สุขสันต์ วันสงกรานต์ ปี พ.ศ. ๒๕๕๔

[pradit]

 แล้วอะไรจะตามมา

[pradit]

สงกรานต์ 3 วันเสียชีวิตแล้ว 116 ราย กทม.มียอดตายสะสมสูงสุด

สงกรานต์ 3 วันมีผู้เสียชีวิตแล้ว 116 รายลดลงจากปีที่แล้ว 50 ราย มีผู้บาดเจ็บรวม 1,760 ราย นครศรีธรรมราชเกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด 78 ครั้งขณะที่เชียงรายมีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด 85 ราย ด้าน กทม.แชมป์ผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดมี 7 ราย สธ.เตือนผู้ใหญ่เล่นน้ำวันละไม่เกิน 4 ชม.เด็กวันละไม่เกิน 1 ชม.และหลีกเลี่ยงน้ำสกปรก
       
       วันนี้ (14 เม.ย.) นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวว่า สรุปสถานการณ์วันที่ 3 (13 เม.ย.) ในการรณรงค์สงกรานต์ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ พบว่า เกิดอุบัติเหตุ 733 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 166 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 29.28 เทียบกับวันเดียวกันของปีที่แล้วลดลง 137 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 15.75 ผู้เสียชีวิต 57 ราย เทียบกับวันที่ 3 ของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 5 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.62 เทียบกับวันเดียวกันของปีที่แล้วลดลง 12 ราย คิดเป็นร้อยละ 17.39 ผู้บาดเจ็บ 784 ราย เทียบกับวันที่ 3 ของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 171 ราย คิดเป็นร้อยละ 27.90 เทียบกับวันเดียวกันของปีที่แล้วลดลง 145 ราย คิดเป็นร้อยละ 15.61
       
       นพ.ไพจิตร์กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ
เมา สุรา ร้อยละ 45.16
ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 32.70

ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ จักรยานยนต์ ร้อยละ 82.72
ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 57.16
บนถนน อบต.และหมู่บ้านร้อยละ 33.15
ทางหลวงแผ่นดินร้อยละ 32.06

ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุคือ 16.01-20.00 น. ร้อยละ 32.88

ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อายุ 20-49 ปี ร้อยละ 55.41

จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช 40 ครั้ง จังหวัดมหาสารคาม 27 ครั้ง
จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ กทม. และจังหวัดขอนแก่น จังหวัดละ 4 ราย
จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช 42 ราย จังหวัดเชียงราย 31 ราย

ทั้งนี้มีการตั้งจุดตรวจ 2,514 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 70,317 นาย เรียกตรวจพาหนะ 75,9774 คัน โดยดำเนินคดี 97,391 ราย ความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 31,683 ราย ไม่มีใบขับขี่ 27,860 ราย
       
       รองปลัด สธ.กล่าวด้วยว่า สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 3 วัน ระหว่างวันระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย.คือ เกิด อุบัติเหตุรวม 1,626 ครั้ง ลดลงจากปีที่แล้ว 368 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 18.46 ผู้เสียชีวิตรวม 116 ราย ลดลงจากปีที่แล้ว 50 ราย คิดเป็นร้อยละ 30.12 ผู้บาดเจ็บรวม 1,760 ราย ลดลงจากปีที่แล้ว 389 ราย คิดเป็นร้อยละ 18.10 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดคือจังหวัดนครศรีธรรมราช 78 ครั้ง รองลงมาจังหวัดเชียงราย 77 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด คือ กทม. 7 ราย จังหวัดเชียงใหม่ 6 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด คือ จังหวัดเชียงราย 85 ราย จังหวัดนครศรีธรรมราช 82 ราย
       
       นพ.ไพจิตร์กล่าวอีกว่า สถิติวันที่ 13 เม.ย. มีสถิติเสียชีวิตสูงกว่าวันที่ 11-12 เม.ย. สาเหตุมาจากการขับขี่รถจักรยานยนต์เล่นน้ำสงกรานต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย และมีอาการเมาสุรารวมทั้งขับรถเร็ว ส่วนใหญ่ผู้ประสบเหตุเป็นผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี คือ ร้อยละ 30 จึงมีการสั่งการให้จังหวัดและตำรวจตั้งจุดตรวจให้เข้มงวด โดยเฉพาะพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ และสั่งการสรรพาสามิตให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้หากเกิดเหตุขึ้นจะมีหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินเข้าไปในพื้นที่ภายใน 10 นาที โดยสามารถโทรศัพท์แจ้งเหตุได้ที่หมายเลข 1669 อย่างไรก็ตาม ขอเตือนว่าผู้ใหญ่ที่เล่นน้ำสงกรานต์ไม่ควรเล่นน้ำเกินวันละ 4 ชั่วโมง เด็กไม่ควรเกินวันละ 1 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงน้ำสกปรกและน้ำแข็ง

[story]

ถังใส่น้ำใบใหญ่ กับความปลอดภัยในวันสงกรานต์

วันหยุดสงกรานต์นี้ ผู้เขียนเชื่อว่ามีหลายครอบครัวเล่นน้ำสงกรานต์กับสมาชิกในบ้าน และเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง ซึ่งเท่าที่มีโอกาสสังเกตในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่งก็รู้สึกขอบคุณเด็ก ๆ วัยรุ่นทุกคนที่สวมเสื้อ - กางเกงมิดชิด ไม่ แต่งตัวล่อแหลมจนอาจนำอันตรายมาสู่ตนเอง
       
       ขอบคุณที่ไม่ทำให้พ่อแม่เป็นห่วงจริง ๆ นะคะ

แต่ในขณะที่การเล่นน้ำดำเนินไปอย่างสนุกสนานนั้น ผู้เขียนเองก็อดห่วงไม่ได้เหมือนกันว่า มันจะเป็นการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ปลอดภัยได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า เพราะยังมีคนจำนวนหนึ่ง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่เล่นกันเองในบ้านไม่มันพอ ก็เลยออกมาเล่นกันริมถนน บางแห่งก็กินพื้นที่จราจรกันไป 1 - 2 เลนเลยทีเดียว
       
       อันตรายที่ผู้เขียนสังเกตมันจะเกิดก็ตรงการ วางถังน้ำใหญ่ ๆ เอาไว้บนถนนน่ะค่ะ เพราะหลังถังใบใหญ่ บางทีมีเด็กตัวเล็กกว่าถังยืนอยู่ บ้างก็ก้มอยู่ ไม่ทันดูรถ ชะโงกออกมาที มีสิทธิ์เฉี่ยวกันได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว
       
       เป็นการเล่นน้ำบนถนนที่ต้องระวังกันทุกฝ่าย ทั้งผู้ขับขี่ ทั้งพ่อแม่ที่มาดูแลลูก และตัวเด็กเอง
       
       ไม่เพียงแค่นั้น ผู้เขียนยังเห็นพฤติกรรมอันตรายของคนเล่นน้ำที่อาจเกิดจากความคึกคะนอง นั่นก็คือการสาดน้ำใส่ผู้ที่ขับมอเตอร์ไซค์สัญจรไปมา
       
       อุบัติเหตุจากความคึกคะนองนี้มันเกิดได้หลาย ทาง ไม่ว่าจะเป็นการที่คนขับมอเตอร์ไซค์หักหลบแล้วแฉลบไปอีกฝั่ง โดนรถที่สวนมาชนหัวร้างข้างแตก หรือหักหลบแต่พื้นลื่น รถล้มบาดเจ็บกันเปล่า ๆ หรือกระจกหมวกกันน็อคเต็มไปด้วยน้ำ ทำให้มองไม่เห็นทาง ชนคนอื่นบาดเจ็บ ฯลฯ
       
       ทางที่ดี ขอให้เขาจอดรถ แล้วค่อยรดน้ำกันตามสมควรดีกว่าน่ะค่ะ
       
       ส่วนรถมอเตอร์ไซค์บางคันที่เขาไม่หยุด ก็จะได้ทราบว่า เขาไม่ต้องการเล่นสงกรานต์ หรือมีธุระปะปังจริง ๆ จะได้ไม่ต้องไปสาดเขาให้เกิดอันตราย - เปียกปอนจนไปทำธุระไม่ได้
       
