ผู้เขียน หัวข้อ: สวัสดิภาพและค่าตอบแทนของแพทย์ในภาครัฐ วิกฤต หรือ โอกาส  (อ่าน 2971 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอในการประชุมวิชาการส่วนภูมิภาคของแพทยสมาคม ครั้งที่ 61 ประจำปี 2560 ณ รพ.หัวหิน และ ห้องประชุมโรงแรม
โนโวเทลหัวหินชะอำบีชรีสอร์ทแอนด์สปา 8-10 กันยายน 2560

ตอนที่1 ความรุนแรง (Violence)

สวัสดิภาพ มักไม่ใช้ในภาษาพูด เป็นคำที่ใช้ในทางการ เราจึงไม่ค่อยคุ้นนัก เช่น
กองคุ้มครองสวัสดิภาพและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต, กองคุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาคนพิการ, สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก, สำนักงานรักษาความปลอดภัยและสวัสดิภาพบุคลากร, สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์, การสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก, พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์, นโยบายสวัสดิภาพสัตว์ของสหภาพยุโรป เป็นต้น
ที่ได้เห็นบ่อยๆจนชินตา คือ ป้ายตามถนน ตามสถานที่ท่องเที่ยว “ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ”

สวัสดิภาพมีความหมายอยู่สองนัยยะ หนึ่งคือ ความปลอดภัย (safety) และ สภาพความเป็นอยู่ที่ดี (welfare) เป็นนัยยะที่สอง คงมีหลายปัจจัยที่ทำให้การทำงานของบุคลากรทางแพทย์ไม่มีสวัสดิภาพ ที่จะเน้นในการนำเสนอครั้งนี้ คือ การถูกกระทำด้วยความรุนแรง หรือทำร้ายในขณะที่กำลังปฏิบัติงาน (ไม่ว่าจะด้วยวาจา หรือด้วยกำลัง)(violence) และการถูกใช้งานมากเกินไปหรือไม่เหมาะสม(abuse)
...
ขอเริ่มด้วย ข่าวคราวตามสื่อต่างๆเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงกับบุคลากรสาธารณสุข (ในช่วงเวลาหลังจากการสัมมนาหัวข้อ “ภาวะฉุกเฉินในโรงพยาบาล”ที่สมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไปฯร่วมกับแพทยสมาคมฯได้จัดขึ้นในวันที่ 18 มีนาคม 2559
เริ่มด้วยสองข่าวใหญ่

ญาติยัวะ มีดไล่แทงหมอปล่อยรอนาน ทำร้ายร่างกายแพทย์/พยาบาล ที่ รพ.สุราษฎร์ธานี (คมชัดลึก 9 พค.2559)
จ่อส่งฟ้องญาติผู้ป่วยฉุน ทำร้ายพยาบาลสุราษฎร์ ผู้เสียหาย ชี้ พยายามฆ่า (มติชนออนไลน์ 9 พค.2559)
*เกิดเหตุเมื่อ 29 เมษายน 2559 ที่ รพ.สุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี

คลิป นาทีระทึก คนไข้ขาโหด เตะก้านคอ หมอหนุ่ม กลางโรงพยาบาล จะโกรธอะไรขนาดนั้น...อ้างเหตุเตะก้านคอหมอ ขากระตุก...เปิดใจอดีตนายกเล็ก คนไข้คลิปเตะก้านคอหมอ ลั่นเท้ามันไปเอง ไม่รู้ตัว (ข่าวสด 14 สค.2559)
*เกิดเหตุเมื่อ 6 สิงหาคม 2559 ที่ รพ.แม่ใจ จ.พะเยา
...........................................................
และข่าวอื่นๆ

เจาะประเด็น Special : ญาติ ผู้ป่วย รุมยำบุรุษพยาบาล จ.สระแก้ว (สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง7-23 พย. 2559)

รุมตื้บพยาบาลให้รอ ขอทำแผลนิ้วเท้า (คมชัดลึก 19 พย. 2559)
*เกิดเหตุเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2559 ที่ รพ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

ฉุนห้ามเข้าห้องฉุกเฉิน ญาติคนป่วยตบหัวคะมำ หนุ่มเวชกิจขวัญผวาไม่กล้าไปทำงาน (ข่าวสด 8 มีค. 2560)
*เกิดเหตุเมื่อ 5 มีนาคม 2560 ที่ รพ.ตรัง จ.ตรัง

