ผู้เขียน หัวข้อ: นายกฯ ลั่นลุยฟันค้ามนุษย์ทุกแรงงาน ยันใช้ ม.44 เป็นประโยชน์ ย้ำประชารัฐไม่เอื้อ  (อ่าน 689 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
“นายกรัฐมนตรี” เปิดงานวันต่อต้านการค้ามนุษย์ ยันใช้อำนาจพิเศษให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศ แย้มเอาวณิพกไปตั้งวงมาร้องเพลงในตลาดคลองผดุงฯ จวกช่อง 3 ปล่อยภาพลิงกอดแม่ถูกรถชนตายเลือดท่วมจอนานถึง 15 นาทีเพื่ออะไร ซัดสื่อประณามชาติตนตลอด ย้ำประชารัฐไม่ได้เอื้อใคร ฝากฝ่ายยุติธรรมดูการเพิ่มโทษให้คนกลัว ใช้เครือข่ายประชารัฐร่วมแก้ปัญหา ยันลุยไม่ใช่แค่ประมงแต่รวมทุกแรงงาน สั่งไล่กวดทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ จวกพวกต้านอย่ามาขัดขวางรัฐบาลมาก จะทำภาพใหญ่ไม่ได้ ถามต้องการอะไร ให้ชาติเป็นแบบเดิมหรือ
       
       วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงานวันต่อต้านการค้ามนุษย์ประจำปี 2559 ภายใต้แนวคิดหลัก “ประชารัฐร่วมใจ ต้านภัยการค้ามนุษย์” และมอบรางวัลด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ความสำเร็จวันนี้ถือเป็นเพียงขั้นที่ 1 เท่านั้น แต่ผลสำเร็จขั้นสุดท้ายต้องให้ได้ 100% จะต้องให้เกิดขึ้นทั้งในภูมิภาค และจังหวัด ถ้าจะให้ได้ผลสำเร็จทุกอย่างจะต้องได้ 100% หรือ 90% นั่นหมายถึงจะต้องไม่มีขบวนการค้ามนุษย์เกิดขึ้นในไทย ทุกฝ่ายจะต้องคิดว่าทำอย่างไร ปัญหาเหล่านี้จะต้องไม่เกิดขึ้นในประเทศของเรา ดังนั้นในแต่ละปีอย่าให้การทำงานเป็นเพียงการประชาสัมพันธ์แบบถ่ายรูปแล้วก็จบ ต่อจากนี้ไปผลงานจะต้องปรากฏให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม และผลสัมฤทธิ์เป็นไปตามกรอบ และโรดแมปในแต่ละด้าน และช่วงเวลาของแผนการปฏิรูป และยุทธศาสตร์ชาติ ต้องไม่มีปัญหาการค้ามนุษย์ และทุจริตผิดกฎหมายอีกต่อไป รัฐบาลประกาศเจตนารมณ์ไว้โดยกำหนดไว้วันที่ 5 มิ.ย.เป็นวันต่อต้านการค้ามนุษย์ ทั้งหมดจะต้องเข้าใจประเด็นปัญหาว่าอยู่ที่ไหน ก่อนหน้ามีอะไรเกิดขึ้น และปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ถ้าสามารถสร้างโครงข่ายความร่วมมือได้ และทำพร้อมกันทั้งอาเซียน ปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้นทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง
       
       “อย่าแก้ปัญหาเพียงแค่ของประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือหน่วยงานใดเพียงลำพัง ไม่สามารถจะแก้ได้ เพราะเกี่ยวข้องจากหลายส่วน ทั้งจากต้นทาง กลางทาง และปลายทาง หลายคนอาจจะเบื่อคำนี้ แต่ผมไม่รู้จะใช้คำไหน ใช้อะไร หรือจะใช้คำว่า ต้น ใบ ราก ไม่ว่าผมพูดอะไรก็ผิดไปหมด จับผิดคำพูดมากกว่าจับสาระ ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
       
       นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนปัญหาของสังคมโลก มีทั้งเรื่องการละเมิดสิทธิโดยมีรูปแบบมากมาย ปัญหาต่างๆ รวมทั้งขบวนการการค้ามนุษย์เกิดจากปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรมในทุกอาชีพ มีคนที่มีรายได้น้อยจำนวนมาก ทำให้เกิดการไขว่คว้าแสวงหาสิ่งที่ดีขึ้น และมีคนมาใช้ประโยชน์จากจุดนี้ ทำให้เกิดปัญหาการหลอกลวง การบังคับ ทุกปัญหามักเกิดขึ้นจากความยากจนซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้น ทุกประเทศในอาเซียนได้สัญญาว่าจะร่วมมือกันแล้วในการแก้ปัญหาโดยการพัฒนา ทั้งในและนอกประเทศในลักษณะของไตรภาคี โดยประเทศที่พัฒนาแล้วต้องช่วยเหลือประเทศที่อยู่ระหว่างการพัฒนา หรือด้อยพัฒนา ซึ่งรัฐบาลไทยกำลังดำเนินการอยู่ ขอร้องว่าอย่ามามัวแต่จับผิดกัน อย่าลืมว่าไม่เคยมีการทำเช่นนี้มาก่อนในลักษณะนี้ แม้วันนี้จะดีขึ้นมามากก็ตาม แต่ตนก็ยังไม่สบายใจเพราะไม่มั่นใจว่าวันข้างหน้าจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ แต่ต้องขอบคุณทุกคน ทุกหน่วยงาน และขอร้องให้ทำต่อไปเรื่อยๆ ดีกว่าที่เราจะใช้คำสั่งกับบางอย่างที่น่ารำคาญ
       
       “นี่คือการใช้อำนาจพิเศษที่เกิดประโยชน์แก่ประเทศ ประชาชน และภูมิภาค ในทุกประเทศถ้าไม่ทำให้ทุกอย่างสงบเงียบ สิ่งดีๆ ก็ไม่เกิดขึ้น หลายๆ ประเทศพยายามเข้าใจหน่อยแล้วกัน เราพยายามทำทุกอย่างให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม มุ่งมั่นปราบปรามลงโทษผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด โดยเน้นที่ผลลัพธ์ ซึ่งในส่วนของเราจับกุมมาได้ 150 คดี และต้องชี้แจงให้ได้ว่า 150 คดีนั้นมีการจับกุมส่งฟ้องศาลได้ทั้งหมดหรือยัง และมีการตัดสินคดีไหนแล้วบ้าง เนื่องจากส่วนเหล่านี้มีทั้งผู้ประกอบการ เหยื่อ เจ้าหน้าที่ ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เจ้าหน้าที่ไม่ร่วมมือ ซึ่งมีทั้งไม่ตั้งใจ ไม่เอาใจใส่ หรือตั้งใจ เมื่อรัฐบาลไม่เอาใจใส่ ไม่กวดขัน ไม่เอาจริงเอาจัง ข้าราชการก็ไม่รู้จะทำอย่างไร มีหน้าที่แต่ไม่มีใครใส่ใจก็ทำให้เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งหลายเปอร์เซ็นต์เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ประมาณรัอยละ 69.3 ใช้งบประมาณในการแก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย 580 ล้านบาท หรือร้อยละ 19 ของงบประมาณที่จัดสรร การแก้ปัญหาอยู่ที่การใช้กฎหมาย และคนจะเชื่อมั่น และปฏิบัติตามหรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
       
