ผู้เขียน หัวข้อ: เหิมเกริม! คนร้ายยึด รพ.เจาะไอร้อง นราธิวาส ยิงถล่มทหาร  (อ่าน 1204 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
 สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อวานนี้ (13มี.ค.) ตึงเครียดอย่างหนัก โดยเป็นวันคล้ายวันสถาปนาครบ 56 ปีของขบวนการบีอาร์เอ็น วันที่ 13 มีนาคม มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นหลายจุด โดยเฉพาะที่อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส คนร้ายบุกเข้าไปในโรงพยาบาล และยิงปืนออกมาโจมตีฐานปฏิบัติการของทหารพราน

 เหตุรุนแรงที่ อำเภอเจาะไอร้อง เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 15.55 น. คนร้ายจำนวน 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่ฐานปฏิบัติการของตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ อำเภอเจาะไอร้อง ซึ่งตั้งฐานอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ เบื้องต้นไม่มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ

 ฐานปฏิบัติการของทหารพรานชุดนี้ ตั้งอยู่ริมรั้วโรงพยาบาลเจาะไอร้อง โดยคนร้ายยิงออกมาจากอาคารโรงพยาบาล ทำให้ไม่สามารถส่งตัวกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บเข้าไปปฐมพยาบาลในโรงพยาบาลเจาะไอร้องได้ ต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาสแทน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง นำกำลังเข้าปิดล้อมโรงพยาบาลเจาะไอร้อง และใช้มาตรการกดดันจนคนร้ายล่าถอยไปด้านหลังโรงพยาบาล หนีไปบนเทือกเขาตะเว คาดว่ามีบางคนได้รับบาดเจ็บ

คนร้ายที่บุกเข้าไปในโรงพยาบาลเจาะไอร้องมีประมาณ 10-12 คน โดยเข้าไปบนอาคาร แต่ไม่ได้ทำร้ายผู้ป่วย หรือแพทย์ พยาบาล และไม่ได้มีการจับตัวประกันตามที่มีข่าวลือ เพียงแต่ใช้ปืนยาวทุบเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์จนได้รับความเสียหาย และทำลายเอกสารระบุรายชื่อผู้ป่วยของโรงพยาบาล ทั้งยังใช้พื้นที่โรงพยาบาลเป็นเกราะกำบังในการโจมตีทหารพราน พบปลอกกระสุนนับร้อยปลอก.

http://www.khonkaenlink.info/home/news/1422.html

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ประณามเหตุโจรใต้เข้ายึด รพ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ใช้เป็นจุดยิงถล่มใส่ฐานปฏิบัติการทหาร ใช้ผู้บริสุทธิ์เป็นโล่กำบัง ชี้เป็นการกระทำที่สุดโต่งไร้ซึ่งมนุษยธรรม วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2559 เวลา 10:52 น.

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.)เปิดเผยว่า จากกรณีวานนี้ (13 มี.ค.) เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่ ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดยคนร้ายได้ใช้อาวุธสงครามยิงจาก รพ.เจาะไอร้อง ใส่ฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำของกลุ่มคนร้ายที่มุ่งสร้างสถานการณ์และความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะกรณีคนร้ายได้เข้าไปหลบซ่อนตัวในโรงพยาบาล ใช้ผู้ป่วย แพทย์ พยาบาล และ ประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นโล่กำบัง เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุทราบดีว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ยิงตอบโต้เข้าไปในโรงพยาบาลอย่างแน่นอน การเข้าไปหลบซ่อนตัวของคนร้ายในโรงพยาบาลนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรพึงกระทำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ กลุ่มขบวนการมุ่งหวังเพื่อสร้างสถานการณ์ก่อกวนให้เกิด ความวุ่นวาย สร้างความเดือดร้อน และความเสียหายให้เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยไม่คำนึงถึง ผู้ได้รับผลกระทบซึ่งอาจจะเป็นผู้ป่วย แพทย์ พยาบาล ทั้งพี่น้องไทยพุทธและพี่น้องไทยมุสลิม เป็นการกระทำที่สุดโต่ง ไร้ซึ่งมนุษยธรรม

ทาง พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่4ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ได้สั่งการให้หน่วยบูรณาการกำลัง3ฝ่าย เข้าควบคุมสถานการณ์และบริหารจัดการสถานที่เกิดเหตุตามขั้นตอนของแผนรักษาความปลอดภัย พร้อมทั้งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตนเอง โดยการเข้ารับฟังการรายงานเหตุการณ์จากเจ้าหน้าที่ ณ ที่ว่าการอำเภอเจาะไอร้อง พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยในพื้นที่เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติ ณ ด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัดให้มากขึ้น รวมทั้งเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในการติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย

พ.อ.ยุทธนาม กล่าว วันเดียวกัน พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่10ยะลา ร่วมกันเดินทางเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานบริเวณอาคารที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำใหม่ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่ โดยพบว่าตัวอาคารถูกกระสุนปืนจำนวนหลายนัดได้รับความเสียหาย และกระสุนยังได้ทะลุผนังเข้าไปในห้องพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บริเวณชั้น5ของตัวอาคาร แต่โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่ภายในห้อง นอกจากนี้ ยังพบรอยกระสุนที่บริเวณแท้งค์น้ำด้านหลังอาคาร1นัดด้วย อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบภายในสวนยางพาราด้านหลังของอาคารที่พักของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายจะใช้ซุ่มยิง.