สุดช็อก ผช.พยาบาลสาว ถูกโจรหื่น ใช้มีดทำร้ายลากไปข่มขืนในซอกตึก ระหว่างเดินไปรับผ้าที่ห้องซักฟอกใน รพ.จนท.ผวา…อนาจใจ คนร้ายจะข่มขืน จนท.ใน รพ. (TT NEWS 18 กค.2560)

ฉุดขืนใจในโรงพยาบาล เหยื่อพนง.สาวสุดบอบช้ำ โดนชักมีดขู่ ต่อยฟันหัก เลือดสาดติดกำแพง (ข่าวสด 18 กค.2560)
*เกิดเหตุเมื่อ 17 กรกฎาคม 2560 ที่ รพ.หนองคาย จ.หนองคาย
…………………………………………………………….
สลด หมออนามัย โดนโจ๋ซ้อม จะขืนใจใน รพ.(ข่าวรอบเมืองบึงกาฬ 16 เมย. 2560)
*เหตุเกิดเมื่อ 15 เมษายน 2560 ที่ รพ.สต.ใน อ.เซกา จ.บึงกาฬ)

อ้างทหารตบหน้ากู้ภัย ขู่หมอศิริราช...จ่าทหารสำนึกผิด หลังอาละวาดใส่พยาบาล ตบหน้ากู้ภัยกลาง รพ. รับรอนานจนปวดแผล-เมาจึงบันดาลโทสะ (HD33 อ.ส.ม.ท.-27 เมย.2560)

ชายอ้างเป็นทหารเมากร่างทำร้ายร่างกายตบหน้ากู้ภัยใน รพ.ศิริราช แถมขู่แพทย์ “เป็นหมอตายไม่เป็นหรอ” (คมชัดลึก 27 เมย.2560)
*เกิดเหตุเมื่อ 27 เมษายน 2560 ที่ รพ.ศิริราช กรุงเทพมหานคร)

คนร้ายชิงทรัพย์พยาบาลสาว ทำร้ายผ่าตัดสมองยังไม่ฟื้น ขณะที่กำลังจะไปเข้าเวรที่โรงพยาบาลศูนย์มะเร็ง ชลบุรี (กรุงเทพธุรกิจ 2 มิย.2560)
*เกิดเหตุเมื่อ 30 พฤษภาคม 2560 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี)
…………………………………………………………………..
แถลงเหตุคนไข้ใช้ผ้ารัดคอหมอ จ.หนองคาย (ครอบครัว ข่าว 3 - 18 กค 2559)
*เกิดเหตุเมื่อ 13 กรกฎาคม 2559 ที่ รพ.หนองคาย

คนร้ายข่มขืน ทำร้ายผู้ช่วยพยาบาลที่บุรีรัมย์...จับกุมผู้ต้องหา (Voice TV21-20 กค.2559)
*เกิดเหตุเมื่อ 19 กรกฎาคม 2559 ที่ จ.บุรีรัมย์)
....................................................................
ด่วน บึมสนั่น รพ.พระมงกุฎฯ กระจกแตกกระจาย เจ็บนับสิบ (ไทยรัฐ 22 พค.2560)
*เกิดเหตุเมื่อ 22 พฤษภาคม 2560 ที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า กรุงเทพมหานคร

เสียงจากห้องฉุกเฉิน พยาบาลถูกขู่ฟ้อง ทำร้าย จนไร้กำลังใจ ลาออก (แหม่มโพธิ์ดำ 23 กค. 2560)

“มึงไปดูเมียกู เดี๋ยวนี้”...ลุงวิศวะฉุนจัดด่าหมอทำงานไม่ดี ลามถึงสถาบัน...ลุงวิศวะสุดกร่างด่าหมอเละ (โชว์ข่าวเช้านี้ 24 กค.2560)
*เกิดเหตุเมื่อ 22 กรกฎาคม 2560 ที่ รพ.รักษ์สกล จ.สกลนคร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 กันยายน 2017, 10:16:13 โดย story »

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด

จากการสัมมนา และวิเคราะห์ข้อมูล พอจะสรุปได้ว่า ปัญหาการกระทำความรุนแรงต่อบุคลากรด้านสาธารณสุขของบ้านเรา มีรากเหง้าของปัญหา(Root Causes) 2 ประการ

1. วัฒนธรรมการใช้ความรุนแรงในสังคมไทย (Violence Culture)

2. ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยที่เปลี่ยนไป (Poor Doctor-Patient Relationship)

โดยมีปัจจัยส่งเสริมให้เกิด(Precipitating Causes) อย่างน้อย 4 ปัจจัย
1. ความแออัดของผู้ป่วย (Overcrowding) ซึ่งเป็นปัญหาเชิงระบบ (System Problem)

