แถลงการณ์ของสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์ฯ/โรงพยาบาลทั่วไป
เรื่อง สถานะสาธารณสุขไทย
สมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์และโรงพยาบาลทั่วไป รู้สึกยินดีที่รัฐบาลจะแต่งตั้งนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากเราคิดว่า การที่ท่านเคยบริหารกระทรวงศึกษาธิการมาแล้ว จะช่วยให้ท่านเข้าใจได้ว่า งานของกระทรวงสาธารณสุขนั้น ก็มีระดับความยากง่ายแบบพื้นฐานทั่วไป เหมือนโรงเรียนอนุบาลหรือโรงเรียนประถม ที่เรียกว่าการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับสูงขึ้นเป็น ระดับมัธยม และอุดมศึกษา
ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลก็มีหลายระดับเช่นกัน กล่าวคือโรงพยาบาลระดับต้นที่เรียกว่าปฐมภูมิ คือโรงพยาบาลชุมชน สำหรับรับรักษาการเจ็บป่วยทั่วไปของประชาชนขั้นพื้นฐาน มีโรงพยาบาลทุติยภูมิ คือโรงพยาบาลทั่วไป เป็นโรงพยาบาลจังหวัดไว้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการหนัก หรือรักษายุ่งยากซับซ้อน และมีโรงพยาบาลตติยภูมิคือโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ เพื่อรับรักษาโรคที่ยุ่งยากซับซ้อนที่สุด ไว้รักษาผู้ป่วยอาการหนักและรักษายากที่สุดโดยขออธิบายประกอบดังนี้ คือโรงพยาบาลชุมชน รักษาผู้ป่วยเบื้องต้นทั่วไป ถ้าอาการหนัก ก็ต้องส่งต่อไปยัง โรงพยาบาลทั่วไป ถ้าโรงพยาบาลทั่วไปยังรักษาไม่ไหว ก็ต้องส่งผู้ป่วยต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์หรือโรงพยาบาลเฉพาะทางต่อไป
ส่วนการศึกษาระดับสูงขึ้นมา ก็คือระดับมัธยมศึกษา มีความลึกซึ้งเละเนื้อหายากกว่าเดิม เปรียบกับโรงพยาบาลก็คือ โรงพยาบาลจังหวัดที่เรียกว่าโรงพยาบาลทั่วไป (GeneraI Hospital) หรือที่เรียกว่าโรงพยาบาลทุติยภูมิ คือสามารถรักษาโรคหรือประชาชนที่เจ็บป่วยหนัก ต้องการบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญมากขึ้น หรือเชี่ยวชาญเฉพาะโรค ในระดับการศึกษาสูงสุด คือการศึกษาขั้นอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยระดับปริญญาตรีหรือหลังปริญญาตรี ถ้าเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลในกระทรวงสาธารณสุข ก็คือโรงพยาบาลหรือสถาบันระดับตติยภูมิ ได้แก่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข หรือ โรงพยาบาล/สถาบันที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางในสังกัดกรมการแพทย์ ได้แก่โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสินโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี สถาบันประสาท สถาบันมะเร็ง สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีเป็นต้น
ในยุคของนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มชมรมแพทย์ชนบทมากขึ้น โดยการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้โรงพยาบาลชุมชนมากขึ้น แต่ไม่ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์เท่าที่ควร เมื่อรัฐมนตรีต้องการที่จะจัดสรรงบประมาณในโครงการไทยเข้มแข็ง เพื่อพัฒนาโรงพยาบาลทุกระดับ รวมทั้งโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์และโรงพยาบาลทั่วไป รวมทั้งโรงพยาบาลเฉพาะทางของกรมการแพทย์มากขึ้น ทำให้กลุ่มชมรมแพทย์ชนบท ออกมาเปิดประเด็นการทุจริต ในการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งพวกเราสมาชิกสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ที่เป็นข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ต้องการให้รัฐมนตรีคนใหม่ ดำเนินการสอบสวนต่อไปว่า เกิดการทุจริตหรือตั้งใจจะทุจริตจริงหรือไม่ ใครมีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ข้าราชการเกษียณ หรือข้าราชการประจำ ก็ควรจะได้รับการลงโทษ แต่โครงการพัฒนาโรงพยาบาลก็ควรต้องรีบดำเนินการต่อไป อย่างสุจริตและโปร่งใส ตรวจสอบได้ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของประชาชน ทั่วไป
โครงการและเม็ดเงินที่จะพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ โรงพยาบาลทั่วไปรวมทั้งโรงพยาบาลเฉพาะทางในกรมการแพทย์นั้น ก็ควรจะได้รับการจัดสรรให้เหมาะสม เพื่อที่จะช่วยให้โรงพยาบาลทุกระดับ มีบุคลากร เครื่องมือเครื่องใช้ อาคารสถานที่และเวชภัณฑ์ รวมทั้งเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เหมาะสมกับภาระหน้าที่ความรับผิดชอบในการดูแลรักษาสุขภาพประชาชนในระดับสูง (ทุติยภูมิ ตติยภูมิและโรงพยาบาลเฉพาะทาง) ที่ให้การดูแลรักษาประชาชนโดยวิชาการและเทคโนโลยีทางการแพทย์ระดับสูงและสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชนต่อไป
ส่วนโรงพยาบาลชุมชนก็ควรจะได้รับงบประมาณในการพัฒนาให้เหมาะสมกับภาระงานในหน้าที่ เช่นเดียวกัน
อนึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขควรตระหนักว่า รัฐมนตรีมีหน้าที่รับผิดชอบในฐานะประธานกรรมการของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ควบกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขด้วย จึงควรจะต้องกำกับดูแลการจัดสรรเงินจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้เป็นไปตามจริงตามภาระค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาล และควรจะจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมในการจ่ายค่าตอบแทนบุคลากรให้ทั่วถึง และเป็นธรรมแก่บุคลากรทุกระดับ ทุกวิชาชีพด้วย
พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา ที่ปรึกษาสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป
พญ.พจนา กองเงิน ประธานสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป