ดราม่ากระฉ่อน!! สาวแฉคลิป คนไข้ต่อยหมอแว่นแทบแตก โซเชียลเสียงแตก..

[story]

ถือได้ว่าเป็นคลิปที่กำลังดราม่าในโลกโซเชียลในเวลานี้ สำหรับคลิปเหตุการณ์ที่มีคนไข้รายหนึ่งนั้นเหมือนจะไม่พอคุณหมอ และพยายามจะเข้าไปทำร้ายหมอเนื่องจากไม่พอว่า หมอนั้นพูดจาหยาบคายใส่ตน โดยในคลิปก็มีหญิงสาวรายหนึ่งนั้นพยายามพูดว่าเป็นหมอทำไมไม่พูดจาดีๆ โดยทางด้านคุณหมอนั้นก็พยายามจะอธิบายแต่อีกฝ่ายนั้นไม่ยอมฟังจนเป็นเหตุให้เกิดการชกต่อยกันเกิดขึ้น!!

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Arun Butmala ได้มีการเผยแพร่คลิปโดยระบุว่า  #คนไข้ต่อยหมอ (แว่นเกือบแตก) ใครถูกคัยผิด ให้สังคมตัดสินเอาแระกัน

โดยในคอมเม้นนั้นก็มีการโต้เถียงกันไปมาว่าฝ่ายใดผิดถูก ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายคนไข้ หรือจะเป็นฝ่ายหมอ โดยตัดสินได้จากคลิป!!

2018-01-16
http://www.tnews.co.th/contents/402355
...........................................
โคตรเดือด! คนไข้ชกกับหมอกลางคลินิก เบรกมวยกันวุ่น ด่าลั่น “ปากไม่ดี”
16 มกราคม 2561

ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปจากผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างหมอกับคนไข้ โดยในคลิปคนไข้ได้ด่าหมอกลางคลินิกแห่งหนึ่งย่านสะพานสูง เป็นการกล่าวหาหมอว่าพูดจาไม่ดีกับคนไข้ บอกว่า “โดนหมอไล่ไปรักษาที่อื่น” จากนั้นได้มีการโต้เถียงสักระยะจนเป็นการด่าทอด้วยคำหยาบคาย ก่อนที่คนไข้จะบันดาลโทสะเข้าชกต่อยหมอจนแว่นกระเด็น กลายเป็นเหตุการณ์ชุลมุนจนพยาบาลและคนในเหตุการณ์ต่างเข้ามาห้ามปราม

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปออกไปต่างมีคนเข้ามาแสดงความเห็นว่าอยากทราบเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ พร้อมกับรอทางฝั่งคู่กรณีออกมาชี้แจง

ที่มา Pawat Tha
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_710033
........................................
แชร์สนั่นโซเชียล !!! “หมอ vs คนไข้” เปิดศึกดวลคารมเดือด ก่อนห้ามใจไม่อยู่ ปล่อยหมัดโหดกลางคลีนิค

แชร์กันสนั่นหวั่นไหวบนโลกออนไลน์กับคลิปวีรกรรมของคุณหมอ และคนไข้ที่เกิดการทะเลาะวิวาทภายในคลีนิคแห่งหนึ่ง จนมีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น ท่ามกลางประชาชนผ่านไปมาอย่างมาก โดยคลิปดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กคุณ Arun Butmala โดยระบุข้อความว่า “#คนไข้ต่อยหมอ (แว่นเกือบแตก) คัยถูกคัยผิด ให้สังคมตัดสินเอาแระกัน”

ซึ่งจากคลิปเผยให้เห็นวินาทีการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดระหว่างคนไข้ 2 คน และคุณหมอ ถึงกรณีการเข้ารักษาโดยฝ่ายคนไข้อ้างหน้าทางหมอนั้นพูดจาไม่ดี แถมยังไล่ให้ไปรักษาที่อื่นอีกด้วย แต่คุณหมอได้ตอบโต้โดยอ้างว่าไม่ได้พูดแบบนั้น

ทั้งนี้หลังเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ ก็ทำเอาชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเม้นท์กันสนั่นหวั่นไหวถึงกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรื่องราวดังกล่าวยังไม่เป็นทีแน่ชัดว่าเกิดขึ้นที่ไหนอย่างไร หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง

17 มกราคม 2018
http://www.khwypheuk.com/4146

[story]

แพทยสภาห่วงคลิปทำร้าย “หมอ” ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงทุกรูปแบบ ขอให้กำลังใจและเห็นใจผู้ประกอบวิชาชีพ พร้อมฝากแพทย์ใช้ความพยายาม ประสบการณ์ ควบคุมอารมณ์

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความระบุถึงแพทย์ประจำคลินิกแห่งหนึ่งมีการพูดจาไม่ดีต่อคนไข้ และมีการโพสต์รูปภาพและคลิปวิดีโอขณะโต้เถียงกับแพทย์รายดังกล่าว และมีการทำร้ายร่างกายแพทย์หนุ่มรายนี้ ส่งผลให้กระแสสังคมออนไลน์ประณามการกระทำของคู่สามีภรรยาผู้โพสต์คลิปดังกล่าวแทน เนื่องจากต่อให้แพทย์อาจพูดจาไม่ดีจริงหรือไม่ ซึ่งไม่ทราบเพราะคลิปไม่ได้มีการแสดงให้เห็น แต่ไม่มีสิทธิไปทำร้ายร่างกายแพทย์

