ผู้เขียน หัวข้อ: ′เด็กหมอ′เก่ง วัดอิงเกณฑ์เกรดเฟ้อ ′รองคณบดีรามา′ชงเพิ่มเกรด3.75ถึงคว้าเกียรตินิย  (อ่าน 865 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
เมื่อวันที่ 14 กันยายน นพ.สุวัฒน์ เบญจพลพิทักษ์ รองคณบดีฝ่ายการศึกษา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) เปิดเผยกรณีที่ นพ.อุดม คชินทร อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ขอให้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ทบทวนการประเมินในรายวิชาต่างๆ หลังพบว่าในปีการศึกษา 2557 มีผู้ได้ปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 ครึ่งหนึ่งของนักศึกษาทั้งคณะ   และได้เกียรตินิยมอันดับสองรองลงมา  และมีจำนวนน้อยมากที่ไม่ได้รับเกียรตินิยม ว่า   ล่าสุด ในปีการศึกษา 2557 มีผู้ได้รับปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต 180 คน แบ่งเป็น เกียรตินิยมอันดับ 1 จำนวน 33 คน เกียรตินิยมอันดับ 2 จำนวน 38 คน ถือเป็นตัวเลขปกติ

โดยในปีที่ผ่านๆมา ตัวเลขผู้ได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 และ 2 รวมกันจะอยู่ที่ประมาณ 50% ของจำนวนบัณฑิตทั้งหมด โดยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีได้กำหนดเกณฑ์กลางไว้ว่าผู้ที่จะได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 ต้องได้รับเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.5 อันดับ 2 ไม่ต่ำกว่า 3.25 อย่างไรก็ตาม เด็กที่สอบเข้าเรียนในคณะแพทยศาสตร์ส่วนใหญ่เป็นเด็กเก่ง แต่ละรายวิชาจะได้เกรดเออยู่แล้ว จึงไม่ได้หมายความว่ามหาวิทยาลัยจัดการเรียนการสอนไม่ได้มาตรฐาน
         
นพ.สุวัฒน์กล่าวต่อว่ายืนยันว่าหลักสูตรคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีเข้มข้นตามมาตรฐานที่แพทยสภากำหนดแต่ก็ยอมรับว่าจำนวนผู้ได้รับเกียรตินิยมมีมากเกินไปและขณะนี้กำลังหาวิธีลดจำนวนผู้ได้รับเกียรตินิยมลงซึ่งจะต้องปรับวิธีการทดสอบโดยในภาควิชาการไม่มีปัญหาเพราะยึดตามคะแนนที่เด็กทำได้แต่ส่วนที่จะไปดูแลให้เข้มข้นคือการสอบในภาคปฏิบัติที่อาจต้องปรับเรื่องการประเมินจากเดิมที่ให้นำคะแนนมารวมกับภาควิชาการ ทำให้เด็กส่วนใหญ่ได้เกรดเอ มาเป็นสอบ "ผ่าน" กับ "ไม่ผ่าน" โดยไม่นำคะแนนปฏิบัติมามีผลต่อการตัดเกรดในวิชาอื่นๆ

       "ยอมรับว่าตัวเลขนักศึกษาที่ได้เกียรตินิยมมีมาก และได้กันง่ายเกินไป กลายเป็นค่านิยมของนักศึกษา     แพทย์ว่าเรียนแล้วต้องได้เกียรตินิยม ซึ่งไม่ถูกต้อง กลายเป็นเกียรตินิยมเฟ้อ ที่ผ่านมาผมเคยเสนอให้  มหาวิทยาลัยปรับการให้เกียรตินิยม จากเดิมที่กำหนดเกณฑ์กลางมาเป็นเลือกนักศึกษาที่ได้คะแนนสูงที่สุด 5 อันดับแรกของคณะเท่านั้น แต่คณะอื่นๆ ไม่เห็นด้วย ข้อเสนอนี้จึงไม่ได้รับการตอบรับ แต่ปัญหานี้ควรต้องแก้ไข โดยผมอยากเสนอให้คณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยอื่นๆ เพิ่มเกณฑ์ขั้นต่ำสำหรับคะแนนเกียรตินิยมเป็น 3.75 เพื่อให้เด็กที่ได้เกียรตินิยมเป็นเด็กที่เก่งจริงๆ ของแต่ละรุ่น" นพ.สุวัฒน์ กล่าว
         
ขณะที่ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า จากสถิติที่ผ่านมา พบว่าจำนวนผู้ที่ได้รับเกียรตินิยมในแต่ละปีมีความใกล้เคียงกัน โดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชฯ ยึดการประเมินแบบอิงเกณฑ์ เพราะเด็กที่สอบเข้ามาเรียนมีความแตกต่างกันค่อนข้างสูง แบ่งเป็นกลุ่มเด็กเก่งมาก อาทิ กลุ่มที่ชนะการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ เด็กที่สอบผ่านระบบรับตรงของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) เป็นต้น หากใช้การประเมินแบบอิงกลุ่ม จะทำให้เด็กที่เรียนในระดับกลางๆ มีปัญหา ซึ่งการประเมินแบบอิงเกณฑ์ดังกล่าวทำให้มีผู้สอบได้เกียรตินิยมจำนวนมาก แต่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชฯ ยืนยันว่าการเรียนการสอนเป็นไปตามมาตรฐานแน่นอน และเท่าที่ดูจากการสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเฉพาะทางที่ผ่านมา ผู้ที่จบจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชฯจะสอบผ่านทุกคน

      "เข้าใจว่าตอนนี้สังคมรู้สึกว่าเด็กคณะแพทย์ได้เกียรตินิยมเฝือเกินไป ซึ่งในคณะแพทย์ก็ได้พูดคุยกัน   และตรงกับช่วงที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชฯ กำลังปรับหลักสูตรใหม่ที่ต่างจากเดิม เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ประเมินผลมากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้ผู้ที่ได้เกียรตินิยมลดลงโดยอัตโนมัติ" นพ.ประสิทธิ์ กล่าว

ขอขอบคุณข่าวสาร/ข้อมูลดีๆ จากเว็บไซต์มติชนออนไลน์
15 ก.ย. 2558