ผู้เขียน หัวข้อ: GT200 แผลเป็น ในสังคมความจำสั้น ใครหนอ (เคย) การันตี?  (อ่าน 787 ครั้ง)

knife05

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
    • ดูรายละเอียด
GT200 แผลเป็น ในสังคมความจำสั้น ใครหนอ (เคย) การันตี?

GT200 กลายเป็นเรื่องที่กลับมาเป็นเผือกร้อนให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องชี้แจงอีกครั้ง

หลังจากศาลอังกฤษได้มีคำพิพากษาสั่งให้ยึดทรัพย์ผู้ผลิตเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดปลอม GT200 เป็นจำนวนเงิน 7.9 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 400 ล้านบาท และให้นำเงินไปชดเชยแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการซื้อเครื่องมือดังกล่าวที่ไม่สามารถใช้งานได้จริงแล้ว

ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลได้พิพากษาจำคุกผู้ผลิตไปแล้วเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งเจ้าเครื่อง GT200 เวลานี้กลายเป็นสัญลักษณ์และกลับกลายเป็น “แผลเป็น” ให้แก่ผู้ที่เคยมีหน้าที่และมีชื่อเสียงหลายต่อหลายคนในเวลานั้น ที่เคยการันตีถึงความสารพัดประโยชน์ของเครื่องนี้และมีการอนุมัติจัดซื้ออย่างที่ทราบๆ กันดี

จนล่าสุด ชาวโซเชียลผู้ที่ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ต่างตามหา “บุคคลในข่าว” ที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้หลายต่อหลายคน นำคำให้สัมภาษณ์ นำภาพ นำคลิปวิดีโอที่เปรียบเสมือน “บันทึกหน้าประวัติศาสตร์” ของคำพูดและวาทกรรม ในการการันตีของคนระดับใหญ่โต ถึงประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการซื้อเครื่อง GT200 ทั้ง พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด, พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ และ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา น่าจะเป็น 3 บุคคลที่ชาวโซเชียลนึกถึงเรื่องซึ่งเคยให้สัมภาษณ์ไว้

ซึ่งเมื่อถึงเวลาหนึ่ง คำพูดเหล่านั้นล้วนกลับมาเป็นนายของคนพูดเสียเอง

แน่นอนที่สุด เผือกร้อนนี้ถูกส่งถึง พล.อ.อนุพงษ์ ได้ตอบคำถามของสื่อถึงกรณีนี้หลังศาลอังกฤษมีคำพิพากษาว่า ตนได้ออกจากกองทัพบกแล้ว ควรให้เกียรติกองทัพในการดำเนินการ กองทัพก็คงต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าจะดำเนินการเรียกร้องความเสียหายอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้เป็นความต้องการของหน่วยงานข้างล่างที่เสนอขอขึ้นมา ซึ่งการซื้อโดยปกติไม่น่ามีอะไรผิดพลาด แต่ครั้งนี้เป็นการซื้อพิเศษ เป็นความต้องการของเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ บางส่วนพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทางภาคเหนือก็มี เป็นการร้องขอจากข้างล่างขึ้นมาที่มีความต้องการ

แต่เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาสามารถใช้งานได้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ผมไม่อยากตอบ เพราะกลัวมีผลต่อการเรียกร้องเงินเยียวยา

ส่วนพี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เครื่องดังกล่าวนั้นใช้ได้ผลในตอนแรก ต่อมาเจอบ้างไม่เจอบ้าง และเมื่อเขาทดสอบแล้วใช้ไม่ได้ มันก็ใช้ไม่ได้ ก็จบ ไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนผู้นำ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ตอบด้วยน้ำเสียงดุดัน ว่า

    “เขางดใช้ไปตั้งนานแล้ว ทิ้งถังไปแล้วมั้ง เมื่อใช้ไม่ได้ก็ใช้ไม่ได้ ถ้าโลกเขาใช้อยู่ก็ใช้ มันก็ใช้ได้ในระยะหนึ่ง แต่พอเขาพิสูจน์ว่าใช้ไม่ได้ ก็ไม่ใช้ แต่เธออย่าลืม ให้นึกถึงคนที่เขาตายเพราะถูกระเบิดเสียบ้าง นึกถึงครอบครัวเขาบ้าง”

ข้ามฟากมาดูความคิดเห็นของผู้ที่เกาะติดกรณีนี้อย่างใกล้ชิด อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ที่ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจส่วนตัว “Jessada Denduangboripant” บ่อยครั้ง หลังป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการเปิดเผยถึงการทำงานของเครื่อง GT200 แต่แรกว่าไม่สามารถใช้ได้จริง

โดย อ.เจษฎากล่าวถึงกรณีนี้ว่า เครื่องนี้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการเดาสุ่ม ว่ามีวัตถุระเบิดอยู่ในจุดนั้นหรือไม่ แต่โดยสภาพเครื่องนั้นเป็นการหลอกลวงอยู่แล้วเพราะไม่สามารถใช้ในการตรวจหาวัตถุระเบิดได้จริง เป็นเพียงกล่องเปล่าๆ กับเสาอากาศ ที่หาเจอเพราะว่าสุ่มเจอเท่านั้น

แต่จุดที่ทำให้ชาวโซเชียลถึงกับกดแชร์กันหลายพันครั้ง คือกรณีที่ อ.เจษฎา ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความในหนังสือของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่ได้เคยเขียนถึงเครื่อง GT200 ไว้อย่างชัดเจนว่า