ล่าสุด วันนี้ (17 ม.ค.) นพ.สุกิจ ทัศนสุนทรวงศ์ เลขาธิการแพทยสภา ได้ออกแถลงการณ์สำนักงานเลขาธิการแพทยสภาถึงเรื่องดังกล่าว ว่า กรณีความรุนแรงในสถานพยาบาลที่เกิดขึ้นระหว่างผู้มาใช้บริการกับแพทย์ที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ ด้วยปรากฏเป็นข่าวในสื่อออนไลน์ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 เกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทกันระหว่างญาติของผู้ป่วยกับแพทย์ โดยมีการใช้วาจาที่ไม่สุภาพและทำร้ายร่างกายในสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง

สำนักงานเลขาธิการแพทยสภาขอแสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงทุกรูปแบบ ทั้งทางวาจา และ การใช้กำลังประทุษร้าย สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแพทยสภาขอแสดงความเห็นใจและขอให้กำลังใจ ในการปฏิบัติงานที่ยากลำบาก ซึ่งต้องใช้ความพยายาม และอาศัยประสบการณ์ ในการควบคุมอารมณ์ เมื่อประสบกับสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมพึงปฏิบัติตามจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างเคร่งครัด

สำหรับกรณีที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของแพทยสภาด้านการตรวจสอบทางจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม สำนักงานเลขาธิการแพทยสภาจะได้ดำเนินการต่อไป

17 ม.ค. 2561  โดย: MGR Online

[story]

สปสช. ชี้ คลิปญาติผู้ป่วยทำร้าย “หมอ” ต้องรอสอบข้อเท็จจริงพร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เผยเกิดเหตุในคลินิกชุมชนอบอุ่นในระบบบัตรทอง ย้ำเรื่องอารมณ์และมาตรฐานการบริการเป็นคนละเรื่อง ยันคลินิกชุมชนอบอุ่นได้เกณฑ์มาตรฐาน

จากกรณีญาติผู้ป่วยอัดคลิปแฉแพทย์ว่าพูดจาไม่เหมาะสมและไล่ให้ไปรักษาที่อื่น จนเกิดมีเหตุปะทะและทำร้ายร่างกายแพทยืหนุ่มขึ้น จนกระแสสังคมต่อว่าผู้ถ่ายคลิปว่าตั้งใจยั่วยุแพทย์และทำร้ายร่างกายแพทย์ก่อนนั้น เป้นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

วันนี้ (18 ม.ค.) นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า เหตุที่เกิดขึ้นเกิดในคลินิกชุมชนอบอุ่นในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งนี้ คลินิกเอกชนที่เข้าร่วมโครงการคลินิกชุมชนอบอุ่น จะมีการตรวจตามเกณฑ์มาตรฐานกำหนด ทั้งในด้านสถานประกอบการ เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงบุคลากรทั้งแพทย์และพยาบาลที่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพและจำนวนตามที่กำหนด ขณะเดียวกัน คลินิกที่ผ่านเกณฑ์และเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการประจำ ยังต้องได้รับการประเมินตรวจสอบทุกปี โดยกรณีที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานจะถูกคัดออก แต่ในเรื่องของอารมณ์และพฤติกรรมเป็นคนละประเด็น คงต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน

“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางคลินิกชุมชนอบอุ่นที่เกิดเหตุได้ประสานมายัง สปสช. โดยขอให้เราเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งทาง สปสช. เขต 13 กทม. ส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการตรวจสอบตามระบบ โดยขณะนี้เรายังสรุปไม่ได้และคงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบก่อน ซึ่งปกติ สปสช. จะกำกับในเรื่องคุณภาพและมาตรฐานบริการ แต่เรื่องของวิวาทะเป็นอีกประเด็นหนึ่ง เรื่องนี้คงต้องแยกเรื่องคุณภาพมาตรฐานกับอารมณ์ เชื่อว่า คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอยู่แล้ว และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คงต้องตรวจสอบก่อน เพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว

นพ.การุณย์ กล่าวว่า ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจทำให้ประชาชนไม่มั่นใจการรับบริการยังคลินิกชุมชนอบอุ่นและเลือกเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลแทนนั้น การบริการและการดูแลผู้ป่วยของคลินิกชุมชนอบอุ่นส่วนใหญ่ ภาพรวมมีคุณภาพและมาตรฐาน และประชาชนผู้รับบริการส่วนใหญ่ต่างพึงพอใจ เพราะได้รับบริการที่รวดเร็วและมีคุณภาพมาตรฐาน กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงส่วนที่น้อยมาก ซึ่งประชาชนยังคงมั่นใจบริการคลินิกชุมชนอบอุ่นได้ ส่วนการที่จะไปรับบริการที่โรงพยาบาลแทนนั้น แน่นอนย่อมมีความแออัดมากกว่า และยังต้องรอคิวนานเพื่อรับการตรวจไม่ถึง 5 นาที เพราะด้วยจำนวนผู้ป่วยที่มาก ดังนั้นในโรคพื้นฐานทั่วไป การรับบริการที่คลินิกชุมชนอบอุ่นย่อมสะดวกรวดเร็วกว่า และเมื่อเกินศักยภาพการดูแลที่คลินิก ก็ส่งต่อไปโรงพยาบาลตามระบบได้ ขณะเดียวกันยังช่วยลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาล สามารถดูแลผู้ป่วยได้ละเอียดขึ้น

18 ม.ค. 2561  โดย: MGR Online