จดหมายเปิดผนึกถึงรมต.สาธารณสุข
เรื่อง ขอให้ชี้แจงและขอให้ดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
16 กุมภาพันธ์ 2560
เรื่อง ขอให้ชี้แจงและขอให้ดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
เรียน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
อ้างถึง คำสั่งแต่งตั้งกรรมการแก้ไขพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
สิ่งที่ส่งมาด้วย คำอธิบายของปปช.เกี่ยวกับการทุจริตประพฤติมิชอบ
ตามคำสั่งที่อ้างถึงนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. 2545 โดยพบว่าบุคคลที่เป็นกรรมการส่วนใหญ่ ที่มิใช่กรรมการโดยตำแหน่งนั้น ล้วนมาจากกลุ่มผู้ที่เคยเป็นกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นส่วนมากที่สุดถึง 5 คน ได้แก่นายณรงศักดิ์ อังคะสุวพลา นายอัมมาร สยามวาลา นายพลเดช ปิ่นประทีป นส.ทัศนา บุญทอง นายกิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นส.สุรีรัตน์ตรมรรคา นางยุพดี สิริสินสุข และเจ้าหน้าที่หรือบุคลากรที่ทำงานใกล้ชิดและรับทุนวิจัยจากสปสช.เช่นนางวร;รรณ ชาญด้วยวิทย์ นายจิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ นายประจักษ์วิทย์ เล็บนาค นายพรหมมินทร์ หอมหวล
จึงเห็นว่าการตั้งคณะกรรมการแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไม่มีรายชื่อผู้ปฏิบัติงานที่ต้องรับผลงานการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งส่วนมากคือบุคลากรสาธารณสุขที่ทำงานในสถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขอยู่เลย ทั้งๆที่เป็นกลุ่มบุคคลจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบและได้รับปัญหามากมายจากการบริหารงานของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและสปสช.
ซึ่งการมีกรรมการแก้ไขกฎหมายจากคนกลุ่มเดียวเป็นส่วนมาก อาจจะทำให้การแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติครั้งนี้ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการบริหารงานของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สปสช.ที่มีผลกระทบต่อการบริหารและการจัดบริการสาธารณสุขของสถานพยาบาลที่ต้องรับงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อันเป็นผลกระทบต่อคุณภาพมาตรฐานและประสิทธิผลและประสิทธิภาพในการให้บริการดานการแพทย์และสาธารณสุขแก่ประชาชนที่
จึงขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่จะแก้ไขใหม่นี้ ก่อนที่จะนำร่างพ.ร.บ.ที่แก้ไขใหม่เข้าพิจารณารับรองให้ออกมาเป็นกฎหมายในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
อนึ่ง จากพ.ร.ฎ.พิจารณาความเหมาะสมของกฎหมายพ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๙ ในการพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของกฎหมาย ให้รัฐมนตรีผู้รักษาการพิจารณาทบทวนในเรื่องดังต่อไปนี้
(๗) การป้องกันและขจัดการทุจริตประพฤติมิชอบที่เกิดขึ้นจากการใช้กฎหมายนั้น
จึงขอเสนอว่า การแก้กฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติครั้งนี้ ต้อง ปิดรูรั่ว ไม่ให้มีการทุจริตประพฤติมิชอบ การขัดกันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest ) ของกรรมการและเลขาธิการ รองเลขาธิการสปสช. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการอนุมัติเงินทุกตำแหน่ง และขอให้กำหนดให้กรรมการ เลขาธิการและรองเลขาธิการสปสช.เป็นบุคคลตามมาตรา ๑๐๐ ของปปช. และต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินตามกฎหมายปปช.ด้วย
นอกจากนั้น การแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินี้ ควรกำหนดให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นหน่วยราชการที่ทำหน้าที่บริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพ แบบเดียวกับที่กรมบัญชีกลางและสำนักงานประกันสังคม ที่บริหารงบประมาณทั้ง 2 ระบบ สวัสดิการข้าราชการและประกันสังคม)ต่างก็เป็นหน่วยงานราชการ ซึ่งจะประหยัดงบประมาณค่าตอบแทนบุคลากร และสารถบังคับบัญชาและตรวจสอบการบริหารงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธฺภาพ รวมทั้งสามารถป้องกันและแก้ไขการทุจริตประพฤติมิชอบได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
จึงขอให้รัฐมนตรีชี้แจงเรื่องสัดส่วนของคณะกรรมการแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และให้กำชับเรื่องการแก้ไขเนื้อหากฎหมายที่แก้ไขใหม่ ว่าจะสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ และการเปิดรับฟังความคิดเห็น (ประชาพิจารณ์)อย่างกว้างขวางทุกภาคส่วน จากผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากกฎหมายใหม่นี้ ก่อนที่จะส่งให้ครม.ส่งสนช.เพื่อพิจารณาออกเป็นกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการบริการสาธารณะด้านสาธารณสุขให้มีความสะดวก รวดเร็ว มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล และมีความปลอดภัยสำหรับประชาชน และบุคลากรสาธารณสุข ทั่วหน้ากัน
จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอแนะนี้ เพื่อประโยชน์แก่การบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพ การจัดบริการสาธารณะด้านสาธารณสุข และพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการแพทย์เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่ประชาชนไทยทั่วหน้ากัน
ขอแสดงความนับถือ
พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา
ที่ปรึกษากิติมศักดิ์ สนช.