2. ภาระงานที่หนักของบุคลากร (Overwork) ซึ่งเป็นปัญหาเรื่องกำลังคน (Workforce Problem)

3. ภาวะตึงเครียด (Stress) จากสถานที่ สิ่งแวดล้อม และการรอคอย

4. การสื่อสารระหว่างบุคลากรกับผู้ป่วยและญาติไม่ดีพอ (Communication Failure)

ซึ่งถ้ายังไม่มีการแก้ไขที่สาเหตุและปัจจัยดังกล่าว เราคงยังจะต้องได้รับรู้ ได้ยินข่าวคราว เรื่องการทำร้ายบุคลากรด้านสาธารณสุขอยู่เรื่อยไป
....................................................................
ดูเหมือนการใช้ความรุนแรงจะเป็นเรื่องสามัญ เรื่องธรรมดาในสังคมไทยไปแล้ว เราใช้ความรุนแรงในการแสดงความรู้สึก ในการระบายอารมณ์ ในการเรียกร้องความสนใจ ในการแก้ไขความขัดแย้ง ดูเหมือนสังคมไทยจะชินชากับความรุนแรงไปแล้ว เพราะมีข่าวคราวเกี่ยวกับความรุนแรงให้เห็นในสื่อมากขึ้น รุนแรงขึ้นกว่าในอดีตมากมายนัก ความรุนแรงแทรกไปในเกือบทุกภาคส่วนของสื่อสาธารณะ ในหนังสือ ในอินเตอร์เนท ในภาพยนตร์ ในละคร ในการแสดงตลกก็มี ความรุนแรงมีให้เห็นแม้แต่ในเกมส์สำหรับเด็กๆ

สังคมไทยมาไกลเกินไปแล้วสำหรับความรุนแรง ได้เวลาถอยหลังหลายๆก้าวกันแล้วครับ หากไม่ถอยกัน สังคมเราคงขาดความสงบสุข ลูกหลานเราคงต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความรุนแรง และชาวสาธารณสุขคงตั้งรับกันไม่ไหวแน่
........................................................
ผู้ป่วยคือผู้บริโภค บุคลากรสาธารณสุขเป็นผู้ขายบริการ เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง? ความสัมพันธ์แบบนี้ แบบผู้ซื้อผู้ขายไม่เอื้อให้ทั้งสองฝ่ายให้เกียรติกัน เคารพกัน นับถือกัน
สิ่งที่ควรเป็น(ซึ่งเป็นมานมนาน) คือ แพทย์ทำงานเพื่อช่วยผู้ป่วย แพทย์กับผู้ป่วยต้องช่วยกัน ร่วมมือกัน เป็นพวกเดียวกัน ต้องจับมือกัน ให้กระบวนการตรวจรักษาประสบผลอย่างที่ควรจะเป็น นั่นจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน ผูกพันกัน

A good patient-doctor relationship, based on mutual respect and trust, is the cornerstone of good patient care.

โดยพฤตินัย แพทย์ส่วนใหญ่ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเหมือนที่เป็นมาในอดีต ไม่ได้คิดว่าเป็นผู้ซื้อผู้ขาย แต่ในปัจจุบัน ทางนิตินัย กำหนดให้ ผู้ป่วยเป็นผู้ซื้อบริการ(ผู้บริโภค) แพทย์เป็นผู้ขายบริการ ซึ่งมันไม่ตรงกับครรลองที่ปฏิบัติกันมา มันทำให้เกิดความบิดเบี้ยว คลาดเคลื่อนจากสิ่งที่ควรเป็น สร้างความขัดแย้งในระบบ สร้างความทุกข์ให้กับทุกฝ่าย ไม่เป็นผลดีต่อระบบสาธารณสุขในอนาคตแน่นอน

ประเทศเราต้องถอยหลัง และเลี้ยวกลับไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีดังเดิม ทั้งพฤตินัย และนิตินัย

ถ้าเปรียบ ความรุนแรงในสังคม เป็นน้ำ(ที่รอการระบาย) และความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยเปรียบเสมือนกำแพงรั้วของโรงพยาบาล
ตอนนี้น้ำท่วมไปทั่วแล้ว และกำแพงรั้วก็มีรอยแตก มีรูรั่ว ภาพที่เห็นและเป็นอยู่ คือ น้ำเริ่มท่วมเข้ามาในโรงพยาบาลแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 กันยายน 2017, 10:07:34 โดย story »

