ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำลด ราผุด และ แนวทางกำจัด เชื้อราภายในบ้านและวัสดุเครื่องเรือนหลังน้ำท่วม  (อ่าน 1304 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9755
    • ดูรายละเอียด
น้ำลด ราผุด” และ แนวทางกำจัด เชื้อราภายในบ้านและวัสดุเครื่องเรือนหลังน้ำท่วม

ภายหลังน้ำลดแล้ว บางครั้งเราสามารถเจอ เชื้อราในบ้าน และอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง ได้ เช่น เฟอร์นิเจอร์ วอลเปเปอร์ ฝ้า ผนัง หนังสือ เครื่องเรือน เครื่องหนัง เครื่องใช้ไฟฟ้า ห้องน้ำ เพดานท่อน้ำที่มีการรั่วซึม และอุปกรณ์อื่นๆที่มีการเปียกชื้น
วัสดุที่เปียกที่ถูกน้ำท่วมมักจะมีความชื้นสูงและมีอากาศไม่ถ่ายเท ซึ่งสภาพแวดล้อมดังกล่าวเหมาะต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราบางชนิดได้  ซึ่งบางคนอาจมีความไวต่อการเชื้อราดังกล่าว เมื่อหายใจเอาสปอร์ของเชื้อราเข้าไป อาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจได้ โดยเชื้อราอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ต่างๆได้ เช่น เกิดอาการคัดจมูก หอบหืด ไอ หายใจไม่ออก

บางคนได้รับสปอร์ของเชื้อราเข้าไปนานๆและปริมาณมาก ก็อาจทำให้เนื้อเยื่อปอดผิดปกติได้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยอาจมีความเสี่ยงต่อโรคดังกล่าวมากที่สุด

เชื้อราเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทจุลินทรีย์ จัดเป็นเซลล์ยูคาริโอต อยู่ในอาณาจักรรา  เชื้อรามีระบบสืบพันธุ์ที่เรียกว่าสปอร์ทั้งอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ  ซึ่งมีทั้งชนิดที่ก่อให้เกิดโรค และชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดโรค    เชื้อราที่พบในบ้านหลังน้ำท่วมส่วนใหญ่มักจะพบบนวัสดุที่เปียกชื้นและมีปัจจัยสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโต    เช่นเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกน้ำท่วมมีองค์ประกอบของไม้และน้ำตาลเชิงไม่ซับซ้อนอาจเป็นอาหารอย่างดีของเชื้อรา ซึ่งนำไปสู่การเสื่อมสภาพและสร้างความเสียหายต่อ เฟอร์นิเจอร์ ยิ่งไปกว่าน้ำถ้าเป็นราที่ก่อให้เกิดโรคนำไปสู่ผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้

บ้านและเครื่องเรือนที่ถูกน้ำท่วมอาจสามารถมองเห็นโคโลนีของเชื้อราบนพื้นผิวของวัสดุได้ด้วยตาเปล่า    โคโลนีของเชื้อรามักมีมีรอยจุด สีต่างๆ เช่นสีดำ (เป็นสีที่พบมากที่สุด) สีน้ำตาล สีเขียว สีแดง สีเหลือง สีขาว เป็นดวงและมีกลิ่นอับ ๆ นั่นคือสัญญาณบอกให้รู้ว่าเชื้อราได้เข้าโจมตีบ้านและวัสดุที่เปียกเข้าให้แล้ว

สีโคโลนีของเชื้อราดังกล่าวคือกลุ่มสปอร์ขนาดเล็กจำนวนมาก ขึ้นอยู่กับสกุลและสายพันธุ์เชื้อรา   มีการรายงานการปนเปื้อนของเชื้อราบางสกุลหรือ จีนัสมักพบกับ วัสดุ เช่น หนังสือ เฟอร์นิเจอร์ที่เปียกชื้น เช่นจีนัส Aspergillus  จีนัส Cladosporium จีนัส Chaetomium จีนัส Trichoderma จีนัส Stachybotrys และเชื้อราในสกุล Epicoccum เชื้อราดังกล่าวมักถูกพบอยู่บ่อยครั้ง

ขั้นตอนง่ายๆทำลายเชื้อรา 6 ขั้นตอน  ดัดแปลงจากคู่มือ “A Brief Guide to Mold, Moisture and Your Home”
 
1. สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย

โดยเฉพาะคนที่มีความไวต่อสปอร์เชื้อรา ควรสวมหน้ากากป้องกัน หรือ  เครื่องช่วยหายใจที่รับการจัดอันดับ     (N - 95 หรือสูงกว่า) หน้ากากป้องกันบางชนิดอาจมีวาล์วเพื่อให้ง่ายต่อการหายใจ   ควรสวมถุงมือ รองเท้าบู๊ทยาง และสวมใส่แว่นป้องกันตา เพื่อป้องกันการสัมผัสทางผิวหนังโดยตรง ในระหว่างการทำความสะอาด

