ผู้เขียน หัวข้อ: สุดช็อก! สาววัย 17 คลอดลูกที่รพ.ที่พัทลุง ทารกไม่กลับหัว-ถูกดึงจนหัวขาด  (อ่าน 685 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9755
    • ดูรายละเอียด
แชร์ว่อนในโลกออนไลน์ โพสต์ของคุณ นู๋เล็ก เด็กกาญ ซึ่งโพสต์ภาพศพของทารกแรกเกิดมีรอยเย็บรอบคอ แล้วระบุว่า “ดู ร.พ…. จ.พัทลุง ทำคลอดหลานเราสิ..เด็กไม่กลับหัวแทนที่จะผ่า หมอชุ่ยดึงจนเด็กตาย หัวหลุดคาช่องคลอด ต้องส่งตัวแม่เด็กไป ร.พ พัทลุง เอาหัวเด็กออก..ดูความชุ่ยของหมอสิค่ะ”

28 ตุลาคม 2559
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_72752
.........................................................................

ดราม่าหนัก รพ.ทำคลอดแม่ยังสาว ทารกหัวขาดคาช่องคลอด



จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ภาพศพของทารกแรกเกิดมีรอยเย็บรอบคอ แล้วระบุว่า "ดู ร.พ.... จ.พัทลุง ทำคลอดหลานเราสิ..เด็กไม่กลับหัวแทนที่จะผ่า หมอชุ่ยดึงจนเด็กตาย หัวหลุดคาช่องคลอด ต้องส่งตัวแม่เด็กไป รพ.พัทลุง เอาหัวเด็กออก..ดูความชุ่ยของหมอสิคะ" โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุด (29 ต.ค.) ในโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ รายงานการคลอดก่อนกำหนดและเด็กเสียชีวิต ลงชื่อ นายธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง (อ่านเอกสารฉบับเต็ม คลิก!) ใจความสรุปมีดังนี้

"เหตุการณ์ดังกล่าว มารดาของเด็ก อายุ 17 ปี เป็นครรภ์แรก อายุครรภ์ 28 สัปดาห์ เข้ารับการรักษาที่ รพ.แห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 02.15 น. โดยมีอาการเจ็บครรภ์ ท้องแข็งเป็นพักๆ มีมูกเลือด ไม่มีน้ำเดิน

เวลา 02.50 น.พยาบาลได้รายงานแพทย์ และทำการดูแลตามระยะการคลอด พร้อมแจ้งญาติว่ามารดาเด็กคลอดก่อนกำหนด ตัวเล็ก อาจจะต้องส่งต่อ รพ.พัทลุง

เวลา 03.00 น. พยาบาลตรวจทางช่องคลอด พบว่าปากมดลูกเปิด 10 ซม. และมีส่วนนำนิ่มๆ เป็นเท้า จึงรายงานแพทย์ทราบ

เวลา 04.05 น. แพทย์ขึ้นมาทำคลอด ทารกคลอดท่าก้น สามารถคลอดลำตัวได้ แต่ติดศีรษะ แพทย์พยายามทำคลอดแต่ไม่สำเร็จ จนเป็นเหตุให้ส่วนลำตัวขาด และส่วนของศีรษะค้างอยู่ในโพรงมดลูก แพทย์จึงตัดสินใจส่งต่อไปที่รพ.พัทลุง เวลา 05.10 น. จนแพทย์ทำการเอาศีรษะทารกออกทางช่องคลอดสำเร็จ

เบื้องต้น ทีมแพทย์และพยาบาล รพ.พัทลุง ได้ดูแลเบื้องต้นด้านการเยียวยาจิตใจผู้ป่วย และทีมเจรจา รพ.พัทลุง ได้ทำการเจรจาไกล่เกลี่ย โดยได้เชิญนายแพทย์ดุษฎี คงตระกูลทรัพย์ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) สสจ.พัทลุง มาร่วมรับเรื่องร้องเรียน และเจรจาไกล่เกลี่ยเบื้องต้นแล้ว โดยขณะนี้ศพเด็กอยู่ที่รพ.พัทลุง

