ผู้เขียน หัวข้อ: "ซูดานใต้"ประกาศเอกราชเป็นประเทศใหม่ล่าสุดลำดับที่ 193 ของโลกแล้ว  (อ่าน 1749 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
"ซูดานใต้" กลายเป็นประเทศใหม่ที่สุดของโลกแล้วในเช้าวันนี้ (9 ก.ค.) โดยแยกตัวออกอย่างเป็นทางการจาก "ซูดาน" หลังจากเกิดสงครามกลางเมืองขนาดใหญ่สองครั้งในช่วงกว่า 50 ปีที่ผ่านมา ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนจำนวนนับล้านคน

ที่กรุงจูบา เมืองหลวงแห่งใหม่ล่าสุดของโลกท้องถนนเต็มไปด้วยการเฉลิมฉลอง และการเต้นรำ ประชาชนต่างกู่ร้องชื่อของประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งก็คือนายซัลวา เคอร์

"สาธารณรัฐซูดานใต้" ได้ประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการเมื่อเวลา 00.01 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ และทำให้ประเทศที่เคยมีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกาถูกแบ่งออกเป็นสอง ซึ่งถือเป็นการบรรลุจุดสุดยอดของการลงประชามติประกาศความเป็นเอกราชเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อเป็นการรับรองข้อตกลงการสงบศึกระหว่างดินแดนเหนือ-ใต้ เมื่อปี 2005

และเมื่อการเฉลิมฉลองสิ้นสุดลง ประชาชานชาวซูดานจะต้องต่อสู้ต่อไป แม้ว่าประเทศจะอุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมัน แต่อดีตประเทศซูดานก็ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความยากจนที่สุดในโลก ปัญหาความขัดแย้งที่ยังไม่ได้รับการสะสางระหว่างฝ่ายเหนือและใต้ อาจหมายถึงความขัดแย้งครั้งใหม่ระหว่างเส้นแบ่งพรมแดนเส้นใหม่ โดยประชาชนอย่างน้อย 2 ล้านคน ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามกลางเมืองในซูดานครั้งล่าสุด ระหว่างปี 1983-2005

ข้อตกลงด้านสันติภาพจากนานาชาติที่บังคับใช้เมื่อปี 2005 สิ้นสุดลงเมื่อหลังช่วงเที่ยงคืนวันศุกร์ ซึ่งนั่นเป็นเวลาที่ซูดานใต้ ประกาศแยกตัวอย่างและประกาศตนเป็นประเทศใหม่อย่างเป็นทางการ

ซูดานใต้จะกลายเป็นประเทศใหม่ลำดับที่ 193 ที่ได้รับการรับรองจากสหประชาชาติอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า และถือเป็นประเทศในทวีปแอฟริกาลำดับที่ 54 ที่เป็นชาติสมาชิกของยูเอ็น

โดยในช่วงเย็นวันนี้ ผู้นำนานาชาติจะเข้าร่วมงานพิธีเฉลิมฉลอง อาทิ นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งเดินทางมาถึงแล้ว นายโคลิน พาเวลล์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และประธานาธิบดีโอมาร์ เอล-บาเชียร์ แห่งซูดาน

รัฐบาลชุดใหม่ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่ ในการจัดการและรับมือกับกองทัพอันหยิ่งทะนงและโหดร้าย การจัดการกับปัญหาทรัพยากรน้ำมัน และจัดการแบ่งสรรปันส่วนอำนาจระหว่างชนกลุ่มน้อยและกองทัพที่แบ่งออกเป็นฝักเป็นฝ่าย นอกจากนั้นยังรวมถึงการจัดหาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน สาธารณสุข การศึกษา ให้แก่ประชาชนกว่า 8 ล้านคน

มติชนออนไลน์ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554