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
เป็นซะอย่างนี้ มีเครื่องมือให้ใช้ก็ไม่ใช้
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 30 กันยายน 2017, 10:00:18 »

สองเรื่องที่เป็นรากเหง้าของปัญหาการใช้ความรุนแรงกับบุคลากร ยังไม่ได้รับความสนใจและยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง สิ่งที่เราเห็นจากสื่อ คือ

สธ. ย้ำดูแลความปลอดภัยบุคลากรด้วย HA หลัง แพทย์เวรถูกทำร้าย (มติชน 17 กค 2559)

ปลัดสธ.ให้กำลังใจหมอถูกทำร้าย/วอนสังคมไทยอย่าใช้ความรุนแรง ( Voice TV21-14 สค. 2559)

ปลัดสธ.ส่งทีมช่วย หมอถูกเตะก้านคอ (มติชน 14 สค 2559)

สธ.ดูแลพยาบาลถูกทำร้าย ปรับบริการด่านหน้า รพ.-เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัย ( Hfocus 21 พย.2559)

หมอ-พยาบาล ถูกทำร้าย ติดตั้ง ประตูไฟฟ้า ช่วยได้? (เดลินิวส์ 11 มค 2560)

สธ.เพิ่มมาตรการความปลอดภัย วางมาตรการดูแล จนท.สธ. หลังโดนทำร้าย-จะข่มขืน (สยามรัฐ 17 เมย 2560)

สธ.สั่งห้ามหมอ-พยาบาลหญิงให้บริการยามวิกาล โดยห้ามเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ที่เป็นผู้หญิง ( TNN24-18 เมย.2560)

ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ท่านพยายามช่วยบุคลากรอยู่ครับ แต่มันเป็นแค่แก้การ
ปัญหาเฉพาะหน้า ยังไม่ตรงจุด ตรงใจ

คาดการล่วงหน้าได้เลยครับ ในปีต่อๆไป ท่านก็ต้องออกมาให้ข่าว ให้กำลังใจบุคลากร เพิ่มมาตรการโน่นนี่อีกเป็นแน่แท้

........................................................................
แพทยสภาแถลงการณ์ หยุดทำร้ายบุคลากรทางการแพทย์ ( Voice TV21-14 สค. 2559)

แพทยสภาแถลงการณ์ เหตุคนไข้เตะก้านคอหมอ ชี้เป็นการคุกคาม-หมิ่นเกียรติแห่งวิชาชีพอย่างร้ายแรง

แพทยสภาแถลงการณ์ ประณามผู้ก่อเหตุระเบิดพื้นที่ รพ.พระมงกุฎ (มติชน 22 พค.2560)

แพทยสภาก็เป็นห่วงแพทย์ ครับ
แต่ก็มีน้องๆหมอ โพสในสื่อว่า “ขอให้ช่วยดำเนินการ อย่าได้ทอดทิ้งหมอน้อยอย่างพวกเราเลยนะคะ”

อีกโพสหนึ่ง “ออกแถลงการณ์แล้ว ยังไงต่อคะ” เป็นคำถามที่แหลมคมมากครับ
เราก็ยังไม่รู้นะครับว่าแล้วยังไงต่อ

....................................................................................
ความจริงแล้ว รัฐมีเครื่องมือสำหรับป้องปราม และลงโทษผู้ที่กระทำต่อบุคลากรนะครับ ทั้งกฎหมายแพ่งและกฎหมายอาญา ยิ่งเป็นการกระทำความผิดต่อเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่แล้วโทษมากกว่าธรรมดา
............................................................................
แต่.........................
นพ.โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้ได้หมอบหมายให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และไกล่เกลี่ย ใครผิดก็ต้องขอโทษ (ผู้จัดการออนไลน์ 14 สค.2559)

จับมือยุติศึกด้วยดี คนไข้เตะก้านคอหมอ ทำบันทึกอภัยต่อกัน ( News M Thai 16 สค. 2559)

จบด้วยดี เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลถูกญาติผู้ป่วยตบหัว เจรจากันแล้ว ( News M Thai 8 มีค 2560)
ญาติคนไข้ฉุน ยอมจ่าย 1000 ตบหัวเจ้าหน้าที่ ( PPTV HD 36-9 มีค 2560)

จบดราม่า ลุงวิศวะด่ากราดโรงพยาบาล ใน จ.สกลนคร ผอ.รพ.เผยคู่กรณีโทรขอโทษจบด้วยดี (มติชน 24 กค. 2560)
ผอ.รพ.ไม่ติดใจลุงวิศวะ ด่ากราดหมอกลางรพ. (สำนักข่าวไทย 24 กค. 2560)

