาการผู้ป่วยว่าเป็นอย่างไร ความดันโลหิต ชีพจรปกติหรือไม่ ซึ่งจะพาทีมที่ทำงานผิดพลาดมาด้วย เพื่อขอโทษและอธิบายให้คนไข้ฟัง ว่าจะไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก และมีแนวทางแก้ไขอย่างไร

17 ก.พ. 2561   โดย: MGR Online