       นายกฯ กล่าวว่า ปัจจุบันโลกมีความขัดแย้งสูง เพราะมีคนทั้งฉลาดดี และฉลาดไม่ดี พยายามใช้กฎหมายมาต่อสู้ โดยใช้เรื่องสิทธิมนุษยชนมาต่อสู้กับรัฐ และกฎหมาย อาเซียนก็ต้องช่วยกันดู ทั้งเรื่องของโซเชียลมีเดีย การปลุกปั่นปลุกระดม การสร้างความเข้าใจผิดบิดเบือน เป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคลหรือไม่หากไปละเมิดสิทธิคนอื่น ในเรื่องการพิจารณาคดีต่างๆ ต้องทำให้รวดเร็ว แต่ต้องมีความเป็นธรรม ให้สิทธิในการต่อสู้คดี การขนคนมาเป็นก็สามารถถ่ายทอดทางโทรทัศน์ได้ เพราะเรากำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคไอซีที เราต้องใช้ระบบไอทีให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกกิจกรรม ถ้ากฎหมายทำได้ก็ทำ และดูสากลด้วย ถ้าทุกคนถือกฎหมายคนละฉบับก็จะเกิดปัญหาอย่างเช่นทุกวันนี้ สิ่งสำคัญเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องไม่ลงไปเกี่ยวข้องกับปัญหาต่างๆ และต้องบังคับใช้กฎหมาย และไม่ทำให้เกิดปัญหาใหม่ ผู้บังคับบัญชาต้องสอดส่องดูแล และห้ามใช้หลักทรัพย์ และสถานการณ์ในการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในการประกันตัวผู้ต้องหา หรือจำเลย รัฐบาลทำหน้าที่ตรงนี้ไม่ใช่ไปทะเลาะเบาะแวงกับคนที่ออกมาพูดทุกวันอย่างนี้ จนสังคมและต่างประเทศเกิดความไม่เข้าใจ
       
       นายกฯ กล่าวว่า ปัจจุบันคดีอาญาทั้งหมด มีเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจ ทหาร พลเรือน นักการเมืองท้องถิ่น ถูกดำเนินคดีทางวินัย และอาญา 34 ราย ถูกพักราชการไปแล้วแต่ก็ต้องเร่งดำเนินการสอบสวน พร้อมลงโทษทางวินัยทันที และขอฝากปลัดกระทรวงยุติธรรมว่าให้ไปคิดแก้ปัญหากรณีที่ผู้ต้องหารับสารภาพทุกอย่างแล้ว แต่ถึงเวลาในชั้นศาลกลับปฎิเสธ ต้องไปดูว่าประเทศอื่นเขาทำอย่างไรก็กรณีนี้ การให้สิทธิคนต่อสู้สามารถทำได้ แต่เรื่องแบบนี้บางทีมันวุ่นวาย ขอให้ไปสอบถามประเทศเพื่อนบ้าน ว่ากรณีแบบนี้ทำอย่างไร แต่ถ้าศาลโลกหรือต่างประเทศเขาทำแบบนี้ก็ต้องทำตามหลักสากล ในส่วนการคุ้มครองช่วยเหลือผู้กระทำผิดกฎหมาย ผู้เสียหายเดิมจะต้องถูกปรับทันที ทั้งที่คดียังไม่ถึงสิ้นสุด สอบพยานก็ยังไม่ได้ ต้องมีการเยียวยาฟื้นฟู โดยเฉพาะกรณีที่ถูกดำเนินคดีในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นคนของชาติใด ต้องได้รับสิทธิและความเป็นธรรม ไม่มีปัญหาใดในโลกนี้ที่จะแก้ไขได้เพียงลำพัง
       
