ผู้เขียน หัวข้อ: ห้ามโรงพยาบาลเจ๊งและไม่ให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย  (อ่าน 1676 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
ห้ามโรงพยาบาลเจ๊งและไม่ให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
หมอถูกบีบคั้นขนาดนี้ แล้วผู้ป่วยจะพึ่งใคร?
 
  จากข่าวในหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๔ พาดหัวข่าวตัวใหญ่ว่า “วิทยา”กร้าว ปี 2555 ห้าม รพ.เจ๊ง  และให้ สสจ.คุมเข้มใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

  ในขณะที่บอร์ด สปสช.ได้รับทราบผลการดำเนินงานของเลขาธิการ สปสช.ว่าได้คะแนนในระดับดีมาก 

   สองข่าวนี้ ทำให้แพทย์ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ช็อคไปตามๆกัน เนื่องจากว่า สปสช.จ่ายเงินให้โรงพยาบาลไม่ครบตามงบประมาณที่ สปสช.ได้รับมาจากสำนักงบประมาณ  ทำให้โรงพยาบาลเจ๊งทั้งประเทศ แต่ เลขาธิการ สปสช.กลับได้รับการประเมินว่ามีการทำงานเป็นระดับเกรดเอ (ดีเยี่ยม) สผพท. จึงใคร่ขอรายละเอียดการประเมินเลขาธิการ สปสช.จากประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (นายวิทยา บุรณศิริ)  ว่าองค์กรที่ทำการประเมินนั้นเชื่อถือได้หรือไม่  มีเกณฑ์การประเมินอย่างไร  ประเมินทุกมิติหรือไม่ ทำไมโรงพยาบาลจึงยังร้องว่าขาดทุนอยู่

  ทั้งนี้จากข่าวในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจหน้า ๑๒ วันที่ ๖ ต.ค. ๕๔ มีข่าว พาดหัวตัวใหญ่ว่า รพ.จี้ สปสช.จ่ายเงินค้างท่อ ๔,๐๐๐ ล้านบาท ( ที่จริงในรายละเอียดของข่าว เงินค้างท่อนี้เป็นจำนวนเงินเกือบ ๔๐,๐๐๐ล้านบาท)ทั้งนี้ในการประชุม  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ที่นายวิทยา บุรณศิริ  เป็นประธานเปิดรับฟังความคิดเห็นจาก ผอ. คุณหมอประเสริฐ ขันเงิน ผู้อำนวยการพ.พระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก บอกว่า สปสช.จัดสรรเงินไม่เป็นธรรม แยกย่อยออกไปเป็นถึง ๑๒ กองทุน(ซึ่งใช้เกี่ยวกับโรคยุ่งยากราคาแพง และเงินนี้จะกองอยู่ที่สปสช.ทั้งหมด ประมาณเกือบครึ่งของเงินกองทุนทั้งหมดประมาณ ๔๕,๐๐๐ ล้านบาท มีเงินค่ารักษาผู้ป่วยส่งไปโรงพยาบาลเพียง ประมาณ ๕๓,๐๐๐ล้านบาท)เป็นเหตุให้ โรงพยาบาลได้รับเงินไม่ครบ

  ในปี ๒๕๕๔  รัฐบาลให้งบเหมาจ่ายรายหัวมาเกือบ ๒,๕๐๐ บาทต่อหัว แต่เงินค่ารักษามาถึงรพ.แค่ ๒๐๐-๑,๖๐๐บาท (ขึ้นกับจำนวนประชากรของจังหวัดนั้นๆ) และเมื่อรพ.เรียกเก็บค่ารักษาไป สปสช.ก็จ่ายเงินไม่ครบทุกครั้ง ทุกแห่ง
   เช่นโรงพยาบาลพุทธชินราช เรียกเก็บเงินไป  ๙๔๘ ล้านบาท แต่ สปสช.จ่ายมา ๔๙๙ล้านบาท  ถ้าดูภาพรวมทั้งประเทศ รพศ./รพท. เรียกไป ๓๗,๐๒๖ล้านบาท  แต่ สปสช. จ่ายให้เพียง ๑๗,๖๓๖ ล้านบาท   ส่วนรพ.ชุมชนเรียกเก็บ ๓๐,๔๗๓ล้านบาทแต่สปสช.จ่ายให้เพียง ๒๓,๐๐๐ล้านบาท

   ฉะนั้นจะเห็นว่าสปสช.ค้างจ่ายเงินแก่รพ.สธ.เป็นจำนวนถึง๒๖,๘๖๓,ล้านบาท .ในเวลาเพียง ๑ ปี

ส่วน นายแพทย์ชูศักดิ์ เอื้อวิจิตรพนา ผอ. รพ.เพชรบูรณ์ รับว่า กองทุนสปสช.มีปัญหาในการเบิกจ่ายอย่างมาก ดังนั้นเห็นว่าในปีงบประมาณ ๒๕๕๕ นี้ สปสช.ควรโอนเงินให้รพ.เต็มจำนวนล่วงหน้า ไม่ใช่รอให้เกิดปัญหาติดขัด และมองว่าที่ผ่านมา สปสช.แบ่งเงินไว้ที่สปสช.มากเกินไป ทำให้มีเงินเหลือไปถึงรพ.ไม่เพียงพอต่อการทำงาน

 แต่แทนที่รัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะไปกวดขันสปสช.และสั่งการให้สปสช.แก้ไขปัญหาการบริหารเงินให้ถูกต้องและใช้หนี้เก่าให้หมด ตามที่ควรจะเป็น แต่นายวิทยา บุรณศิริ กลับมาสั่งโรงพยาบาลห้ามเจ๊ง  ทั้งๆที่รพ.ทั้งหลายเจ๊งจนจะล้มละลายอยู่แล้ว แต่ในฐานะรัฐมนตรีมีหน้าที่แก้ปัญหารพ.เจ๊ง และลูกน้องรมว.สธ.ก็บอกสาเหตุการเจ๊งของรพ.มาแล้วว่าเป็นเพราะอะไรแทนที่จะไปจัดการกับต้นตอของปัญหา กลับมาหาว่ารพ.ฟุ่มเฟือย ขอถามรัฐมนตรีหน่อยว่ารพ.จนกรอบแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปฟุ่มเฟือย(วะ)

พวกบุคลากรลูกน้องรัฐมนตรี สงสัยว่าจะเป็นเทวดาหรือไง   เงินที่จะใช้รักษาประชาชนก็ไม่มี แถมผู้ป่วยก็ห้ามตาย ถ้าตาย จะออกพ.ร.บ.มีดหมอ มาเชือดหมอ  โรงพยาบาลเจ๊งอยู่แล้ว  ก็ยังมาบอกว่าห้ามเจ๊ง
  ......หมอที่เป็นลูกน้องรัฐมนตรี ยังถูกบีบคั้นขนาดนี้จากรัฐมนตรีแล้วผู้ป่วยจะหันหน้าไปพึ่งใคร???

สหพันธ์ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย (สผพท.)
6 ต.ค 54