2. แยกพื้นที่ทำงานและระบายอากาศ

โคโลนีของเชื้อราในระหว่างการทำความสะอาดสามารถปล่อยสปอร์จำนวนมากไปในอากาศได้ ควรเปิดประตู หน้าต่าง ม่าน ให้อากาศถ่ายเทในห้อง ให้มีแดดส่องถึง และไม่ควรใช้ระบบระบายอากาศภายในบ้าน หรือเปิดแอร์ และพัดลมในระหว่างการทำความสะอาดป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อรา

3. เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่างๆที่พบเชื้อรา

โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากวัสดุที่มีลักษณะเป็นรูพรุนซึ่งไม่สามารถชำระล้างและทำให้แห้งได้     รวมทั้งที่ปูพรม เบาะผ้าและที่นอน ฟูก วอลเปเปอร์  ฝ้าผนัง  แผ่นยิปซั่ม ผลิตภัณฑ์ไม้แผ่นฝ้า ไม้เนื้ออ่อน ผลิตภัณฑ์กระดาษ หนังสือและเครื่องเรือนที่เป็นวัสดุที่มีลักษณะเป็นรูพรุน    เพื่อลดการแพร่กระจายของสปอร์ราและทำลายแหล่งเพาะเชื้อรา  อุปกรณ์ต่างๆ ควรทิ้งใส่ในถุงพลาสติกและมัดอย่างดี กันแพร่กระจายของเชื้อราสู่อากาศ       ทั้งนี้โดยให้พิจารณาว่าสิ่งของใดก็ตามและอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องที่ไม่สามารถกำจัดเชื้อราได้หมดหลังจากทำความสะอาดฆ่าเชื้อและไม่สามารถทำให้แห้งได้  ไม่ควรเก็บไว้  อย่าเสียดาย  ให้ทิ้งไปให้หมด

4. ทำความสะอาดและการทำลายเชื้อรา

ทำความสะอาดโดยการขัดล้างให้เร็วที่สุด  ภายใน  24  ถึง 48 ชั่วโมงหลังน้ำท่วมลดลง  พวกวัสดุที่ไม่มีลักษณะเป็นรูพรุนรวมทั้ง อุปกรณ์ต่างๆบางประเภทที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ไม่ต้องทิ้ง เช่นพลาสติก คอนกรีต กระจก กระเบื้องเซรามิค โลหะ และไม้เนื้อแข็ง (เชื้อราไม่สามารถเจาะไม้เนื้อแข็งได้)  อย่าลืมเปิดประตูและหน้าต่างเพื่อระบายอากาศตามวิธีที่กล่าวมาแล้วข้อ 2          และสวมถุงมือยางทุกครั้ง   ถ้ามีพื้นที่ด้านนอก ให้ขยับอุปกรณ์ต่างๆออกมาพึ่งอากาศที่โปร่งโล่ง กลางแจ้ง หรือที่มีแดดส่องถึง ประมาณ สอง ถึงสามวัน ก็ยิ่งดี

ส่วนการทำลายเชื้อรา เริ่มแรกควรล้างด้วยน้ำและสบู่หรือผงซักฟอกเพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกก่อน  แล้วตามด้วยการขัดล้างด้วยน้ำยาโซเดียมไฮโปคลอไรด์ 0.5 เปอร์เซนต์ (NaOCl) หรือ ใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้าขาว ที่มีส่วนผสมของ โซเดียมไฮโปคลอไรด์ ที่มีชื่อทางการค้าว่า “ไฮเตอร์” นำน้ำยาซักผ้าขาวชนิดนี้ ผสมกับน้ำ โดยมีอัตราส่วน 3-5 ต่อ 1 เพื่อฆ่าเชื้อราได้ (น้ำยาซักผ้าขาว ชนิดนี้มีส่วนผสมของสารละลาย คลอรอกซ์ โดยทั่วไปจะเรียกว่าคลอรีนน้ำ มีสมบัติในการฟอกจางสี กัดกร่อนอย่างรุนแรง และทำลายจุลินทรีย์ได้ดี นิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเพื่อทำความ สะอาด ดังนั้นเวลาใช้ต้องเจือจางก่อน) หรือ หาซื้อผลิตชื่อทางการค้าอื่นๆที่มีสารโซเดียมไฮโปคลอไรด์ผสมอยู่  เราสามารถดูข้างฉลากว่ามีสารเคมีที่สามารถฆ่าเชื้อราได้  สามารถหาซี้อได้ตามท้องตลาด และ ซุปเปอร์มาเกตทั่วไป

@ ถ้าเป็นการการขัดผนังปูนหรือพื้นผิวที่หยาบควรขัดด้วยแปรงชนิดแข็ง ถ้าไม่สามารถหาซื้อได้ให้ อาจผสมน้ำยาใช้เองโดยใช้ผงฟอกขาวที่มีใช้อยู่ตามบ้านและตามท้องตลาดผสมกับน้ำ โดยมีอัตราส่วน 1 ต่อ 1 เช่นใช้ ปริมาณ 1 ถ้วยตวงของผงฟอกขาว ผสมกับน้ำ 1 แกลลอน (ประมาณ 3. 8 ลิตร)

@หากพบเชื้อราขึ้นเป็นจุด ๆดวงๆ บน วอลเปเปอร์ และ ผนัง อาจใช้ เช็ดแอลกอฮอล์ล้างแผล 70 เปอร์เซนต์ ผสม กับ กรดซาลิไซลิก โดยมีอัตราส่วน 5 ต่อ 1 หรือหากพบว่ามีเชื้อราเป็นจำนวนมาก เกินกว่าจะกำจัดไหว ก็ควรเปลี่ยนวอลเปเปอร์และ ผนังเสียใหม่ดีกว่า

@หากพบเชื้อราขึ้นบน หนังสือ และ เครื่องเรือนประเภทไม้ อย่าใช้ผ้าชุบน้ำ เช็ด เพราะ น้ำ ทำให้เกิดการสะสมความชื้นอีก และทำให้เกิดเชื้อรามากขึ้น      ในการทำความสะอาดผลิตเครื่องเรือนประเภทไม้ อาจใช้ผ้าชุป แอลกอฮอล์ 70 ปอร์เซนต์ หรือ ฟอร์มาลีนเจือจางเช็ด และแล้วปล่อยให้แห้งเอง หากมีเชื้อราขึ้นมากเกินการกำจัด ก็ควรเปลี่ยนไม้ดีกว่าและทิ้งไปเลย ถึงแม้ว่าได้ทาแลกเกอร์เคลือบผิวก็ตาม

@หากพบเชื้อราขึ้นบนเครื่องเรือนและอุปกรณ์ประเภทเครื่องหนังให้ใช้น้ำส้มสายชู เช็ดถู หลาย ๆ ครั้ง เนื่องจากน้ำส้มสายชูมีสภาพเป็นกรดสามารถทำลายเชื้อราได้ หลังจากแห้งแล้วเราสามารถเช็ดทำความสะอาดโดยวิธีอื่นๆเพิ่ม เช่น ใช้น้ำยาทำความสะอาดอีกครั้ง บางกรณีอาจใช้ครีมเช็ดรองเท้ามาเช็ดถูปิดท้าย

@หากพบเชื้อราขึ้นบนเครื่องเรือนและอุปกรณ์ประเภทที่ทำจาก ผ้า เช่น เสื้อผ้า ปอกหมอน ม่านและเครื่องนอนต่างๆ ให้ต้มน้ำร้อนเดือดฆ่าเชื้อรา ทั้งนี้สามารถใช้วิธีอื่นๆร่วมด้วยเช่น ใช้น้ำยาซักผ้าขาว ที่มีส่วนผสมของ โซเดียมไฮโปคลอไรด์แช่ไว้ก่อน   หากมีเชื้อราขึ้นมากเกินกำจัด ก็ควรเปลี่ยนและทิ้งไปเลย

@นอกจากนี้หากพบเชื้อราฝังตัวอย่างแน่นหนาตามเครื่องเรือนประเภทไม้ ผนัง วอลเปเปอร์ ที่ไม่สามารถกำจัดออกได้ โดยการขัดล้าง ทำความสะอาด    โดยเฉพาะการฝังซ่อนตัวภายในชั้นวัสดุแทรกภายใน ซึ่งไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ แนะนำให้เปลี่ยนใหม่   ไม่ควรทาสีกลบทับเพราะไม่สามารถทำลายสปอร์ที่เหลือได้และอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราขึ้นได้ภายหลัง

 ข้อควรระวัง ควรศึกษาคู่มือการใช้ยาฆ่าเชื้อราที่ผสมในผลิตสำเร็จรูปบางยี่ห้อโดยให้ปฏิบัติตามป้ายและคำเตือนในการใช้อย่างระมัดระวัง