เดลินิวส์
อังคารที่ 15 มีนาคม 2559“


story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตึงเครียดอย่างหนักในวันคล้ายวันสถาปนาครบ 56 ปีของขบวนการบีอาร์เอ็น วันที่ 13 มี.ค.59 โดยเกิดเหตุรุนแรงอย่างน้อย 3 จุดต่อเนื่องกันในเขต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดยหนึ่งในสามเหตุ คนร้ายบุกเข้าไปในโรงพยาบาลเจาะไอร้อง และยิงปืนออกมาโจมตีฐานปฏิบัติการของทหารพรานด้วย

          เหตุรุนแรงที่ อ.เจาะไอร้อง เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 15.55 น. คนร้ายจำนวน 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่ฐานปฎิบัติการของตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) อ.เจาะไอร้อง เบื้องต้นไม่มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางบ้านไอร์ปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง

          ทั้งนี้ ฐานปฏิบัติการดังกล่าวอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเจาะไอร้อง หมู่ 1 ต.จวบ

          ต่อมาเวลา 16.40 น. คนร้ายลอบวางระเบิดและซุ่มโจมตีฐานปฏิบัติการของกองร้อยทหารพรานที่ 4816 (ร้อย ทพ. 4816) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 เบื้องต้นมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 6-8 นาย

          ทั้งนี้ ฐานปฏิบัติการดังกล่าวตั้งอยู่ริมรั้วโรงพยาบาลเจาะไอร้อง และผู้บังคับกองร้อยให้ข้อมูลว่า คนร้ายน่าจะยิงออกมาจากอาคารโรงพยาบาล ส่วนที่เป็นบ้านพักของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ทำให้ไม่สามารถส่งตัวกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บเข้าไปปฐมพยาบาลในโรงพยาบาลเจาะไอร้องได้ ต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส ทันที

          จากนั้นเวลา 17.09 น. เกิดระเบิดในพื้นที่บ้านยานิง หมู่ 2 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง บริเวณเชิงสะพานตลาดบ้านยานิง เบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

          สำหรับเหตุรุนแรงเหตุที่ 2 ที่มีรายงานคนร้ายยิงออกมาจากโรงพยาบาลนั้น ได้รับการยืนยันจาก พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ว่าได้รับรายงานดังกล่าวจริง และคนร้ายน่าจะยิงออกมาจากอาคารที่พักเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ได้ส่งกำลังเข้าปิดล้อมโรงพยาบาลและเคลียร์พื้นที่อย่างระมัดระวังแล้ว

          มีรายงานอีกกระแสหนึ่งว่า คนร้ายที่บุกเข้าไปในโรงพยาบาลเจาะไอร้องมีประมาณ 10-12 คน โดยเข้าไปบนอาคาร แต่ไม่ได้ทำร้ายผู้ป่วย หรือแพทย์ พยาบาล เพียงแต่ใช้ปืนยาวทุบเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์จนได้รับความเสียหาย และทำลายเอกสารระบุรายชื่อผู้ป่วยของโรงพยาบาล จากนั้นได้หลบหนีออกไปทางด้านหลังของโรงพยาบาล

          สำหรับโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอ ด้านหลังของโรงพยาบาลคือเขาตะเว ซึ่งเป็นภูเขาที่มีฐานพักหรือฐานฝึกของผู้ก่อความไม่สงบหลายฐาน เจ้าหน้าที่เคยเดินเท้าขึ้นไปทลายหลายครั้ง

          รายชื่อกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุรุนแรงที่ อ.เจาะไอร้อง มีทั้งทหารพราน และอาสารักษาดินแดน (อส.) เท่าที่ทราบชื่อจนถึงขณะนี้มี 7 นายคือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) มะเพรู่ หะยีลาเด็ง, อส.ทพ.เอกภพ นภานพดล, อส.ทพ.วุฒิไกร เดชบุญ, ส.อ.สิริวัฒน์ นวลทอง, ส.ท.ธีรศักดิ์ รัตนอุบล, นายอิบบาเฮ็ง แม เป็น อส.ประจำอำเภอเจาะไอร้อง และ อส.ทพ.รุ่งอโณทัย เพ็ชร์วงศ์ ส่วนรายที่ 8 ยังไม่ทราบชื่อ

          เวลา 19.25 น. เกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเขตต่อเนื่องกับ อ.เจาะไอร้อง เบื้องต้นมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

http://www.isranews.org/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B2/item/45492-hospital_45492.html
13 มีนาคม 2559