ด้าน เฟซบุ๊กแฟนเพจ Drama-addict ได้โพสต์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ระบุว่า "เคสนี้มีคนถามว่าถ้าซับซ้อนควรเจอหมอสูติ ทำไมไม่ส่งไปทันที

ไม่ทราบระยะทางระหว่าง รพ นี้กับ รพ จังหวัดนะครับ แต่จากเอกสารที่เผยแพร่มา ตอนแรกปากมดลูกขยาย 8 ซม เกือบจะเต็มที่แล้ว มีโอกาสสูงมากว่าถ้าส่งไปตอนนั้นอาจมดลูกขยายเต็มที่กลางทาง แล้วไปทำกันกลางทางบนรถพยาบาลที่เครื่องมือไม่พร้อมเท่าห้องคลอดใน รพ นี่ เสี่ยงกว่ามาก

แถมรายนี้เป็นเด็กอายุ 28 สัปดาห์ คลอดออกมาปอดก็ยังไม่ทำงานเต็มที่ ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เอาจริงๆนะ เจอแบบนี้หมอส่วนมากที่อยู่ รพช น่าจะตัดสินใจให้คลอดที่นั่นก่อนแล้วใส่ท่อช่วยหายใจก่อนส่งตัวไปจังหวัด ปัญหาคือท่าขาแล้วคลอดติดนั่นล่ะ

อันนี้อยากเล่าให้ฟังมากว่า การเป็นหมอที่ รพ ชุมชน ที่ห่างไกลเมืองหลายสิบกิโล ถึงเกือบร้อยกิโล ใช้เวลาเดินทางส่งคนไข้เป็นชั่วโมงๆ

มันมีอะไรที่อีหลักอีเหลื่อและทรมานใจอยู่มาก อย่างบางรายเกินศักยภาพของ รพ ชุมชน เช่นคลอดท่าก้น แต่มาถึงปากมดลูกเปิดหมดแล้ว ส่งไปก็มีแววจะไม่ทันหรืออาจต้องทำคลอดกันกลางทางสูง หมอก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลุยทำคลอดท่าก้นกันที่ รพ ชุมชนนั่นแหละ หรือบางรายเจอเคสโรคหัวใจ หัวใจหยุดเต้นปั๊มขึ้น แต่ความดันยังไม่ดี มีโอกาสหัวใจหยุดเต้นกลางทางสูง เป็นเคสเสี่ยงที่ควรมีหมอติดรถพยาบาลไปด้วย แต่ถ้า รพ นั้นเหลือหมอคนเดียว แล้วถ้าขึ้นรถพยาบาลไป เกิดมีเคสฉุกเฉินมาอีกจะทำยังไง พวกนี้เป็นปัญหาใหญ่ใน รพ ชุมชน ที่คนในวงการเองยังไม่ค่อยหยิบยกมาเล่าให้ประชาชนฟังเลย แต่เชื่อเถอะว่าคนที่ประจำที่ รพ ชุมชน ต้องผ่านสถานการณ์แบบที่จ่าว่ามานี่แทบทั้งนั้น

กูก็ด้วย ไอ้เคสแบบมาถึง รพ ปากมดลูกเปิดหมด ขาเด็กโผล่มาแล้วนี่ เจอมากี่สิบเคสละวะ ที่ไม่รอดก็มี กูทำคลอดจนน้ำตาปริ่มเลยนั่น มันเป็นอะไรที่โคตรตึงเครียดมาก ดีที่ทางญาติเขาเข้าใจ แต่เป็นกำลังใจให้น้องๆที่ยังประจำอยู่ที่ รพ ชุมชนนะครับ สู้ๆ ช่วยกันทำให้สังคมเข้าใจว่าการทำงานในชนบททุกวันนี้เป็นยังไง เชื่อว่าถ้าสังคมเข้าใจ อะไรๆน่าจะดีขึ้น (มั้ง)