เป็นซะอย่างนี้ มีเครื่องมือให้ใช้ก็ไม่ใช้ บางเรื่องการไกล่เกลี่ย ยอมความกันเป็นเรื่องที่เหมาะสม แต่บางเรื่องต้องทำให้ถึงที่สุด เรื่องการทำร้ายบุคลากรทางการแพทย์ในขณะปฏิบัติงาน (ไม่ว่าจะเป็นระดับไหน เป็นแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่อื่นๆ) ประเทศอื่นๆเค้าถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง และไม่ยอมความกัน เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้คนอื่นทำตาม ไม่ให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 กันยายน 2017, 10:09:36 โดย story »

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด

ตัวอย่างของการไม่ยอมเจรจาไกล่เกลี่ยหรือยอมความเลย คือ การคุ้มครองการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษา “การดูหมิ่นศาล และการละเมิดอำนาจศาล” ..........

พูดว่า “ไม่นึกเลยว่าสำนวนนี้จะมาตกอยู่แก่คนๆนี้” - จำคุก 2 เดือน (ฎีกาที่ 1456/2506)

ร้องเรียนว่า ผู้พิพากษาไปทานข้าวกับโจทก์หลังอ่านคำพิพากษา - จำคุก 2 ปี (ฎีกาที่ 1124/2507)

ยื่นคำแถลงคัดค้าน ระบุว่า ศาลปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง เลือกปฏิบัติ ที่ไม่เป็นธรรม - จำคุก 6 เดือน (ฎีกาที่ 8005/2551)

ให้สัมภาษณ์ทำนองว่า การตัดสินคดีของ ศาลถูกครอบงำ - จำคุก 1 เดือน (ฎีกาที่ 1821/2557)

ตะโกนว่า “อยุติธรรม” - จำคุก 2 เดือน (ฎีกาที่ 5714/2559)

โพสต์เฟสบุ๊ค ทำนองว่า “ศาลรับใช้นายทุน” - จำคุก 3 เดือน (ฎีกาที่ 10231/2559)

แค่ ศ.นพ. นายแพทย์สมศักดิ์ โล่เลขาให้ความเห็นเกี่ยวกับคดีที่พิพากษาไปแล้ว (ฎีกา ที่ 12498/2558) “คดีนี้เป็นเรื่องใหญ่ในวงการแพทย์ เพราะจะทําให้แนวทางการรักษาโรคเปลี่ยนไปหมด...” ก็ถูกเตือนซะแล้ว
โฆษกศาลเตือน นายกแพทยสภา ระวังหมิ่นศาล ยันพิพากษาคดี น้องหมิว ตามพยานหลักฐาน (ผู้จัดการออนไลน์ 7 เมย. 2559)

จะเห็นได้ว่าในวงการผู้พิพากษา เค้าเอาเครื่องมือ คือ กฎหมายที่มีอยู่ มาใช้อย่างเข้มงวด ผิดคือผิด ผิดก็ต้องรับผิด จึงทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าดูหมิ่น หรือละเมิดอำนาจศาล

ผู้พิพากษายังคงได้รับการเคารพ และให้เกียรติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงการเคารพและให้เกียรติต่อสถานที่ที่ผู้พิพากษาทำงานด้วย (บริเวณที่ทำการศาล)

ถ้ามีการหย่อนยานในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองศาล ไม่เข้มงวด ไกล่เกลี่ยได้ ขอโทษได้ ยอมความได้ วันข้างหน้า คงมีการด่าทอ ตบหัว หรือเตะผู้พิพากษากันบ้าง(เหมือนที่แพทย์พยาบาลโดนกัน)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 กันยายน 2017, 10:10:24 โดย story »

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด

สถานที่ 3 แห่งที่เปิดทำการ 24 ชั่วโมง เปิดให้คนเข้าไปติดต่อเข้าออกได้ตลอดเวลา คือ สถานีตำรวจ โรงพยาบาล และ ร้านเซเว่นอีเวฟเว่น
เป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่า ไม่มีใครอยากไปที่สถานีตำรวจ แค่ไปเฉยๆก็ไม่มีใครอยากไปแล้ว ไม่ต้องคิดว่าใครอยากจะไปก่อเรื่องราวที่นั่นเลย ไม่จำเป็นจริงๆไม่มีใครไปหรอก (เพราะอะไร?)