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
แม่ทัพภาคที่ 4-ผู้ว่าฯ นราธิวาส ลงพื้นที่ รพ.เจาะไอร้อง ติดตามสถานการณ์คนร้ายก่อเหตุป่วน สั่ง จนท. 3 ฝ่าย 300 นาย ล่าตัว คาดยังกบดานอยู่บนเทือกเขา อาจเป็นฝีมือกองกำลังติดอาวุธ RKK ด้านสาวท้อง 6 เดือน เล่าเหตุระทึก โชคดีไม่โดนทำร้าย

วันที่ 14 มี.ค. 59 เวลา 11.40 น. พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พ.ต.อ.รัฐบวร บำรุงรส รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่ รพ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เพื่อติดตามสถานการณ์หลังเกิดเหตุคนร้ายประมาณ 40-50 คน กระจายก่อเหตุป่วนในพื้นที่ จ.นราธิวาส หลายจุดต่อเนื่อง ทั้งยิงถล่มเจ้าหน้าที่และลอบวางระเบิด

พร้อมกันนี้ พล.ท.วิวรรธน์ สั่งการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย จำนวน 300 นาย เปิดยุทธการติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่ายังคงกบดานอยู่บนเทือกเขาเขตรอยต่อระหว่าง อ.เจาะไอร้อง กับ อ.จะแนะ เพื่อตามจับกุมตัวกองกำลังติดอาวุธ RKK กลุ่ม นายลุกมาน ลาเต๊ะบือริง และ นายซือดี ปูเต๊ะ ที่คาดว่าน่าจะเป็นคนสั่งการมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้

นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้มอบเงินเยียวยาปลอบขวัญ และสร้างกำลังใจแก่แพทย์พยาบาลและบุคลากรของ รพ.เจาะไอร้อง ผ่าน น.ส.บุญรัตน์ ประพันธ์วงศ์ ผอ.โรงพยาบาลเจาะไอร้อง เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ซึ่งบุคลากรส่วนใหญ่เป็นชาวนราธิวาสที่ไม่ยอมทิ้งแผ่นดินบ้านเกิดหนีไป

ด้าน นพ.สมหมาย เปิดเผยว่า บุคลากรกระทรวงสาธารณสุข ประเมินและลงความเห็นว่าจะไม่มีการปิด รพ.เจาะไอร้อง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสำหรับคนในพื้นที่ ที่จะต้องดูแลสุขภาพของประชาชน หลังจากมีเหตุการณ์ก็ได้ลงมาดูแลน้องๆ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าทุกคนยังคงอยู่กันได้ และยืนยันว่ายังไม่มีบุคลากรย้ายออกนอกพื้นที่ และวันนี้ คณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทุกคนก็มาทำงานตามปกติ ซึ่งผู้บริหารระดับสูงก็ติดต่อมาหาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย อีกทั้ง เตรียมของบประมาณปรับปรุงรั้วรอบโรงพยาบาลและเสริมรั้วลวดหนาม โดยเฉพาะด้านหลังโรงพยาบาลที่ติดกับป่าที่กลุ่มคนร้ายใช้เป็นทางหลบหนี พร้อมทั้งขอเพิ่มจุดติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ครอบคลุมพื้นที่ ซึ่งเบื้องต้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เห็นชอบตามที่เสนอ

ขณะที่ นางอรวรรณ นามขัน เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว และบริการด้านปฐมภูมิ รพ.เจาะไอร้อง ที่ถูกคนร้ายจับตัวขณะตั้งครรภ์ 6 เดือน เล่าว่า คนร้ายนับ 10 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือวิ่งกรูเข้ามาในอาคาร ซึ่งมี นางอรวรรณ ทำงานอยู่เพียงคนเดียว รู้สึกตกใจมาก และบอกให้หมอบลงกับพื้น ขณะนั้นนึกถึงแต่พ่อกับแม่ พร้อมบอกกับคนร้ายว่ากำลังตั้งครรภ์ คนร้ายจึงได้ใช้เชือกไนลอนมัดมือและไม่ได้ทำอะไร จากนั้นหมอบลงกับพื้นก่อนจะได้ยินเสียงปืนของคนร้ายยิงใส่ฐานรัวไม่หยุด จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ กลุ่มคนร้ายล่าถอยไป จึงแก้เชือกก่อนวิ่งหนีเอาตัวรอด

อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าเหตุ 4 คนร้าย ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.นราธิวาสที่ 31 ขณะ รปภ.สถานีรถไฟเจาะไอร้องนั้น เจ้าหน้าที่พบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณด้านหลังของสถานีรถไฟ ซึ่งสามารถบันทึกภาพของกลุ่มคนร้ายไว้ได้ โดยคนร้ายที่เป็นมือปืนแต่งกายเป็นผู้หญิงคลุมด้วยผ้าฮิญาบ ส่วนมือปืนที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันแรก พิการขาขวาและใช้ขาเทียม ซึ่ง พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่สืบสวนเพื่อติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว.


ไทยรัฐออนไลน์ 14 มี.ค. 2559