ผู้เขียน หัวข้อ: 'รพ.สิงห์บุรี' ย้ำลดต้นทุนทุกวิธีแต่ยังเอาไม่อยู่ เชื่อแยกเงินเดือนช่วยได้มาก  (อ่าน 544 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด

'รพ.สิงห์บุรี' ย้ำลดต้นทุนทุกวิธีแต่ยังเอาไม่อยู่ เชื่อแยกเงินเดือนช่วยได้มาก
Mon, 2017-07-10 19:50   -- hfocus

ผอ.รพ.สิงห์บุรี เผยงบรายหัวหักเงินเดือนออกแล้วเหลือแค่ 85 บาทแต่ที่ยังอยู่ได้เพราะอาศัยบุญเก่า คาดอีกไม่กี่ปีสถานะการเงินติดลบ ย้ำพยายามลดต้นทุนทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ยังขาดทุน เชื่อหากแยกเงินเดือนจากงบรายหัวจะช่วยจังหวัดเล็กได้เยอะมาก

พญ.วนิดา สาดตระกูลวัฒนา

พญ.วนิดา สาดตระกูลวัฒนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิงห์บุรี ให้ความเห็นถึงการแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2545 ในประเด็นการแยกเงินเดือนออกจากงบเหมาจ่ายรายหัวว่า ในบริบทของจังหวัดเล็กและมีประชากรน้อยการแยกเงินเดือนจะช่วยได้มาก ที่ผ่านมาโรงพยาบาลสิงห์บุรีพยายามลดต้นทุนในทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ยังขาดทุนอยู่ แต่ที่ยังอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะยังมีทุนเก่าที่เคยมีและก็ลดลงไปเรื่อยๆ คาดว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โรงพยาบาลสิงห์บุรีก็คงจะมีสถานะทางการเงินติดลบเหมือนที่อื่นๆ

“ถ้ามีการแยกเงินเดือนออกจะช่วยได้เยอะ ตอนนี้รายรับจากค่าเหมาจ่ายรายหัวของเรา เมื่อหักเงินเดือนแล้วเหลือเพียง 85 บาท และที่ผ่านมาก็พยายามลดต้นทุนแล้ว เช่น ลดคนหรือรวมตึกที่มีอัตราการครองเตียงน้อยมารวมเป็นหน่วยเดียวกันแต่ก็ยังไม่ได้ เพราะโรงพยาบาลทั่วไปมันต้องมีขั้นต่ำอยู่ว่าต้องมีแผนกอะไรบ้าง ต้องมีเจ้าหน้าที่อะไรจำนวนเท่าไหร่บ้าง สมมุติเช่น ตึกคนไข้ตึกหนึ่งต้องมีพยาบาลขึ้นเวรอย่างน้อยเวรละ 2 คน ถ้าลดเหลือคนเดียวก็ไม่ได้เพราะจะเป็นความเสี่ยง แล้วขึ้นเวรวันหนึ่งถ้ามี 3 เวรเช้า บ่าย ดึก มันก็วนไปอย่างนี้ ใน 3-4 ปีที่ผ่านมานี้ เราลดไป 50-60 คนแล้ว มันลดเต็มที่ได้เท่านี้ ถ้าลดกว่านี้มันจะกระทบซึ่งเราก็ไม่อยากให้คุณภาพบริการเราด้อยกว่าที่อื่น” พญ.วนิดา กล่าว

พญ.วนิดา กล่าวอีกว่า แม้ในหลักการการรวมเงินเดือนในงบเหมาจ่ายรายหัวจะต้องการให้มีการกระจายตัวของบุคลากร แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ส่วนตัวแล้วคิดว่าช่วยได้น้อยและอาจต้องมีระบบอื่นมาช่วยด้วย

พญ.วนิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในประเด็นเรื่องการกำหนดกรอบอัตรากำลังซึ่งกระทรวงสาธารณสุขพยายามดำเนินการอยู่เป็นเรื่องของภาพกว้างระดับประเทศ แต่อาจจะไม่เหมาะกับโรงพยาบาลสิงห์บุรี เนื่องจากโรงพยาบาลสิงห์บุรีมีลักษณะพิเศษต่างจากที่อื่นคือมีห้องพิเศษอยู่ในอัตราที่สูงถึง 40% ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยสร้างรายได้ให้โรงพยาบาล แต่อัตราส่วนการใช้เจ้าหน้าที่ก็จะเยอะกว่า เช่น ห้องสามัญใช้พยาบาล 1:8 แต่ห้องพิเศษก็อาจจะใช้มากขึ้น เป็น 1:6 ซึ่งทางโรงพยาบาลก็กำลังจะยกประเด็นนี้มานำเสนอประเด็นนี้ให้ผู้บริหารรับทราบ

Mon, 2017-07-10 19:50   -- hfocus