...........................................................................
ตรงกันข้าม มีข่าวมากมายเกี่ยวกับการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายกันที่ร้านเซเว่นอีเวฟเว่นอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนักในสังคมที่นิยมใช้ความรุนแรง เพราะร้านเซเว่นฯก็เป็นแค่สถานที่ค้าขายแห่งหนึ่ง ใครใคร่ไปก็ไปได้ เข้าออกได้สะดวก ความรู้สึกเคารพสถานที่ ให้เกียรติสถานที่จึงมีน้อย

จ่อจับโจ๋เถื่อน ตื้บหนุ่มสลบคาเซเว่นฯ...ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น สาขาวัดจันทร์ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย (News M Thai 19 ส.ค.2552)

หนุ่มเมา อาละวาดพังเซเว่น ก่อนทำร้ายรปภ....เซเว่นอีเลฟเว่น สาขาหมู่บ้านเคซี ถนนสุวินทวงศ์ ( สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. 30 เม.ย.2557)

รุมต่อยพนง.เซเว่น...ร้านเซเว่นฯ ตลาดนัดศาลายา ( ไทยรัฐออนไลน์ 25 ส.ค. 2557)

รวบหนุ่มโปลเมาอาละวาด ปล้น-ทำร้ายพนักงานสาวในร้านสะดวกซื้อ...ร้านเซเว่นฯ สาขาพระราม 6 ( ข่าวสด 1 ส.ค.2559)

โจ๋ราชบุรีรุมยำหนุ่มในเซเว่นเหยื่อโอด'ไม่รู้จักกัน'…ร้านเซเว่นฯปั๊มน้ำมัน ปตท. อ.เมือง ราชบุรี (คมชัดลึก 24 กค.2559)

ตามรวบแก๊งวัยรุ่นที่ก่อเหตุรุมทำร้ายโจ๋วัย 18 ในร้านเซเว่น...ปั้มน้ำมัน ปตท.ท่าบ่อ (ข่าวออนไลน์หนองคาย 25 ธค.2559)

ตำรวจปทุมฯ เร่งจับอีก 19 นศ.ใช้อาวุธรุมทำร้ายในร้านเซเว่น...ตลาดบางขันธ์ จ.ปทุมธานี ( MCOT 17 ก.พ. 2560)

เตือนภัย วัยรุ่นเชียงใหม่ยกพวกรุมกระทืบหนุ่มในเซเว่น เหตุ'แค่มองหน้า'...สาขาดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ( Workpoint 15 ก.พ. 2560)

สามีหวั่นภรรยานอกใจ หึงโหดบุกชกฝ่ายหญิงพร้อมแทงไม่ยั้ง คาร้านสะดวกซื้อ...ร้านเซเว่นฯ รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี (มติชนออนไลน์ 21 เมย.2560)

หนุ่มพม่าโรคประสาทกำเริบเดินเข้าร้าน เซเว่นอีเลฟเว่นเชียงแสน ทำร้ายพนักงานบาดเจ็บ...จ.เชียงราย (คมชัด AEC TV Online 17 สค.2560)
..........................................................................
โรงพยาบาลของเรา ก็ไม่น้อยหน้าร้านเซเว่นอีเวฟเว่นแล้วครับ ร้านเค้าซื้อขายสินค้า โรงพยาบาลของเราซื้อขายบริการ ใครใคร่เข้ามาก็เข้า ใครอยากทำอะไรก็ทำ (แม้แต่การมาฆ่าคน) ไม่มีการให้เกียรติต่อสถานที่ ความเคารพต่อสถานที่ไม่มี เรามาถึงจุดนี้กันแล้วครับพี่น้อง

โจ๋ตราดยกพวกตื้บคู่อริถึง รพ.ทำอุปกรณ์แพทย์พัง 5 แสน พยาบาลวิ่งหนีวุ่น...โรงพยาบาลตราด เกิดเหตุ 27 มิ.ย. 2558 (ผู้จัดการออนไลน์)

เด็กแว๊นชาติชั่วรุมทำร้ายเหยื่อยับ ตามมาซ้ำถึงโรงบาลสุดท้ายดับ หมอพยาบาลกำลังปั๊มหัวใจเหยื่อต้องวิ่งหนีตาย…โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ เกิดเหตุ 26 มีค 2559 (เฟสบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ)

เลวมาก!! รุมทำร้ายในห้องฉุกเฉิน ไม่ให้เกียรติสถานที่โรงพยาบาล...โรงพยาบาลชุมพร เกิดเหตุ 19 มิ.ย.2559 (clipjung.com)