5. การทำให้แห้ง

หลังจากทำความสะอาดและฆ่าเชื้อราในบ้านแล้ว ให้ใช้พัดลมเป่าในบ้านและอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง   ยิ่งไปกว่านั้นควรเปิดหน้าต่าง เปิดประตู เพื่อดึงสปอร์ราที่อยู่ในอากาศในบ้านออกไปนอกตัวบ้านหรืออาคารให้มากที่สุด   โดยใช้เวลา พึ่งลมประมาณ 1 ชั่วโมง หรือ มั่นใจว่า บ้าน และอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องแห้งสนิทแล้ว หากบ้านไหนมีเครื่องลดความชื้นก็อาจใช้ร่วมด้วย บางกรณีอาจเลือกการทำให้แห้งของอุปกรณ์ต่างๆที่มีขนาดเล็กสามารถใช้เครื่องเปล่าผมไฟฟ้าซึ่งเป็นความร้อนแห้ง ช่วยทำให้แห้งไวขึ้น 

6. ตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้ง

ภายหลังจากความสะอาดแล้วผ่านไป 2 ถึง 3 วัน แล้ว ให้ มองหาสังเกตการเจริญเติบโตของเชื้อรา ซึ่งเชื้อราอาจถูกพบและเจริญเติบโตซ้ำได้ ถ้าวัสดุ เครื่องเรือน ดังกล่าวยังไม่แห้งดีพอ ซึ่งมีความชื้นอยู่  ถ้ายังพบเชื้อราอีกให้ทำความสะอาดซ้ำโดยวิธีที่กล่าวด้านบน ข้อ 1-ข้อ 5    โดยเฉพาะบ้านที่ใช้เครื่องปรับอากาศ อาจมีความบกพร่องของเครื่องปรับอากาศ ในการดึงความชื้นออกจากอากาศภายในห้องได้ไม่ดีเท่าที่ควรอาจเป็นสาเหตุหนึ่งในการกลับมาของเชื้อราดังกล่าว ควรเรียกช่างแอร์ทำการแก้ไขโดยด่วน  กรณีการตรวจสอบปัจจัยต่างๆโดยละเอียด ถ้ายังพบเชื้อราอีกอาจจะต้องตรวจสอบระบบการระบายอากาศ  ระบบแอร์ทั้งหมด ระดับความชื้นภายในอาคารด้วย ระดับอุณหภูมิ และสิ่งแวดล้อมทื่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจต้องมีการนำเครื่องมือเฉพาะทางมาตรวจสอบเชื้อรา

หมายเหตุ  การเก็บตัวอย่างเชื้อรามาตรวจสอบด้วยละเอียดเพื่อกรณีระบุว่าเชื้อราดังกล่าวเป็นตัวทำให้เกิดภูมิแพ้ เช่น เชื้อรา แอสเปอร์จิลลัส ฟูมิกาตัส (Aspergillus fumigatus) เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคระบบทางเดินหายใจ สามารถส่งบริการทั้งต่างประเทศและภายในประเทศ ซึ่งในประเทศไทยการระบุชนิดของเชื้อราและการตรวจเชื้อราทางห้องปฏิบัติการ โดยดูรูปลักษณะสัณฐานวิทยาและใช้เทคนิคเชิงโมเลกุลมาช่วยจำแนก สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านราวิทยาโดยตรง เช่น การบริการการจำแนกเชื้อรา ในมหาวิทยาลัยรัฐบางแห่ง สถาบันวิจัยของภาครัฐบางแห่ง หน่วยงานในกำกับของกระทรวงของภาครัฐบางแห่ง


เอกสารและข้อมูลอ้างอิง

@ ห้องปฏิบัติการราวิทยา หน่วยวิจัยการเทคโนโลยีทรัพยากรชีวภาพ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) http://www.biotec.or.th/mycology/
@อ้างอิงบางส่วนจาก คู่มือ “A Brief Guide to Mold, Moisture and Your Home” ของhttp://www.epa.gov/mold/moldguide.html
@อ้างอิงบางส่วนจาก www.epa.gov/mold/pdfs/moldguide.pdf
@อ้างอิงบางส่วนจาก “Mold Removal Guidelines For Your Flooded Home” ของ Louisiana State University Agricultural Center
@อ้างอิงบางส่วนจาก http://www.vcharkarn.com/my/154/blog
@อ้างอิงบางส่วนจาก http://inspectapedia.com/sickhouse/mold.htm
@อ้างอิงบางส่วนจาก www.vcharkarn.com/vcafe/134208
@อ้างอิงบางส่วนจาก www.vcharkarn.com/vcafe/66372
@อ้างอิงบางส่วนจาก www.vcharkarn.com/vblog/114955/1/30

24 พย 2554