29 ต.ค. 59
http://news.sanook.com/2092442/

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9755
    • ดูรายละเอียด
เจรจาได้ข้อยุติ! กรณี แพทย์ทำคลอดสาว 17 แล้วทารกหัวขาด ฝั่งผู้เสียหาย ยอมรับเงินเยียวยา ตามมาตรา 41 แต่ไม่สามารถบอกตัวเงินได้ พร้อมเงินช่วยเหลืออีกจำนวนหนึ่ง ส่วนคดีอาญา ว่ากันตามกระบวนการ เพราะยอมความไม่ได้ ...

จากกรณีที่แพทย์โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.พัทลุง ได้ทำคลอดให้กับ น.ส.แดง (นามสมมติ) อายุ 17 ปี จนทำให้เด็กคอขาดติดในท้องแม่ จนต้องนำส่งให้ รพ.พัทลุง เพื่อให้คณะแพทย์ พยาบาล นำศีรษะทารกออกจากท้องแม่ แล้วไปนำท่อนล่างของทารกมาประกอบให้เป็นร่างเดียวกัน จากนั้นทางญาติได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ และร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพัทลุง โดยเบื้องต้นได้เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 1 ล้านบาท เหตุเกิดในวันที่ 26 ตุลาคม 2559 ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น

ต่อมา เวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 2 พ.ย. 59 ที่ห้องประชุมเล็กโรงพยาบาลพัทลุง นพ.ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง และนายนิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทลุง ได้ร่วมกันแถลงข่าว การเจรจาได้ข้อยุติเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย

นพ.ธนิศ เผยว่า ตนรู้สึกเสียใจและสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น้อยไปกว่าผู้ป่วยและญาติ หลังจากที่ทราบเรื่องดังกล่าวในวันแรก ก็ได้มอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องไปดูแลผู้ป่วยในขณะที่เข้ามารักษาตัวใน รพ.พัทลุง และมีนายนิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผอ.โรงพยาบาลพัทลุง แพทย์ พยาบาล ดูแลอย่างใกล้ชิด สำหรับญาติผู้ป่วยก็ได้ติดต่อผ่านทีมเจรจาไกล่เกลี่ย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง และตนเองมาโดยตลอด ในส่วนของแพทย์ผู้ทำคลอดนั้น ขณะนี้ยังสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่สามารถออกมาพุดคุยได้

นพ.ธนิศ กล่าวต่อว่า สำหรับการเจรจาสองฝ่าย วันนี้ได้ยุติลงแล้ว โดยทางผู้เสียหายและญาติได้ยอมรับการเยียวยา จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างพึงพอใจในข้อตกลง และได้เซ็นหนังสือร้องขอค่าเยียวยาตามกฎหมายมาตรา 41 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่สามารถระบุจำนวนเงินได้ หลังจากนี้คณะกรรมการจะได้ประชุมพิจารณาเงินเยียวยาให้กับครอบครัวดังกล่าวอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะได้รับการช่วยเหลือประมาณ 100,000-240,000 บาท ส่วนสาเหตุที่แพทย์ทำคลอดจนทารกหัวขาดนั้น ขั้นตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ ซึ่งจะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญขึ้นมาตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์คนดังกล่าวว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่

สำหรับในกรณีที่ญาติ น.ส.แดง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนของโรงพักแห่งหนึ่งนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถถอนแจ้งความได้ เนื่องจากพนักงานสอบสวนตีความว่าเป็นคดีอาญาซึ่งจะยอมความกันไม่ได้ แต่คณะกรรมการสาธารณสุขตีความว่าเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นคดีแพ่ง เนื่องจากทารกยังไม่มีชีวิต ส่วนผลจะเป็นอย่างไร ก็ให้เป็นเรื่องของขั้นตอนในกระบวนยุติธรรมต่อไป.

2 พฤศจิกายน 2559
http://www.thaisohot.com/content/%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87-%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7-17-%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%B2