รมว.สาธารณสุขรุดเยี่ยมผู้ป่วยน้ำท่วมที่รีเฟอร์มาโคราชกว่า 90 ราย ตายแล้ว 1 ราย ขั้นโคม่าอันตราย 20 ราย สั่งดูแลใกล้ชิดห้ามตายอีก ยืนยันยาไม่ขาดแน่นอน เตรียมส่งเพิ่มอีก 100 ราย...
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ห้องประชุมหลวงพ่อพุธ ฐานิโย อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 9 รพ.มหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข และคณะ เดินทางไปรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ผู้ป่วยที่ถูกส่งตัวมาจาก รพ.ธรรมศาสตร์รังสิต และ รพ.นพรัตนราชธานี เพื่อมารักษาต่อ พร้อมกับไปเยี่ยมเยียนและมอบของขวัญเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยหายโดยเร็ว โดยมี นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.นครราชสีมา นพ.วิชัย ขัตติยะวิทยากุล สสจ.นครราชสีมา นพ.ธีรพล โตพันทานนท์ ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา พ.ต.อ.ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบก.สส.ตร.ภ.3 รวมทั้งคณะผู้บริหาร รพ.มหาราชฯ แพทย์ และพยาบาล ต้อนรับ โดยรับฟังกว่า 1 ชม. จากนั้นได้ขึ้นไปยังตึกเก่า 8 ชั้น เพื่อเยี่ยมผู้ป่วยที่ถูกส่งตัวมารักษาที่ชั้น 8 และชั้น 7 พร้อมมอบของขวัญและให้กำลังใจญาติๆ ของผู้ป่วย
นพ.ธีรพล กล่าวว่า รายงานสรุปการรับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง เข้ามารักษาต่อ รพ.มหาราชฯ รับผู้ป่วยจากเหตุการณ์น้ำท่วมทั้งหมด 122 ราย ส่งต่อโดยโรงพยาบาล 97 ราย ญาติผู้ป่วยนำมาเอง 25 ราย ในจำนวนนี้รับไว้ 99 ราย และตรวจแบบไป-กลับ 23 ราย ในจำนวน 99 รายที่รับไว้ ขณะนี้เป็นผู้ป่วยที่ทั่วไป อาการไม่หนัก 79 ราย ผู้ป่วยอาการหนักและอันตราย 20 ราย ในจำนวนนี้ 13 รายต้องใส่ท่อช่วยหายใจและใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งทาง รพ.นพรัตนฯ ได้นำเครื่องช่วยหายใจ 7 เครื่อง ใส่เครื่องบินมาช่วย
ผอ.รพ.มหาราชฯ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยเหลืออยู่ 71 ราย จาก 99 ราย จำหน่ายไปแล้ว 28 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตไป 1 ราย เป็นผู้หญิง อายุ 45 ปี เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ส่งมาวันที่ 22 ต.ค.54 เสียชีวิตวันที่ 26 ต.ค.54 ขณะที่มีผู้ป่วยต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และต้องใช้เครื่องหายใจเข้าห้องไอซียู.ตั้งแต่วันแรกที่มา นอกจากนั้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน 17 ราย ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลชุมชน หรือ รพ.นครราชสีมา 9 ราย อีก 2 รายไปพักฟื้นอยู่ที่ศูนย์คนชรา อ.วังน้ำเขียว ซึ่งดูแลทั้งอาหารและที่พัก เพราะไม่สามารถกลับบ้านที่ถูกน้ำท่วมใน กทม.ได้
ด้าน นายวิทยา กล่าวว่า ตนต้องการมาดู รพ.มหาราชนครราชสีมา ว่าสามารถรองรับได้เพิ่มอีกหรือไม่ เนื่องจากมีคนไข้ที่ส่งต่อมาจากกรุงเทพฯ ร่วม 100 ราย ตรงนี้ศักยภาพของโรงพยาบาลเองกับบุคลากรที่ออกไปช่วยอย่างน้อยก็ได้เห็นสภาพ และพร้อมที่จะรองรับตัวนี้ เพราะถือว่าในเขตจังหวัดปริมณฑลกรุงเทพฯ เกิดผลกระทบ ที่นี่รองรับได้ ขอขอบคุณ ผอ.รพ.และคณะแพทย์ นอกจากจะรับแล้วยังส่งทีมไปช่วยเหลือในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม เช่น ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ และกรุงเทพฯ
รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า ส่วนการย้ายผู้ป่วยในส่วนที่รีเฟอร์แล้ว ส่งต่อคนไข้ก็ประเมินจากความปลอดภัยของคนไข้เป็นหลัก ฉะนั้น การส่งต่อผู้ป่วยถ้าเราประเมินจากสถานบริการแล้ว ถ้าผลกระทบที่เกิดขึ้นกับน้ำกับโรงพยาบาลแล้ว ถ้าจำเป็นจะต้องส่งต่อเพื่อความปลอดภัย ก็จะต้องรีบดำเนินการ และจุดที่ดีที่สุดคือ ที่นี่มีสนามบิน และมาครั้งหนึ่งต่อเที่ยวกว่า 100 คน สามารถส่งทางเครื่องบินได้ และวันนี้ก็ส่งโดยเครื่องบินของบริษัท บางกอกแอร์เวย์ส ส่วนการระมัดระวังเรื่องการส่งเพราะมีผู้ป่วยเสียชีวิตนั้น นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้มีเพียง 1 ราย เป็นมะเร็งในเม็ดเลือด ซึ่งตนถือว่าการเสียชีวิตเป็นส่วนน้อย โดยโรคนี้ก็ลำบากอยู่แล้ว คนไข้ที่เป็นมีโอกาสค่อนข้างรอดยาก
ต่อข้อถามถึงในกรุงเทพฯ สถานการณ์น้ำท่วมมีโรงพยาบาลใดน่าเป็นห่วงบ้าง นายวิทยา กล่าวว่า ในกรุงเทพฯ มีการประชุมหารือกันแล้ว ทุกโรงพยาบาลให้พิจารณาจากความปลอดภัยคือ ป้องกันก่อน อย่าง รพ.ภูมิพล มีระดับน้ำร่วมเมตร แต่ถ้า 1 เมตรยังอยู่ได้ แต่ รพ.ภูมิพล บางส่วนก็มีส่งต่อออกข้างนอกกว่า 20 ราย เป็นคนไข้เคสที่เราเห็นว่าไม่ปลอดภัย ก็เริ่มเอาออกก่อน ส่วน รพ.ศิริราช ก็มีบางราย แต่ส่วนใหญ่แล้วตอนนี้ถ้าต้องการส่งต่อก็ทำได้เลย เพราะผู้บริหาร ผู้อำนวยการ หรือมหาวิทยาลัยที่ดูแลในกรุงเทพฯ ก็สามารถปฏิบัติได้ เราเตรียมความพร้อมไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ ส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงเรื่องโรคระบาดหลังน้ำลดและยาขาดแคลนนั้น นายวิทยา กล่าวว่า เรื่องยาขาดตนมั่นใจว่า ในภาวะ 2 เดือนนี้สถานการณ์ทางนี้รับได้ โรคระบาดเราเตรียมรับมือพร้อมแล้ว ตอนนี้แผนโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เตรียมความพร้อมและให้ชัดเจนด้วย พอหลังน้ำลดทุกส่วนต้องช่วยกัน และต้องช่วยกันหลายกระทรวง ไม้ใช่เฉพาะกระทรวงสาธารณสุขอย่างเดียว
เมื่อถามว่า มีเรื่องนำการเมืองมายุ่งเกี่ยวกับน้ำท่วม อยากเรียกร้องอย่างไร รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ตอนนี้ประชาชนเข้าใจดี ฉะนั้น ตนคิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และทุกคนเข้าใจดีว่าน้ำไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจ เพียงแต่ว่าปีนี้มันมามากไปหน่อย เพื่อนเราตอนนี้ไม่มาโคราชแต่ไปกรุงเทพฯ น้ำไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว ขอความกรุณาว่าทำอย่างไรจะอยู่กับน้ำได้ น้ำไม่ได้ทำร้ายคน ส่วนเรื่องการของบประมาณในการดูแลจากรัฐบาล เราขอไปไม่มาก ประมาณ 104 ล้านบาท ในส่วนแพทย์ฉุกเฉินที่เขาทำงานหลักในขณะนี้ เราใช้ทั้งเครื่องบินและมูลนิธิร่วมกัน ในส่วนเวชภัณฑ์และเรื่องต่างๆ ประมาณ 109 ล้านบาท บางทีต้องทำในช่วง 2 เดือนนี้ให้ชัด และถ้างบประมาณไม่พอ เราจะหมุนเอามาจากงบปีมาช่วย ตนได้ย้ำและเรียนไปยังพี่น้องประชาชนว่า การดูแลผู้ป่วยน้ำท่วมจะต้องดูแลทั้งหมด ดูแลทุกจังหวัดทั้งประเทศ.
ไทยรัฐออนไลน์ 29 ตค 2554
