ผู้เขียน หัวข้อ: สาธารณสุขไทยเสี่ยงตามก้นเวียดนาม  (อ่าน 1452 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด

สุรวงษ์ * นักวิชาการห่วงโลกร้อน เปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ส่งผลกระทบเกิดวิกฤติด้านสุขภาพในไทย ชี้ไทยยังลงทุนกับสุขภาพน้อย เสี่ยงบุคลากรหัวกะทิของไทยไหลเข้าประเทศพัฒนา หากไม่เร่งสปีด อีก 5-10 ปี มีสิทธิ์ตามหลังเวียดนาม เบื้องต้นเตรียมสรุปข้อเสนอส่งกระทรวงสาธารณสุข
 
ศ.นพ.สุรศักดิ์ ฐานีพานิชสกุล คณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข ในฐานะประธานจัดการประชุม กล่าวว่า การประชุมวิชาการระดับชาติวิทยาศาสตร์ สาธารณสุขครั้งที่ 11 มีแนวคิดเรื่องวิกฤติด้านสาธารณสุข ความท้าทายและการแก้ไขปัญหา โดยขณะนี้พบว่ามีหลายปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาด้านสาธารณสุข เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น ก่อให้เกิดภัยธรรมชาติ และก่อให้เกิดวิกฤติอาหารและสุขภาพตามมาเป็นวงจร โดยเฉพาะประเทศเมืองหนาวที่พบว่ามีการแพร่ระบาดของโรคเมืองร้อนมากขึ้น และที่น่าเป็นห่วงคือโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ต่างๆ รวมถึงโรคอุบัติใหม่ที่จะเกิดตามมาจากความไม่แน่นอนของธรรมชาติ

คณบดีฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงทางด้าน เศรษฐกิจที่ส่งผลให้ราคาอาหารสูงขึ้น จะทำให้ผู้ที่มีรายได้น้อยไม่สามารถเข้าถึงอาหารที่มีประ โยชน์ โดยเฉพาะโปรตีน ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร และเสี่ยงต่อการเป็นโรคภัยต่างๆ ตามมา

ศ.นพ.สุรศักดิ์กล่าวต่ออีกว่า ในปี 2558 จะเกิดประชาคมอาเซียน ซึ่งไม่มีขอบเขตของการ ตลาด มีการเชื่อมโยงทางด้านเศรษฐกิจและสังคม จะนำมาซึ่งวิกฤติด้านสุขภาพที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการไหลเวียน ของบุคลากรสาธารณสุขไปยังประเทศที่มีความเจริญมากกว่า เพราะปัจจุบันตนเห็นว่าแม้วิทยาการทางการแพทย์ของประ เทศไทยพัฒนาไปมาก แต่ในเรื่องการลงทุนด้านสุขภาพยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประ เทศสิงคโปร์ และป ระเทศมา เลเซีย เพราะฉะนั้นหากประ เทศไทยยังไม่มีการพัฒนามาก กว่านี้ คาดว่าประมาณไม่เกิน 5-10 ปี วงการสาธารณสุขของประเทศไทยอาจจะด้อยกว่าประ เทศเวียดนาม

"วิกฤติที่เกิดขึ้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งหาทางแก้ไข ซึ่งที่ผ่านมากระทรวง สาธารณสุข และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้วางแนว ทางแก้ปัญหาเอาไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการอย่างกว้างขวาง" ศ.นพ.สุรศักดิ์กล่าว และว่า หลังการประชุมในครั้งนี้จะ เร่งดำเนินการสรุปความเห็นและแนวทางแก้ไขปัญหา เสนอ ไปยังผู้บริหารกระทรวงสาธารณ สุขเพื่อพิจารณา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้.

ไทยโพสต์ 1 ตค. 2554
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 ตุลาคม 2011, 22:09:47 โดย story »