ผู้เขียน หัวข้อ: หมอห่วงทหารใจดีติดเชื้อที่อวัยวะเพศหากแช่น้ำนาน ชี้ สุดอันตราย  (อ่าน 1385 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
 แพทย์ห่วงทหารใจดี ช่วยประชาชนช่วงน้ำท่วม แช่น้ำนานเท้าอาจเน่า-ติดเชื้อในอวัยวะเพศ ขณะที่ทหารหลายรายมีอาการติดเชื้อที่บริเวณขาหนีบ อวัยวะเพศ และ บางคนมีภาวะบวมแดงติดเชื้อที่อัณฑะ ชี้ หากดูแลไม่ดีเสี่ยงเป็นหนอง
       
       วานนี้ (16 พ.ย.) พญ.วิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวภายหลังจากรับมอบยาสำหรับทาแผลติดเชื้อฟิวิดีนครีม และยาหยอดตาฟิวซิทาลมิค ของบริษัท LEO Pharma ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเวชภัณฑ์ยาที่เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังสำหรับผู้ป่วยวิกฤตจากประเทศเดนมาร์ก มูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท ว่า จากการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม พบว่า ขณะนี้ ตัวเลขของผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางผิวหนัง ที่เกิดจากการลุยน้ำเป็นเวลานาน รวมทั้งถูกของมีคมบาด จนเป็นแผลเพิ่มขึ้นอย่างมาก ที่น่าเป็นห่วงอีกกลุ่มหนึ่ง ก็คือ ทหาร เจ้าหน้าที่ และ จิตอาสา ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นเวลานาน กำลังประสบปัญหาอย่างมาก จากโรคติดเชื้อทางผิวหนัง ซึ่งการติดเชื้อบาดแผลในลักษณะนี้ หากไม่มีการดูแลที่ดีพอ จะเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ทำให้เชื้อโรคที่มากับน้ำเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย โดยเชื้อโรคจะทำให้แผลอักเสบ เกิดการติดเชื้อและอาจลุกลามจนเป็นอันตรายร้ายแรงได้ เนื่องจากกระแสน้ำ พัดพาสิ่งสกปรก เชื้อโรค ของเสียและสารเคมีกระจายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ขณะนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ อย่างมาก

แฟ้มภาพ
       ด้านนพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้รับผิดชอบหน่วยแพทย์และรพ.สนามของกรมการแพทย์ในพื้นที่เขต กทม.กล่าวว่า แหล่งน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ก่อให้เกิดแผลติดเชื้อ ผิวหนังอักเสบ (dermatitis) น้ำกัดเท้า และโรคตาแดง ซึ่งเกิดจากการติดต่อสัมผัสโดยตรงกับน้ำ ที่น่าเป็นห่วงคือ ขณะนี้ ทหารจำนวนหลายสิบรายมีอาการติดเชื้อจากแผลน้ำกัด และแผลที่ถูกของมีคมบาด อีกทั้งในบางพื้นที่ที่น้ำท่วมสูงในระดับเอว หรือ อก พบว่า ทหารหลายรายมีอาการติดเชื้อที่บริเวณขาหนีบ อวัยวะเพศ และ บางคนมีภาวะบวมแดงติดเชื้อที่อัณฑะ ซึ่งถือว่าอันตรายมาก ที่สำคัญ ทหารเหล่านี้เหน็ดเหนื่อยกับการทำงานมานาน อาจไม่มีเวลาพักผ่อน ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำ โอกาสที่จะติดเชื้อรุนแรงก็เป็นไปได้สูง ยิ่งหากไม่มีการดูแลที่ดีพอ อาจลุกลามเป็นหนองและมีไข้ร่วมด้วย
       
       ด้านนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัญหาการติดเชื้อที่บาดแผลขณะนี้ พบว่า จำนวนผู้ป่วยเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียในชั้นหนังกำพร้า โดยได้รับเชื้อมาจากผู้สัมผัส หรือจากการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนบน เมื่อเกิดรอยข่วน หรือรอยถลอกที่ผิวหนัง แม้แต่เพียงเล็กน้อยก็สามารถเกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังได้ โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
       
       ที่น่าเป็นห่วงอีกเรื่องหนึ่ง ก็คือ บาดแผลที่ได้รับจากการบาดเจ็บ อาจมีการติดเชื้อที่อาจจะก่อให้เกิดโรคบาดทะยัก เช่น เชื้อ Tetanus เนื่องจากบาดแผลสกปรกมากที่ผ่านมาพบได้ไม่บ่อย แต่ก็เป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะในช่วงที่น้ำลด อาจมีดิน โคลน หรือน้ำขังเฉอะแฉะที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อเหล่านี้ รวมทั้งแบคทีเรียเลปโตสไปรา ที่ทำให้เกิดโรคเลปโตสไปโรซีสหรือโรคฉี่หนูด้วย
       
       ด้านภก.วิรัตน์ โพธิ์ทองคำนธุ์ ผู้จัดการอาวุโสบริษัท LEO Pharma กล่าวว่า ยาที่นำมามอบให้ครั้งนี้ เป็นยาจากต่างประเทศ ที่สามารถฆ่าเชื้อจากการติดเชื้อที่ผิวหนังได้ ส่วนยาหยอดตา เป็นยาหยอดตาชนิดพิเศษ มีลักษณะเป็นเจลสำหรับใช้รักษาโรคตาแดงที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากผู้ประสบภัยต้องอยู่กับน้ำที่ไม่สะอาด อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียทีทำให้ตาแดงและตาอักเสบได้ ยาตัวนี้จะช่วยครอบผิวที่ดวงตาพร้อมกับฆ่าเชื้อได้ด้วย

ASTVผู้จัดการออนไลน์    16 พฤศจิกายน 2554