โหดเกินไปมั้ย! แค่เด็กมองหน้าก็ยิงกันถึงตาย ซ้ำยังตามไปทำร้ายพ่อเค้าถึงโรงพยาบาลอีก...โรงพยาบาลกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธุ์ เกิดเหตุ 24 เมย.2560 (ทีวีพูลออนไลน์)

เปิดคลิปนาทีเหี้ยม โจ๋บุกแทงคู่อริถึงในโรงพยาบาล ผอ.รพ.เผยคนไข้ตายคาเตียง...โรงพยาบาลนราธิวาส เกิดเหตุ 28 เม.ย.2560 (ข่าวสด)

สะเทือนใจไม่หาย!! ชายทำร้ายแม่ชีกลางโรงพยาบาล…โรงพยาบาล พระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี เกิดเหตุ 10 พค.2560 (tnews.co.th)

โรงพยาบาลก็ไม่เว้น! #วัยรุ่นคว้าอีดาบ_ถล่ม'รพ. หวังดับอริ...รพ.สต.ห้องแซง อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร เกิดเหตุ 20 พ.ค.2560 (ข่าวสด)

โหดกลาง รพ.ราชวิถี อดีตเวรเปลฉุน รปภ.ขวางที่จอดรถ คว้ามีดฟันคอดับ...โรงพยาบาลราชวิถี เกิดเหตุ 10 มิ.ย. 2560 ( ผู้จัดการออนไลน์)

ระทึกแบบงงๆ หนุ่มเบญจเพสบุกโรงพยาบาลคว้ามีดจ้วง ผัวเก่า เลือดสาดขณะเฝ้าเมียต่อหน้าญาติ...โรงพยาบาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เกิดเหตุ 7 ส.ค. 2560 (khaofree.com)

วุ่นทั้งโรงพยาบาล เผยคลิป หนุ่มบุกโรงพยาบาล ลวนลามพูดจาแทะโลมพยาบาลสาว...รพ.สต.โนนมาลัย จ.บุรีรัมย์ เกิดเหตุ 23 สค. 2560 (thaijobscov.com)

อาสาสระบุรีตีกัน! “ร่วมกตัญญู VS กู้ภัยสว่างรัตน์ฯ” ล้อมโรงพยาบาล...โรงพยาบาลสระบุรี เกิดเหตุ 3 ก.ย.2560 (ผู้จัดการออนไลน์)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 กันยายน 2017, 10:13:18 โดย story »

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
แพทย์ และผู้ป่วย ต่างก็มีสิทธิและหน้าที่
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 30 กันยายน 2017, 10:04:28 »

แต่เดิม...สังคมรับรู้กันแต่เพียงว่า
แพทย์มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยให้ได้มาตรฐาน และมีจริยธรรมวิชาชีพคอยกำกับ
ผู้ป่วยมีสิทธิตามกฎหมาย ตามคำประกาศสิทธิผู้ป่วย

วันนี้...เราต้องพูดถึงสิทธิแพทย์กันมากขึ้นแล้วครับ สิทธิที่จะได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสมตามกฎหมาย เหมาะสมกับภาระหน้าที่ เหมาะสมกับวิชาชีพ

วันนี้อีกเช่นกัน...เราก็ต้องพูดถึงหน้าที่ของผู้ป่วยด้วย หน้าที่ที่ควรปฏิบัติตามข้อพึงปฏิบัติของผู้ป่วย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในกระบวนการรักษาพยาบาล เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย


กันไว้ก่อน รพ.หัวเฉียวประกาศ ปฏิบัติต่อ แพทย์-พยาบาล ไม่สุภาพ ขอสงวนสิทธิ์การให้บริการ (ผู้จัดการออนไลน์ 17 สิงหาคม 2560)

โปสเตอร์หน้าลิฟต์โดยสารภายในโรงพยาบาลหัวเฉียว ระบุข้อความว่า

“เรียนท่านผู้รับบริการทุกท่าน ท่านคือคนสำคัญของโรงพยาบาล เช่นเดียวกับบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลให้บริการท่านไม่เป็นไปตามที่ท่านหวัง ท่านสามารถให้คำแนะนำแก่โรงพยาบาล ผ่านศูนย์รับข้อเสนอแนะได้ เพื่อที่ทางโรงพยาบาลจะได้ช่วยเหลือและได้ปรับปรุงการให้บริการ ทางโรงพยาบาลขอให้ท่านผู้รับบริการปฏิบัติต่อบุคลากรของโรงพยาบาลด้วยความสุภาพและเคารพในตัวผู้ให้บริการด้วยเช่นกัน ในกรณีที่ท่านปฏิบัติต่อทางบุคลากรของทางโรงพยาบาลด้วยความไม่สุภาพไม่ให้เกียรติ ทางโรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการให้บริการแก่ท่าน”

