ผู้เขียน หัวข้อ: ความผิดปกติที่พระเจ้าไม่ได้สร้าง  (อ่าน 1594 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
ทนทรมานกับอาหารไอเรื้อรังมานาน 20 ปี ตระเวนหาหมอมาแล้วมากหน้าหลายตา และเข้ารับการรักษามาแล้วหลายอาการ

ทนทรมานกับอาหารไอเรื้อรังมานาน 20 ปี ตระเวนหาหมอมาแล้วมากหน้าหลายตา และเข้ารับการรักษามาแล้วหลายอาการ แต่ก็ยังไม่มีใครค้นหาสาเหตุของอาการป่วยเรื้อรังของชายสูงวัยชาวสวิตเซอร์แลนด์วัย 60 ปีรายนี้ได้

 จนกระทั่งเข้ารับตรวจเลือดเพื่อค้นหาโอกาสหรือความเสี่ยงและพบสาเหตุที่ฟังแล้วอึ้ง เพราะตัวการของอาการเจ็บป่วยที่รุมเร้ามาเกือบตลอดชีวิต คืออาหาร

 พลอากาศตรี นายแพทย์ ขวัญชัย เศรษฐนันท์ แพทย์อาวุโสด้านการแพทย์ผสมผสาน สถาบันตรัยยา โรงพยาบาลปิยะเวท อธิบายว่า  ภูมิแพ้อาหารแฝงเป็นภาวะที่ร่างกายสร้างแอนติบอดี้ชนิดแอลจีจี (IgG) ซึ่งอยู่ในระบบเลือดมากกว่าปกติ จากเดิมมีทำหน้าที่จับโปรตีนของอาหารที่กินเข้าไป กลับหันมาทำลายเนื้อเยื่อในร่างกายที่คล้ายโปรตีน

  แพทย์อาวุโสด้านการแพทย์ผสมผสาน เล่าว่า ผู้ป่วยชาวต่างประเทศรายหนึ่งได้เข้ามารักษาอาการไอเรื้อรัง ที่เป็นมานานกว่า 20ปี ผลจากการตรวจพบว่าเขาเป็น   "ภูมิแพ้อาหารแฝง"  ประเภท นม ขนมปัง และพืชตระกูลถั่ว

 แม้ว่าขึ้นตอนการตรวจทางการแพทย์จะไม่สามารถบ่งชี้ได้ชัดเจนว่า   สาเหตุของอาการไอ ของผู้ป่วยรายนี้เกิดจากอะไร  แต่จากข้อมูลแพทย์ผู้รักษาสันนิฐานว่า การระคายเคืองน่าจะจากการทำลายของแอนติบอดี้ IgG บริเวณเนื้อเยื่อทำให้เกิดการอักเสบในหลอดลมเรื้อรัง เมื่อทดลองให้เลิกทานอาหารประเภทขนมปัง พืชตระกูลถั่ว และนม แล้วหันมารับประทานผักสด มันฝรั่งแทนขนมปัง และผลไม้สด  2-3 เดือน  ปรากฎว่าอาการไอเรื้อรัง หายเป็นปริทิ้ง

 “ขึ้นชื่อว่าภูมิแพ้ อย่างไรเสียก็หายไม่ขาด วิธีดังกล่าวเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้สุขภาพร่างกายห่างหายจากอาการเรื้อรังได้อีกทางหนึ่งแต่ระยะยาวต้องขึ้นอยูากับตัวผู้ป่วยในการควบคุมอาหารที่รับประทาน ถ้ารู้ว่าตนเองแพ้อะไร ควรหลีกเลี่ยงและระวังอย่ารับประทานอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งมากจนเกินไป เพราะโรคเรื้อรังที่เป็นอาจกลับมาหรืออาจแพ้อาหารชนิดอื่นเพิ่มได้เช่นกัน”นายแพทย์ ขวัญชัย กล่าว

 แพทย์อาวุโส กล่าวอีกว่า  ผู้ป่วยรายนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของคนไข้ที่ต้องทนทรมานกับโรคโดยไม่ ทราบถึงสาเหตุ และเชื่อว่ายังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องทนกับโรคเรื้อรังในลักษณะคล้ายๆ กัน  อาทิ  กลุ่มของโรคผิวหนัง โรคกระดูกและข้อ อย่างรูมาตอยด์ รวมถึงโรคสมาธิสั้น โรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน โรคไอเรื้อรัง ในโรคลำไส้กลุ่มนี้จะแสดงอาการท้องเสีย ท้องผูกเป็นประจำเมื่อผู้ป่วยทานยา อาการจะทุเลา แต่เมื่อหยุดยาอาการเป็นอีก

 " มีความเป็นไปได้ว่า โรคผิวหนัง โรคปอด โรคไตที่เป็นเรื้อรัง แม้กระทั่งเบาหวาน หรือภูมิทำลายตัวเอง โรคปลายประสาทอักเสบ โรคผิวหนังด่างขาว สะเก็ดเงิน ก็อาจมีความเกี่ยวเนื่องจากการกินอาหารที่ไม่ตรงความต้องการของร่างกายได้เช่นกัน  "

 สำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บ ป่วยเรื้อรัง นายแพทย์ ขวัญชัย แนะนำให้     ผู้ป่วยสำรวจตนเองด้วยการจดบันทึกพฤติกรรมส่วนตัวดูว่า ปกติชอบบริโภคอะไร เป็นประจำจากนั้นลองหยุดบริโภคและหันไปบริโภคอาหารอย่างอื่น หรืออาจบริโภคผักผลไม้ทดแทนสัก 2-3 เดือนหากร่างกายเป็นภูมิแพ้อาหารจริง อาการโรคเรื้อรังที่เป็นอยู่จะทุเลา หรือหายไป แต่หากยังไม่หายควรปรึกษาแพทย์อีกทางหนึ่ง

 “ผลข้างเคียงที่จะเกิดกับความพยายามงดกินในสิ่งที่คาดว่าจะแพ้ ในระยะแรกอาจทำให้เกิดอาการหงุดหงิด อยากอาหารเดิมๆ เกิดขึ้นได้ ซึ่งผู้ปฏิบัติต้องมีความอดทนเพราะสุดท้ายความคุ้มค่าที่ได้จากความพยายาม คือโรคเรื้อรังที่เป็นอยู่จะหายได้ในที่สุดเพราะเมื่ออาการเจ็บป่วยเรื้อรังหายไปแล้ว  ควรเลือกบริโภคอาหารให้หลากหลายไม่ซ้ำซากจำเจจนร่างกายเกิดภูมิแพ้ในอาหารชนิดใหม่ขึ้นมาแทนที่อาหารชนิดเดิม และป้องกันอาการแพ้ที่จะเกิดแบบเรื้อรังตามมาอีก ” แพทย์อาวุโสด้านการแพทย์ผสมผสาน กล่าว

โดย : กานต์ดา บุญเถื่อน
กรุงเทพธุรกิจ
16 เมษายน 2554