โรงพยาบาลพระจอมเกล้า เพชรบุรี แจงเหตุถูกโพสต์จวกปล่อยคนไข้ถูกงูกัดรอนาน ยันรักษาเต็มที่และทำตามขั้นตอน ล่าสุดอาการปลอดภัยแต่ยังต้องเฝ้าดูอาการ
สืบเนื่องจากกรณีมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความว่าน้องสาวถูกงูกัด ทางโรงพยาบาลชะอำ ได้ส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า เพชรบุรี แต่ทางโรงพยาบาลกลับให้รอนาน 4-5 ชั่วโมง กว่าหมอจะมาฉีดยาให้ ได้แต่ใส่เครื่องช่วยหายใจ ตัวงูก็มีให้เห็นว่าเป็นชนิดใด จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก แต่ต่อมาในวันเดียวกันได้มีการลบข้อความดังกล่าวทิ้งไป พร้อมกับโพสต์ข้อความใหม่ ระบุขอโทษทางโรงพยาบาล ที่โพสต์ไปเพราะว่าจิตตกและเป็นห่วงน้องนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (25 กรกฎาคม 2560) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า นายแพทย์สาธิต รัตนศรีทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า การดูแลรักษาผู้ป่วยที่ถูกงูกัดนั้น งูมีพิษมี 2 ชนิด คือ ระบบประสาทและเลือด ซึ่งระบบประสาทจะทำให้ผู้ป่วยหยุดหายใจได้ แต่ระบบเลือดจะทำให้เลือดออกง่ายหรือออกไม่หยุด โดยทางโรงพยาบาลชะอำมีการตรวจสอบร่างกายพบว่ามีอาการกลืนลำบาก จึงได้มีการใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจไว้ก่อน เนื่องจากเกรงว่าผู้ป่วยจะหยุดหายใจ ก่อนส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้าดังกล่าว
ทั้งนี้ ทางห้องฉุกเฉินก็ได้มีการเตรียมเซรุ่มแก้พิษและยาฆ่าเชื้อไว้ รวมถึงมีการตรวจสอบระบบเลือดของผู้ป่วยว่ามีความผิดปกติในเรื่องการแข็งตัวของเลือดหรือไม่ พร้อมทั้งสังเกตอาการว่ามีผลกระทบต่อระบบประสาทที่รุนแรงถึงขั้นหยุดหายใจหรือไม่ โดยคนไข้ได้ถูกส่งตัวไปพักรักษาในวอร์ดที่เป็นกึ่งวิกฤตสำหรับการดูแลคนไข้ที่มีอาการค่อนข้างจะหนัก ซึ่งขณะนี้ได้เอาเครื่องช่วยหายใจออกแล้วและผู้ป่วยหายใจเองได้ ไม่เหนื่อย แต่อย่างไรก็ตามจะต้องเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องพิษงูว่าหมดแล้วหรือยัง ตอนนี้คนไข้มีอาการต่อเนื่องคือ อาการอักเสบที่บริเวณแผล ทางแพทย์จะต้องประเมินว่าถ้าใช้ยาปฏิชีวนะช่วยในการฆ่าเชื้อจะได้ผลหรือไม่ ลุกลามหรือไม่ ถ้าไม่ได้ผล ก็ต้องทำการกรีดระบายตามแผนการรักษาอาการผู้ป่วยที่แพทย์ผู้ดูแลได้รายงานมา
สำหรับในส่วนของญาติผู้ป่วยที่มีการโพสต์ข้อความนั้น อาจเกิดจากการเข้าใจผิด แต่ก็ได้มีการโพสต์ข้อความขอโทษแล้ว เพราะเกิดจากความที่ไม่รู้และเป็นห่วงน้องสาว
อย่างไรก็ตาม ทางแพทย์เองก็ต้องขอฝากไว้ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแค่คนในพื้นที่แต่มันจะส่งผลกระทบไปยังผู้ประกอบวิชาชีพนี้ทั้งหมด ซึ่งอยากให้รู้ไว้ว่าแพทย์และพยาบาลทุกคนก็มีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อดูแลผู้ป่วยอยู่แล้ว
ขณะที่ พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า หมอและพยาบาลทั่วประเทศต้องรักษาผู้ป่วยปีละ 240,000,000 ครั้ง หรือเฉลี่ยวันละ 600,000 ครั้ง จึงอาจจะต้องรอบ้าง ซึ่งปัญหาทั้งหมดอาจไม่ใช่ที่การขาดแคลนบุคลากรเท่านั้น แต่เกิดจากการบรรจุของภาครัฐ รวมถึงสัดส่วนของคนไข้และหมอที่ไม่เท่ากัน พร้อมวอนขอกำลังใจและเห็นใจด้วย
https://hilight.kapook.com/view/15720725 กรกฎาคม 2560
