มูลนิธิโรคอัลไซเมอร์แห่งประเทศไทยเผยการมีเพศสัมพันธ์ ที่ดีอาจช่วยสนับสนุนการทำหน้าที่ของสมอง ร่างกายจะหลั่ง"เอ็นโดฟิน" ช่วยสกัด"โรคสมองเสื่อม"
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม นพ.ยุทธ โพธารามิก ประธานมูลนิธิโรคอัลไซเมอร์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ศ.พญ.นันทิกา ทวิชาชาติ เลขานุการมูลนิธิฯ แถลงเปิดตัวหนังสือคัมภีร์แห่งความจำ (Memory Bible) แต่งโดย นพ.แกรี่ สมอลล์ (Gary Small) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคทางสมองโดยเฉพาะโรคอัลไซเมอร์ แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทยครั้งแรกโดย ศ.พญ.นันทิกา
นพ.ยุทธเปิดเผยว่า โรคสมองเสื่อม หรือโรคสมองฝ่อ เป็นโรคของผู้สูงอายุ ทำให้สูญเสียความทรงจำ หากเป็นแล้วไม่ดูแลรักษา จะพัฒนาไปสู่โรคอัลไซเมอร์ ซึ่งเข้าขั้นรุนแรง พบได้ประมาณร้อยละ 70 ของผู้ป่วยสมองเสื่อมทั้งหมด ทั้งนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าคนอายุ 65 ปีขึ้นไป ป่วยด้วยความจำถดถอยรุนแรงกว่า 10 ล้านคน และกลายเป็นโรคอัลไซเมอร์ ร้อยละ 10-15 ต่อปี โดยจะพบผู้ป่วยรายใหม่สูงขึ้นเป็น 2 เท่า ในทุกๆ 5 ปี ในผู้ที่อายุ 65 และ 90 ปี ล่าสุดคาดว่าทั่วโลกจะมีผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ประมาณ 26 ล้านคน
"ส่วนคนไทย ผลสำรวจจากข้อมูลที่ได้ในการคัดกรองผู้สูงอายุ ของงานคัดกรองความจำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปี ขึ้นไป 2,685 ราย พบว่า เป็นโรคสมองเสื่อม (Dementia) ถึงร้อยละ 31.2 และมีอาการบกพร่องทางพุทธิปัญญาในระดับน้อย (Mild Cognitive Impairment) ที่สามารถพัฒนากลายไปเป็นโรคสมองเสื่อมได้ถึงร้อยละ 34 และร้อยละ 34.8 เป็นกลุ่มปกติ" นพ.ยุทธกล่าว และว่า หากมีผู้สูงอายุ 10 คน ประมาณ 6 คน น่าจะมีความบกพร่องทางด้านความจำ โดยใน 3 คน เป็นโรคสมองเสื่อมแล้ว เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากคาดว่าในอนาคตซึ่งจะมีผู้สูงอายุมากขึ้น ซึ่งโดยเฉลี่ยผู้ป่วยจะเสียชีวิตอยู่ในช่วงประมาณ 8-10 ปี หลังการวินิจฉัย สิ่งที่ดีที่สุดคือพยายามป้องกันไม่ให้เป็นโรค
ด้าน ศ.พญ.นันทิกากล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านความจำ ประเมินว่า ผู้ที่มีปัญหาความจำบกพร่องร้อยละ 40 เกิดขึ้นเมื่ออายุ 50 ปี ร้อยละ 50 เกิดในช่วงอายุ 60 ปี และมากกว่าร้อยละ 70 เกิดขึ้นเมื่ออายุ 70 ปีขึ้นไป โดยอายุสมองของคนเราแตกต่างกันตามพันธุกรรม วิถีการดำเนินชีวิต และสิ่งแวดล้อมที่สัมผัส สมองผู้หญิงจะเล็กกว่าสมองผู้ชาย มีน้ำหนักประมาณ 3 ปอนด์เศษ แต่สมองผู้หญิงมีประสิทธิภาพสูงกว่าชาย ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การมีเพศสัมพันธ์ที่ดีอาจช่วยสนับสนุนเรื่องการทำหน้าที่ของสมองเมื่ออายุมากขึ้น เพราะร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดฟินออกมา
ซึ่งเรื่องนี้อาจขัดกับความรู้สึกของคนไทย เนื่องจากส่วนใหญ่เชื่อว่า เมื่อแก่ตัวจะมีเรื่องดังกล่าวน้อย เพราะอายลูกหลาน แต่จากการสำรวจชี้ให้เห็นว่าในกลุ่มของผู้สูงอายุยังมีความต้องการทางเพศ หากเวลา สถานที่ และคู่เหมาะสม นอกจากนี้ การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นเวลานาน อาจช่วยชะลอความเสื่อมสมองได้ จึงแนะนำว่า ดื่มน้ำมากๆ วันละ 6 แก้ว วางแผนอาหารมื้อต่างๆ ล่วงหน้า อย่ารอให้หิวมากๆ เพราะจะทำให้กินอาหารมากเกินขนาด ให้ใช้เครื่องเทศ สมุนไพร กระเทียม โดยเฉพาะสารเคอร์คูมิน (Curcumin) ในขมิ้นชันป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ เพราะสามารถลดการสูญเสียของจุดประสานประสาทในสมอง
