นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวหลังประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองสิทธิประโยชน์ ว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรอบงบประมาณในการดำเนินการเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการแพทย์ตามที่คณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) ได้เห็นชอบในหลักการไปก่อนหน้านี้ ใน 5 รายการ ได้แก่ 1.โรคเรื้อรัง 2.ยาราคาแพง 7 ชนิด 3.โรคไต 4.เจ็บป่วยฉุกเฉิน 5.ทันตกรรม ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้ดำเนินการเพิ่มสิทธิ์ประโยชน์ผู้ป่วยโรคเรื้อรังจากเดิมดูแลไม่เกิน 180 วัน เพิ่มเป็นให้ดูแลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกรณีเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรม ซึ่งได้มอบให้ สำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ของสปส.กลับไปคำนวณงบประมาณดำเนินการเพิ่มสิทธิประโยชน์ทั้ง 2 กรณีอีกครั้งและจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคมในวันที่ 21 มิถุนายนนี้
เลขาธิการ สปส.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณียาราคาแพง 7 ชนิดให้กลับไปศึกษาจำนวนผู้ใช้ว่าเป็นคนกลุ่มใด อายุเท่าไหร่และต้องใช้ยาจำนวนเท่าใด รวมทั้งกรณีโรคไตและเจ็บป่วยฉุกเฉินจะต้องกลับไปศึกษาและจัดทำข้อมูลงบประมาณและรูปแบบการเพิ่มสิทธิประโยชน์อีกครั้ง ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯจะพิจารณาการเพิ่มสิทธิประโยชน์ 5 เรื่องได้แก่
1.ยาราคาแพง 7 ชนิด
2.โรคไต
3.เจ็บป่วยฉุกเฉิน
4.โรคมะเร็ง และ
5.โรคเอชไอวี
ในการประชุมในวันที่ 14 มิถุนายนนี้
นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล ผอ.สำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ สปส. กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรอบงบประมาณในการดำเนินการเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการแพทย์ตามที่คณะกรรมการสปส.ได้เห็นชอบในหลักการไปก่อนหน้านี้ ในรายการต่างๆ ได้แก่ การรักษาโดยโรคไต เช่น ผ่าตัดเปลี่ยนไต การให้ยากระตุ้นเม็ดเลือดแดงแก่ผู้ป่วยไตระยะสุดท้าย ทันตกรรม เจ็บป่วยฉุกเฉินรักษาได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และยามีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งตนได้เสนอกรอบงบประมาณดำเนินการทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตนคาดว่าน่าจะใช้งบประมาณมากกว่านี้โดยประมาณการว่าน่าจะอยู่ที่ 500-600 ล้านบาท
นพ.สุรเดช กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้ให้ตนไปพิจารณารายละเอียดในเรื่องงบประมาณดำเนินการเพิ่มสิทธิ์ประโยชน์ในระยะยาวให้ชัดเจน โดยยึดหลักให้ผู้ประกันได้รับสิทธิประโยชน์ในการรักษาโดยเท่าเทียมกันแล้วนำข้อมูลมานำเสนอต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ส่วนงบประมาณเพิ่มสิทธิประโยชน์เรื่องยาต้านไวรัส เอชไอวี และสิทธิประโยชน์ผู้ป่วยมะเร็งอีก 7 รายการ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 100 ล้านบาท ตนจะไปหาข้อมูลให้ชัดเจนอีกครั้ง และนำเสนอที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้เช่นกัน
“ขณะนี้กรอบงบประมาณดำเนินการเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการแพทย์ในรายการต่างๆยังไม่ชัดเจนอาจจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นจากที่ได้ประมาณการเบื้องต้นไว้ก็ได้ ดังนั้น ผมจะไปดูรายละเอียดเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และเสนอต่อคณะอนุกรรมการฯต่อไป” นพ.สุรเดช กล่าว
แนวหน้า -- พฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2554