    “เป็นเครื่องที่สามารถหาสารวัตถุระเบิดได้อย่างดีเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยใช้หลักการค้นหาสนามแม่เหล็ก ซึ่งสามารถตรวจจับสารวัตถุระเบิดได้ทั้งในอากาศ บนดิน ใต้ดิน หรือกระทั่งในน้ำได้ ซึ่งมีลักษณะเป็นแท่งคล้ายกับไมค์ลอยแต่มีชิพ-การ์ดในนั้น ทำหน้าที่ตรวจจับสาร”

โดยข้อความทั้งหมดนี้มาจากส่วนท้ายของหนังสือทักษิณวิปโยค หน้า 45 ที่หมอพรทิพย์เป็นผู้เขียนไว้ หลังมีการนำเสนอว่าหมอพรทิพย์ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการหนึ่งว่า ตนไม่เคยพูด และไม่เคยเชื่อว่า GT200 ใช้งานได้ จึงเกิดเป็นกระแสที่มีผู้คนต่างให้ความสนใจ

ซึ่ง อ.เจษฎาได้ขึ้นภาพดังกล่าวพร้อมข้อความว่า “คำพูดเป็นนายตัวเราเอง คนเราทุกคนมีสิทธิผิดได้ อยู่ที่จะยอมรับและปรับปรุงแก้ไขตัวเองได้แค่ไหน” ซึ่งก่อนหน้านี้ หากใครจำได้ อ.เจษฎา ได้เคยเรียกร้องการแสดงสปิริตรับผิดชอบตามจริยธรรมวิชาชีพของหมอพรทิพย์ และบุคคลสำคัญในกองทัพที่เคยมีบทบาทในอดีตมาแล้ว

แต่กระนั้น ทางคุณหญิงพรทิพย์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Porntip Rojanasunan หลังมีชาวโซเชียลตั้งคำถามว่าข่าว GT200 กำลังกลับมาอีกครั้ง คุณหมอหายไปไหน?

    โดยคุณหญิงหมอได้โพสต์ไว้ว่า “มองในแง่ดีก็ถือเป็นโอกาสได้อธิบาย แต่คนที่ปักใจด่าก็คงไม่เปลี่ยนใจ ประเด็นหลักๆ คือ 1.การใช้เครื่องมือนี้คือความโง่ของเจ้าหน้าที่ตามที่กล่าวหาหรือไม่ 2.เครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์หรือไม่ และ 3.มีการทุจริตในการซื้อหรือไม่

    หากมีใจเป็นธรรมย่อมเข้าใจคนทำงานในเหตุการณ์ระเบิดรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้ ที่เมื่อทราบว่ามีอุปกรณ์ที่พอตรวจสอบระเบิดจากระยะไกลที่มีต่างประเทศใช้ คนทำงานย่อมรู้สึกอุ่นใจ แม้ว่าจะวางใจไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ต่อมามีประเด็นเรื่องการทุจริตก็ควรแยกแยะว่านั่นคือเรื่องที่ต้องตรวจสอบคนซื้อ คนขาย

    เมื่อครั้งนั้นหมอเพียงออกมาปกป้องการกล่าวหาว่าคนทำงานโง่ ทั้งๆ ที่เขามีความเสี่ยงในการปฏิบัติงานตลอดเวลา หมอไม่ได้ปกป้องว่าเครื่องนี้ดี แต่คนในสังคมเชื่อง่าย เสพข้อมูลจากสื่อที่ใส่สีโดยไม่ฟังความจริงใดๆ สิ่งที่ทำให้ไม่มีการรับฟังอีกเลยคือสังคมมีการแบ่งฝ่ายเอาทุกเรื่องมาโยงกัน

    สำคัญที่สุดคือการใช้ Social media กล่าวหาใส่ร้ายกันอย่างขาดความรู้ผิดชอบชั่วดี โอกาสที่จะฟังความจริงจึงไม่เหลือ หมอได้ปล่อยวางหมดแล้ว ตัวเราเท่านั้นที่รู้ว่าเราทำอะไรถูกหรือผิด จิตจะไม่ไปผูกกับสิ่งรอบตัวให้รุงรัง คนที่ด่าคนอื่นก็ต้องทุกข์เพราะเกลียดโกรธเขา

    ขอบคุณโอกาสที่กลับมาให้ชี้แจง จะฟังหรือไม่ไม่สำคัญเท่ากับได้ทำหน้าที่แล้ว”

กรณีนี้คงจะเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับใครหลายๆ คน อาจจะเป็นแผลเป็นติดตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งผู้ที่เคยพูดเคยเขียนเคยให้ข้อมูลไว้ก็ดี หรือผู้ที่เสพสื่อใช้สื่อก็ดี

แต่คาดว่าบทเรียนนี้คงไม่ใช่บทเรียนสุดท้ายในสังคมไทย

คงจะมีอีกหลายกรณีศึกษา อยู่ที่ว่าเราจะรับข้อมูลข่าวสารกันอย่างไร

คนเสพสื่อก็ต้องตรวจสอบที่ต้นตอว่าเคยพูดไว้จริงหรือไม่ ซึ่งเขาเหล่านั้นคงมีเจตนาอะไรที่ทำให้ต้องพูดในเวลานั้น

แต่อย่าห่วงไปทุกๆ คำพูดในยุคโซเชียลมีเดียแบบนี้ มีหลักฐานมากมายที่ถูกบันทึกไว้

หากพูดจริง ผู้พูดพูดไปจริงย่อมต้องรับผลที่ตามมา

แต่ถ้าไม่จริง ผู้ที่แชร์สิ่งผิดๆ ก็ต้องรับผลตามมาเช่นกัน



มติชนออนไลน์
วันพุธที่ 29 มิถุนายน 2559