ปลัดสธ. ประชุมจูนความเข้าใจเดินหน้าไทยเข้มแข็ง เตรียมแผนหลังโดนหั่นงบ จัดระดับการจัดซื้อตามความสำคัญ ใช้วิธีจัดการเป็นระบบเขต พร้อมได้ข้อสรุปจัดซื้อรถพยาบาลเหมือนเดิมแต่ไม่แจกรพ.สต. ให้รพช.ดูแล แพทย์ชนบท พอใจกรอบใหม่ อิงราคาบริหาร เชื่อได้ราคาไม่แพงเกิน
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ.กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการทบทวนรายละเอียดการจัดสรรโครงการไทย เข้มแข็ง ร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ตัวแทนแพทย์จากสมาคมและชมรมต่างๆ ในทุกระดับว่า ผลการประชุมมี 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นการรายงานผลการดำเนินการทบทวนรายการครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างใน แต่ละส่วน เพื่อให้ทราบว่า ขณะนี้การดำเนินงานอยู่ในระดับใด ซึงจะต้องเน้นในทุกระดับตั้งแต่สถานนีอนามัย(สอ.) โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป และส่วนที่สอง คือ การเตรียมการเสนอของบประมาณหลังจากถูกตัดงบประมาณ ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะได้งบประมาณเท่าไหร่ โดยให้พิจารณาจัดระดับความสำคัญของการลงทุน แบบระบบเขตพื้นที่ โดยเน้นให้เกิดความเป็นธรรมในทุกระดับเพื่อให้โครงการไทยเข้มแข็งสามารถเดิน หน้าต่อไปได้
"การประชุมครั้งนี้ ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะมีการจัดลำดับความสำคัญการลงทุนอันไหนก่อนหลัง เป็นเพียงการหารือในหลักการเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ซึ่งทุกคนต่างก็พอใจและยอมรับตามหลักการนี้ โดยในส่วนการพิจารณาจัดซื้อรถพยาบาลสำหรับส่งต่อผู้ป่วย จำนวน 829 คัน คันละ 1.85 ล้านบาท สำหรับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ยังคงดำเนินการต่อไปแต่เปลี่ยนให้โรงพยาบาลชุมชนเป็นผู้จัดซื้อและดำเนินการ แทน"นพ.ไพจิตร์ กล่าว
ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า การหาข้อยุติในกรอบการจัดทำงบประมาณร่วมกันถือว่าเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะหลักการสำคัญที่มีการใช้ราคาบริหารเป็นราคากลางในการจัดทำงบประมาณ ถือว่าเป็นกรอบที่รับได้เนื่องจากเป็นการจัดซื้อที่ไม่แพงเกิดไป สำหรับเครื่องมือที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโครงการไทยเข้มแข็งในส่วน ของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีนพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธาน ซึ่งมีข้อเสนอแนะเรื่องราคาเครื่องมือแพทย์บางราย นายจุรินทร์ ลักษวิศิษฐ์ รมว.สาธารณสุข ได้เสนอให้ตัดรายการที่มีปัญหาทิ้ง และ ลดบางรายการที่ไม่มีความจำเป็น เช่น ราคาเครื่องช่วยหายใจ เปลี่ยนลักษณะให้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับสถานพยาบาล ทั้งนี้ สำหรับรถพยาบาล ยังคงให้มีการจัดซื้อจัดจ้างเหมือนเดิม แต่ระบุว่า ให้กำหนดว่าต้องมีเครื่องมือแพทย์ประจำรถ 2 รายการคือ เครื่องช่วยหายใจ และเครื่องกระตุกหัวใจ รวมอยู่ด้วย
“สำหรับรายการจัดซื้อจัดจ้างที่มีการส่งความ เห็นให้สำนักงบประมาณพิจารณา 11 รายการ ส่วนใหญ่เป็นสิ่งก่อสร้าง เนื่องจากก่อนหน้านี้ คณะกรรมการพิจารณาราคาบริหาร ไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ จึงถือว่ากรอบการตกลงโดยรวมเป็นที่น่าพอใจ”นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