       “อย่างรางวัลที่ได้รับมอบกันในวันนี้ ขอให้กำหนดรางวัลให้หน่วยงานเพิ่มขึ้นด้วย เพื่อให้ได้มาตรฐาน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ระดับล่าง รางวัลของหน่วยงานจะต้องมีผลในเชิงสัมฤทธิ์ออกมาตอบคำถามได้ด้วยตัวเลขทางวิทยาศาสตร์ ต้องมีคุณภาพมากกว่าปริมาณ และต้องคัดแยกผู้เสียหายให้ได้ดีที่สุด ที่ผ่านมาผมใช้อำนาจมาทั้งหมดในเรื่องต่างๆ ก็เพื่อเกิดความเป็นธรรมกับทุกคน การที่รัฐบาลออกกฎหมายมาตรา 44 เป็นการป้องกัน และป้องปรามให้คนไม่ทำความผิดแต่ก็ยังมีคนทำผิดมากกว่าเดิม เพื่อใช้มาตรา 44 ไปต่อสู้ในเรื่องสิทธิมนุษยชน ตรงนี้คือความแตกต่าง เพราะฉะนั้นอย่ามากดดันเรามากนัก เพราะทั้งหมดเราทำเพื่อคนไทย และทุกประเทศเพื่อความเป็นมนุษยชาติที่ต้องค่อยดูแลซึ่งกันและกัน ส่วนการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว จิปาถะ ทั้งเรื่องขอทาน มีใครเคยแก้ไขปัญหาเรื่องวณิพก เดินร้องเพลงตามถนนบ้างหรือไม่ รัฐบาลนี้นำคนเหล่านี้ไปอบรมตั้งวงดนตรี เอามาร้องที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม สิ่งเหล่านี้ทำไมไม่ชี้แจง ผมไม่โกรธต่างประเทศที่เป็นเพื่อนเรา รวมทั้งเรื่องของโสเภณีบ่อเกิดจากปัญหาความยากจนทั้งสิ้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว
       
       นายกฯ กล่าวว่า สำหรับปัญหาโสเภณีก็มาจากความยากจนทั้งสิ้น ใครอยากจะทำอาชีพเหล่านี้ จะดูแต่เรื่องผลงานการจับกุมไม่ได้ ต้องดูผลงานในเรื่องการป้องกันด้วยว่ามีการประสานร่วมมือแก้ไขกับต่างประเทศอย่างไร และแก้ปัญหาที่ต้นทางอย่างไร ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็มีมาตรการเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เกิดขึ้น รวมไปถึงการแก้กฎหมาย แต่จะต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ฉะนั้นการต่อต้านเหล่านี้จะทำให้เดินหน้าไม่ได้ วันนี้เรื่องไอยูยูเราต้องแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว และต้องบอกเพื่อนบ้านและคนทั้งโลกในสิ่งที่เราทำต่อการแก้ปัญหาดังกล่าว เราเสียหายอะไรบ้าง เราจับคนที่ทำผิดและเป็นคนจน ทำให้เขาเสียหายไม่มีจะกินจำนวนมาก แล้วทำไมเราถึงต้องทำ เพราะต้องการให้ทุกอย่างถูกต้อง ฉะนั้นองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ต้องดูด้วยว่าปัญหาเหล่านี้เกิดมาตั้งแต่เมื่อไร แต่เราโทษใครไม่ได้ต้องโทษคนไทยทุกคนที่ปล่อยให้เกิดขึ้นมายาวนาน วันนี้ต้องหยุดให้ได้ ด้วยความเข้าใจในการแก้ปัญหา ตนพร้อมจะแก้ปัญหาทุกอย่าง
       
       นายกฯ กล่าวด้วยว่า ตนก็อยากให้อำนาจพิเศษในการแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ การแก้ปัญหาถ้าติดมากๆ คนทำก็จะโดนอีก ตอนนี้จะติดไม่ได้แล้ว เพราะเวลามีไม่มาก ทุกคนจะต้องเอาปัญหามาคลี่บริหารจัดการลดความเสี่ยง ไม่ใช่ทำอย่างหนึ่งแต่ไปโดนอีกอย่างหนึ่งทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะถือว่าเป็นผู้นำที่ไม่มีความแตกต่างๆ ในระยะนี้เป็นช่วงของการบูรณาการและปฏิรูปประเทศ ในระยะที่1 ตรงนี้คือความแตกต่างที่ต้องปฏิรูปตัวเอง วันนี้เราแก้ทุกอย่าง สะเทือนไปถึงประมงพื้นบ้านชายฝั่ง ถามว่าใครทำไว้ ทำด้วยการอ้างประชาธิปไตยหรือเปล่า แต่ประชาธิปไตยต้องไม่ใช่แบบนี้ ตนกำลังทำประชาธิปไตยให้มันดีขึ้นกว่าเดิม ที่หมักหมมปัญหา นี่คือหน้าที่ที่เข้ามาในวันนี้ การทำงานวันนี้ ไม่ใช่ 1+1 แล้วได้ 2 ถ้าแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ผลลัพธ์มันจะมากกว่านั้น แทนที่จะลดปัญหากลับมาเพิ่มปัญหาอีก ฉะนั้นต้องคิดแบบบูรณาการมองวิสัยทัศน์ไปข้างหน้า
       
       นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการรายงานต่างประเทศนั้นต้องทำให้สมบูรณ์ลงในรายละเอียด และต้องดูว่าเขาอยากได้อะไร และต้องบอกด้วยว่าสิ่งที่เราทำมีผลกระทบอย่างไร แต่ก็ทำเพราะเคารพในพันธสัญญาทั้งหมด ต้องให้เขาเข้าใจบ้างเพราะบางที่ไม่ได้รับรู้ว่าสิ่งที่เราทำมีผลกระทบ ภาพต่างๆ ที่ออกทางหน้าสื่อบางทีทำให้เกิดความเลวร้าย โดยเฉพาะการทำภาพจำลองจะหนักกว่าของจริง ไม่ควรจะสร้างภาพเหล่านั้นขึ้นมา แทนที่จะดูดีกลายเป็นลบ เขาก็จะมาไล่ล่าฆ่าฟันเราเรื่องประชาธิปไตยอีก อย่างเช่นภาพลูกลิงกอดแม่ลิงที่ถูกรถชนเลือดท่วมแล้วไม่เบลอภาพ ที่ออกทางช่อง 3 แล้วพูดอยู่ได้ 15 นาทีเรื่องนี้ แช่ภาพเลือดท่วมจออยู่อย่างนั้น ถามว่าทำไปเพื่ออะไร แค่ยกตัวอย่างก็น่าจะจบ แล้วก็ไปแก้ปัญหากัน แต่นี่กลับประณามประเทศตัวเองตลอดเวลา ไม่ว่าจะช่องไหนที่ทำแบบนี้ตนซัดทุกช่อง เพราะยังไงก็ไม่ดีกว่านี้อยู่แล้ว คงไม่ได้รักตนมากกว่าเดิม
       
       นายกฯ กล่าวว่า นอกจากเรื่องการค้ามนุษย์ การทำประมงผิดกฎหมายที่น่าห่วงแล้ว ยังมีเรื่องการอพยพอย่างไม่ปกติที่เกิดขึ้นหลายประเทศในอาเซียน ยุโรป ตรงนี้คือส่วนหนึ่งของขบวนการค้ามนุษย์ ปัญหานี้ทั้งโลกกำลังให้ความสำคัญ จึงขอฝาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีไว้ด้วย แม้ทำดีแล้วก็ขอให้ยกระดับขึ้นมา เพราะเวลาไปต่างประเทศเขาพูดกันเรื่องเหล่านี้ ซึ่งการแก้ปัญหาต้องแก้กันที่ต้นทาง เราคือกลางทางต้องใช้กฎหมาย อย่าให้เล็ดรอดไปประเทศที่ 3 และไปเชื่อมโยงกับการก่อการร้ายวุ่นวายไปหมด ดังนั้นทุกคนต้องให้ความสำคัญมากกว่าสิ่งที่พูดกันอยู่วันนี้ ต่อให้พูดกันให้มากอยากได้กันนักหนา ถ้ามีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นตลอดเวลาถามว่าจะอยู่กันได้ไหม
       
       นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ประชารัฐก็โดนอีก หาว่าจะเอื้อประโยชน์ ถามว่าตนจะไปเอื้อให้ใคร ไม่มี มีแต่ให้คำขอบคุณชื่นชม รางวัล เพราะให้อะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่ให้ด้วยใจที่มาร่วมมือ มาแก้ปัญหาสร้างความเข้าใจ ในมุมกว้างในความคิดของพวกท่าน เพราะบางทีรัฐพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะรัฐบาลพูดโกหกไม่ได้ ทุกรัฐบาลต้องไม่พูดโกหก แต่ถ้าพูดแล้วไม่ทำใครๆ ก็พูดได้ สิ่งที่ตนพูดนั้นทำทุกวันทุกอย่าง ทุกคนเหนื่อยแสนสาหัส อย่าปล่อยให้คนไม่ทำมาพูด วันนี้ว่าจะไม่อารมณ์เสีย แต่เห็นหน้า พล.อ.ประวิตรที่ดูแลฝ่ายความมั่นคง ทั้งหมดคือความมั่นคงทั้งสิ้น แต่ความมั่นคงไม่ใช่แต่เพียงเอากำลังทหารไป ความมั่นคงประกอบไปด้วยอำนาจ กับกำลังรบแบบมีตัวตนและไม่มีตัวตน ทีมีตัวตนคือ คน เครื่องบิน แม้จะเก่าบ้างแต่ก็ยังมี ต้องไปว่ากันว่าจะทำอย่างไร ไม่ใช่เพื่อแข่งขันหรือรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตย รักษาผลประโยชน์ และรัฐบาลไทยมีหน้าที่ชัดเจน ให้ทหารมีหน้าที่พัฒนาประเทศด้วย ซึ่งทหารจะมีทั้งรบ พัฒนา และรักษาความสงบ
       
       นายกฯ กล่าวว่า การฝึกซ้อมรบ ไม่ใช่เพื่อจะประลองกำลัง หรือเพื่ออยู่ข้างใคร แต่เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าถ้ารบกันมันจะวุ่นวาย และต้องตายกันไม่รู้เท่าไร จึงต้องฝึกเพื่อหาหนทาง หากเกิดการสู้รบจะไม่มีคนเดือดร้อนสามารถจำกัดพื้นที่การรบให้เล็กที่สุด ดังนั้นต้องฝึกต้องมีเครื่องมือที่ทันสมัย
       
       พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชันยังเป็นประเด็นหลัก ต้องลงโทษเด็ดขาดรวมถึงผู้ละเว้น ไม่ใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม เราต้องเอาคนดีมาทำงานให้บ้านเมือง วันหน้าตนกำลังเตรียมให้นักการเมืองขึ้นมาให้ประชาชนพิจารณาว่าดีหรือไม่ดี วันหน้าก็เป็นเรื่องของท่าน ไม่ใช่เรื่องของตน อย่ามาบอกว่าไม่เห็นทำอะไรสักอย่าง เราทำทุกอย่างโครมๆ เพื่อประเทศชาติและคนไทยทั้งสิ้น รวมถึงนักการเมืองที่จะมาเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วยซ้ำ ตนได้ใช้ได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ แต่ได้ความสุขที่เข้ามาทำสิ่งเหล่านี้ให้ลูกหลานในอนาคตและเพื่อนบ้าน อาเซียน และทุกประชาคม ประเทศไทยต้องมีที่ยืนที่พูด และคนต้องฟัง วันนี้ตนอาจใช้เสียงดังหน่อยแต่เขาก็ฟัง
       
       นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันคิดอย่าให้ตนต้องสั่งเพราะเดี๋ยวจะไปขัดแย้งกันอีก ขอขอบคุณสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงยุติธรรมที่ได้จัดตั้งหน่วยงานเป็นการเฉพาะก็ขอให้ดำเนินด้วยความรวดเร็ว ใช้ผู้เชี่ยวชาญ มีความโปร่งใส ให้ผู้ถูกกล่าวหามีโอกาสต่อสู้คดี แต่คดีใดก็ตามที่เป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่มีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง เราลองทบทวนว่าควรมีมาตรการอย่างไร แล้วบวกเรื่องการประกันตัวเข้าไปด้วย รวมถึงการเพิ่มโทษเราจะสามารถเพิ่มได้หรือไม่ เหมือนต่างประเทศที่เขาแก้ปัญหาเรื่องคดีข่มขืนให้มีประหารชีวิต เขาทำได้ แต่ประเทศไทยทำได้หรือไม่ ฝ่ายยุติธรรมไปทำมา ซึ่งต้องตอบคำถามมากมาย รวมถึงคดีที่มีการจับแล้วปรับเพียง 1,000-2,000 บาทมันไม่ใช่ เพราะตอนจ้างคนทำคดีก็หมดเป็นแสนเป็นล้านบาทแล้ว ต้องไปดูว่าทำอย่างไรให้คนกลัว อันไหนให้ไม่ให้ควรระบุให้ชัดเจน แล้วก็ไปดูต่างประเทศด้วยว่าเขาทำอย่างไร เราอย่าไปคิดเองทั้งหมด
       
       นายกฯ กล่าวว่า เราต้องเป็นผู้นำที่มีความแตกต่าง ถ้าเป็นแล้วไม่ได้คิดอะไรใหม่อย่าเป็นเพราะผู้นำแบบนั้นใครก็เป็นได้ ตรงนี้จะทำให้เรามีความก้าวหน้าทั้งทางราชการและส่วนตัว ซึ่งทุกอย่างต้องดูในกรอบความยุติธรรม จะทำอะไรจะต้องอยู่ในกฎหมาย
       
       ต่อมา เมื่อเวลา 10.30 น พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการการเปิดงานว่า วันนี้เป็นการขับเคลื่อนการค้ามนุษย์โดยอาศัยกลไกประชารัฐ เพราะไม่มีอะไรที่รัฐบาลหรือประชาชนทำได้แต่เพียงผู้เดียว แต่ต้องอาศัยภาคีเครือข่ายเราจึงใช้คำว่าประชารัฐในทุกมิติทั้งเรื่องเศรษฐกิจ หรือเรื่องที่เป็นปัญหาขอประเทศ เพราะตนแก้คนเดียวไม่ได้ สั่งการคนเดียวไมได้ เราต้องช่วยกันและสื่อเองก็อยู่ในกระบวนการเหล่านี้ และสื่อมีความสำคัญอาจะเรียกว่าที่สุดก็ได้ เพราะสื่อต้องสร้างความเข้าใจให้คนทั่วไป จะได้ไม่เกิดความขัดแย้งในการทำงาน วันนี้ขอบคุณกระทรวงพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงกลาโหม ที่ทุกคนร่วมมือกัน ไม่ใช่ว่าหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งจะแก้ปัญหาค้ามนุษย์ได้ การทำงานต้องบูรณาการ คณะทำงานที่ตั้งขึ้นมา โดยใช้อำนาจมาตรา 44 นั่นคือสิ่งที่ตนใช้เป็นประโยชน์ ส่วนสิ่งที่จำเป็นต้องใช้เพื่อให้เกิดความสงบสุขตนคิดว่าเป็นประโยชน์ เพราะไม่มีอะไรดีขึ้นเลย แต่ก็ต้องใช้จะไม่มีการยกเลิกอะไรทั้งสิ้น ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนร่วมมือกันว่าทำอย่างไรให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า
       
       นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องการต่อต้านการค้ามนุษย์ ไม่ใช่เพราะแรงงานประมงแต่รวมถึงทุกแรงงาน วันนี้ต้องไล่กวดกันให้ได้ ทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ รายใหญ่ รายเล็กโดนหมด นี่คือสิ่งที่เราปล่อยปละละเลยกันมาน และทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนที่มีรายได้น้อย
       
       “อย่ามาต่อต้านขัดขวางรัฐบาลกันมากนัก มันเลยทำภาพใหญ่ไม่ได้ ท่านต้องการอะไรจากผม ท่านต้องการให้ประเทศชาติเป็นแบบเดิมหรอ” นายกฯ กล่าวทิ้งท้าย


MGR Online       6 มิถุนายน 2559