เมื่อข้อความเผยแพร่ไปให้โลกโซเชียล ก็มีทั้งความเห็นที่ชื่นชมว่า เช่น
“นี่สิตัวจริง!!!! สุดยอดโรงพยาบาลนำร่องแห่งแรกในประเทศไทย..”
หรือความเห็นที่ไม่ค่อยจะเห็นด้วย เช่น
“แพทยสภาชี้!รพ.หัวเฉียวติดป้ายเชิงไม่เหมาะสม”
ก็ต่างความคิดต่างมุมมองกันไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 กันยายน 2017, 10:15:04 โดย story »

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
มองโลกให้กว้างขึ้นอีกนิด ไปดูว่า หลายๆประเทศ เค้าก็มีปัญหาเรื่องการใช้ความรุนแรงกับบุคลากรทางการแพทย์เหมือนกัน บางประเทศรุนแรงกว่าประเทศไทยซะอีก

ขอยกตัวอย่างประเทศอังกฤษ ซึ่งบริหารจัดการงานสาธารณสุขโดย NHS ( National Heath Service) ได้ออกนโยบาย Zero Tolerance ต่อพฤติกรรมที่ก้าวร้าว และการทำร้ายบุคลากรทางการแพทย์ทั้งทางวาจา และร่างกาย (ตั้งแต่ปี 1999) หลักการสำคัญของนโยบายนี้ คือ ไม่ยอมรับอย่างสิ้นเชิง (Zero) เมื่อมีการกระทำดังกล่าว จะมีการรายงานและแจ้งตำรวจ(Report) ไม่ยอมความ (No Excuse) หากรุนแรง หรือกระทำซ้ำอีก อาจถอนรายชื่อจากการตรวจรักษา (Removal from the list) ซึ่งอาจถอนรายชื่อสมาชิกทั้งบ้านเลย (ไม่ตรวจรักษาให้แล้ว ไปหาโรงพยาบาลอื่น) มีการประกาศนโยบายนี้ไปทุกโรงพยาบาลในประเทศอังกฤษ เกือบทุกโรงพยาบาลมีป้ายประกาศที่มีใจความประมาณนี้ เค้าเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ เค้าถือว่าโรงพยาบาลจะต้องเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย (Safe) และสงบ (Calm)
……………………………………………………………………
ตัวอย่าง โรงพยาบาลในไอร์แลนด์เหนือแห่งหนึ่ง คนไข้เมาสุราไปต่อยหน้าพยาบาลประจำห้องฉุกเฉิน โดนติดคุกไป 4 เดือน นี่คือ การไม่ยอมรับ ไม่ยอมความ

คงเข็ดกันมั่งล่ะครับ หมัดเดียว โดนไป 4 เดือน
…………………………………………………………………….
อีกประเทศหนึ่ง คือ สหรัฐอเมริกา เค้าก็มีปัญหานี้เหมือนกัน ในจำนวน 52 รัฐ มีถึง 42 รัฐที่กำหนดโทษ หรือเพิ่มโทษสำหรับการทำร้ายบุคลากรเฉพาะขึ้นมา หลักการของเค้า คือ โรงพยาบาลที่ปลอดภัย(สำหรับบุคลากร) จะสามารถให้การดูแลผู้ป่วยที่ปลอดภัยมากขึ้น

เรื่องการใช้ความรุนแรงต่อบุคลากรทางการแพทย์ที่รับรู้กันผ่านสื่อต่างๆนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งเสี้ยวหนึ่งของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เปรียบเสมือนยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น มีบุคลากรจำนวนมาก(ที่ถูกกระทำ ด้วยวาจา ผ่านทางสื่อโซเชียล หรือทำร้ายร่างกาย)ที่สังคมไม่ได้รับรู้ เขาเจ็บปวด เป็นทุกข์ ทำงานอย่างไม่มีความสุข

เอาจริงเอาจังซะทีครับ วอนผู้บริหารทุกระดับให้ความสนใจ ป้องกัน ป้องปราม แก้ไข ด้วยครับ นี่ก็เป็นหนึ่งในประเด็นเรื่องคุณภาพชีวิตของบุคลากร
.......................................................................

ที่มา
https://www.facebook.com/praditc/media_set?set=a.1646463675404934.1073741874.100001239514505&type=3&notif_id=1506647368671802&notif_t=like
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 กันยายน 2017, 10:16:45 โดย story »