เคาะจัดสรรเงินโครงการ ก้าวคนละก้าวฯ รอบแรก แบ่งตามจำนวนเตียง รพ. เผย มี 5 แห่งได้รับเงิน 91 ล้านบาท รพ.พระมงกุฎฯ ได้รับมากสุดพร้อมบวกค่าบริหารจัดการ รวม 17% หรือ 221 ล้านบาท แต่ละแห่งเตรียมใช้จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ตามวัตถุประสงค์โครงการ พร้อมรายงานผลการใช้เงินให้ สธ. และทีมงานก้าวทราบ เตรียมรับมอบเงิน 25 ก.พ. นี้
วันนี้ (31 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ทีมงานก้าวคนละก้าวฯ เพื่อ 11 โรงพยาบาล ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.นพ.นิมิตร์ สะโมทาน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในฐานะประธานมูลนิธิ รพ.พระมงกุฎเกล้า และผู้อำนวยการโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อีก 10 โรง ประกอบด้วย รพ.ยะลา รพ.สุราษฎร์ธานี รพ.ราชบุรี รพ.เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี รพ.สระบุรี รพ.ขอนแก่น รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รพ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และ รพ.น่าน เพื่อหารือการจัดสรรเงินโครงการก้าวคนละก้าวฯ รอบแรก ที่ นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม นักร้องชื่อดังจัดโครงการขึ้น เพื่อระดมช่วยเหลือโรงพยาบาล ในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. นพ.อนันต์ กมลเนตร ผู้อำนวยการ รพ.สระบุรี เป็นตัวแทน ผอ.รพ. ทั้ง 11 แห่ง กล่าวถึงผลการประชุมหารือการจัดสรรเงินโครงการก้าวคนละก้าวฯ ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกัน ว่า การจัดสรรเงินในรอบแรกจะตัดยอดในจำนวนเงิน 1,300 ล้านบาท โดยเกณฑ์ในการจัดสรรเงินให้ทั้ง 11 โรงพยาบาลนั้น ใช้จำนวนเตียงของโรงพยาบาลเป็นเกณฑ์แล้วบวกให้อีก 1% เช่น มี 700 เตียง ก็เท่ากับ 7% แล้วบวกให้อีก 1% เป็น 8% จากจำนวน 1,300 ล้านบาท เป็นต้น
นพ.อนันต์ กล่าวว่า จากการใช้เกณฑ์ดังกล่าว รพ. ทั้ง 11 แห่ง จะได้รับการจัดสรรเงินดังนี้
1. รพ.ยะลา 7% คิดเป็นจำนวน 91 ล้านบาท
2. รพ.สุราษฎร์ธานี 10.5% คิดเป็น 136.5 ล้านบาท
3. รพ.ราชบุรี 10% คิดเป็น 130 ล้านบาท
4. รพ.เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี 7% คิดเป็น 91 ล้านบาท
5. รพ.สระบุรี 8% คิดเป็น 104 ล้านบาท
6. รพ.ขอนแก่น 11% คิดเป็น 143 ล้านบาท
7. รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี 7% คิดเป็น 91 ล้านบาท
8. รพ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ 7% คิดเป็น 91 ล้านบาท
9. รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ 8.5% คิดเป็น 110.5 ล้านบาท
10. รพ.น่าน 7% คิดเป็น 91 ล้านบาท และ
11. รพ.พระมงกุฎเกล้า หากคิดตามจำนวนเตียงแล้วบวก 1% จะได้ 12% แต่ในฐานะเป็นผู้บริหารจัดการ จึงได้รับเพิ่มอีก 5% รวมเป็น 17% หรือคิดเป็น 221 ล้านบาท
ที่ประชุมเห็นพ้องกันว่าการแบ่งเงินด้วยวิธีดังกล่าวเป็นวิธีที่ยุติธรรม ส่วนการรับมอบเงินนั้น เบื้องต้นหารือกันว่าจะมีการทำพิธีมอบในวันที่ 25 ก.พ. นี้ ที่สวนรถไฟ โดยอาจมีการจัดกิจกรรม ส่วนเรื่องรายละเอียดการใช้เงินในโครงการหลังรับมอบนั้น เนื่องจากขณะนี้แต่ละโรงพยาบาลก็เพิ่งรับทราบจำนวนยอดเงินที่จะได้รับ ก็คงต้องกลับไปทำรายละเอียดว่าจะนำเงินไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือใช้ทำอะไรบ้าง ซึ่งทางปลัด สธ. ก็มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ เนื่องจากสังคมจับตาว่าจะใช้เงินทำอะไรบ้าง ซึ่งก็คงจะมีการทำรายงานให้ สธ. รวมถึงทีมงานก้าวคนละก้าวรับทราบถึงการใช้เงินดังกล่าวด้วย เช่น ซื้ออะไร ราคาเท่าไร เพื่อให้เกิดความโปร่งใส นอกจากนี้ อาจจะมีการประชุมร่วมกัยในส่วนของโรงพยาบาลสังกัด สธ. ว่า มีเครื่องมือใดที่จะจัดซื้อเหมือนกันหรือไม่ หากมีก็อาจจัดซื้อรวมกันเพื่อให้สามารถต่อรองราคาได้ หรืออาจมีการเชิญผูแทนจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ร่วมบริจาคส่วนหนึ่ง เพื่อลดราคาอุปกรณ์ในการจัดซื้อด้วย นพ.อนันต์ กล่าว
นพ.อนันต์ กล่าวว่า สำหรับ รพ.สระบุรี มีการก่อสร้างอาคารศูนย์หัวใจ แบบครบวงจร ก็ขาดในส่วนของการจัดซื้อครุภัณฑ์ ซึ่งขาดอยู่ประมาณ 100 กว่าล้านบาท ซึ่งหากรองบประมาณจาก สธ. ตามปกติ อาจต้องใช้เวลาหลายปี แต่การได้รับเงินจากโครงการมาประมาณ 104 ล้านบาท ก็คิดว่าเพียงพอในการดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ ก็จะช่วยให้อาคารใหม่ด้านหัวใจนี้ช่วยเหลือดูแลประชาชนได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งต้อขอบคุณคุณตูน และทีมงานโครงการก้าวฯ อย่างมาก
พล.ต.นพ.พีระพล ปกป้อง เลขาธิการมูลนิธิ รพ.พระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า การจัดสรรเงินในครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่โครงการยังคงมีอยู่และรับบริจาคถึง 31 พ.ค. นี้ ซึ่งจะดำเนินการตัดยอดและจัดสรรเงินอีกครั้ง ซึ่งการจัดสรรเงินครั้งสุดท้ายก็จะให้แก่ทั้ง 11 โรงพยาบาลนี้ ไม่มีโรงพยาบาลอื่น แต่ว่า รพ. ที่ได้รับเงินไปนั้นอาจนำไปใช้สร้างเครือข่าย ซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนรับบริการได้ดีขึ้น สะดวกขึ้น สุขภาพดีขึ้น ลดภาระการเดินทางมายังส่วนกลาง ซึ่งก็จะเกิดประโยชน์ต่อโรงพยาบาลในเครือข่ายด้วย เพราะโรงพยาบาลที่ได้รับเงินทั้ง 11 แห่ง ก็กระจายอยู่ทุกภาคของประเทศไทย
31 ม.ค. 2561 โดย: MGR Online