       ถือเป็นการตอบแทนสังคมอย่างหนึ่ง กับการเล่นน้ำสงกรานต์อย่างมีสำนึก และทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี ใครเห็นก็ชื่นชม ที่สำคัญ ถ้าคนคิดได้เป็นผู้ใหญ่ เด็ก ๆ เห็นก็จะได้ยึดถือเป็นแบบอย่างในการเล่นน้ำที่ถูกต้องในปีต่อ ๆ ไปด้วยน่ะค่ะ
       
       ทิ้งท้ายข้อเดียวที่ผู้เขียนไม่เข้าใจในความมันเอาเสียเลย
       
       ใครก็ได้รบกวนบอกทีว่า สาดน้ำใส่รถเก๋งมันสนุกตรงไหน ขอบอกว่ามันไม่เปียกคนข้างในเลยยยยย แถมยังเปลืองน้ำด้วยนะ อิอิ ^^
       
       ทีมงาน Life & Family
ASTVผู้จัดการออนไลน์    15 เมษายน 2554

[story]

นิด้าเผย! ปชช.เกินครึ่งอยู่บ้านพักผ่อนไม่เที่ยวสงกรานต์ ดื่มเหล้าก็น้อย

เมื่อวันที่ 15 เม.ย.  ผศ.ดร.ณดา จันทร์สม ผู้อำนวยการสำนักวิจัย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน 6,000 คนทั่วประเทศ ในหัวข้อ "คนไทยกับการใช้เวลาพักผ่อนช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์" พบว่า

ร้อยละ 70.98 ใช้จ่ายน้อยกว่า 10,000 บาท
ร้อยละ 29 ใช้จ่ายมากกว่า 10,000 บาท

โดยค่าใช้จ่ายอันดับหนึ่ง จะเป็นค่าอาหารและงานเลี้ยง รองลงมาเป็นค่าเดินทาง มอบเงินให้ผู้มีพระคุณ และการซื้อของฝาก ส่วนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนมากระบุว่าไม่ดื่ม โดยร้อยละ 65 มีทั้งกลุ่มที่ไม่ดื่มและไม่คิดจะดื่มในช่วงนี้ ร้อยละ 26 ระบุว่าจะดื่มเท่าเดิม และร้อยละ 9 จะดื่มเพิ่มขึ้น

ประชาชน
ร้อยละ 64 ขอพักผ่อนอยู่บ้าน
ร้อยละ 25 เดินทางกลับบ้านเกิดที่ต่างจังหวัด
มีเพียงร้อยละ 10 ที่เดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด

ประชาชน
ร้อยละ 40.3 ใช้รถยนต์เป็นพาหนะ
ร้อยละ 24.27 ใช้รถโดยสารสาธารณะ และ
ร้อยละ 12.62 ใช้รถตู้ รถทัวร์

โดยผู้เดินทางร้อยละ 68.82 ไม่กังวลเรื่องอุบัติเหตุ ส่วนผู้ที่กังวล คาดว่าอุบัติเหตุจะเกิดจากการมีรถยนต์จำนวนมากบนท้องถนน เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ และการดื่มสุรา ตามลำดับ

มติชนออนไลน์
15 เมษายน พ.ศ. 2554

[story]

เปิดความหมาย 15 เมษายน "เถลิงศกสงกรานต์" เริ่มต้น"ปีใหม่" จริงๆ เสียที....

เข้าสู่วันสุดท้ายของ "เทศกาลสงกรานต์"แล้ว  หลายคนคง"อิ่ม"ไปกับการทำบุญ ตักบาตร ไหว้พระ สรงน้ำ รดน้ำขอพรผู้หลักผู้ใหญ่กันถ้วนหน้า ขณะที่อีกจำนวนไม่น้อยก็คงชุ่มฉ่ำไปกับการสาดน้ำ ประแป้ง เสียจนชุ่มฉ่ำสำราญสุขตามๆกัน  นอกจากวันที่ 13 เมษายน จะเป็นวันมหาสงกรานต์ หรือวันส่งท้ายปีเก่า  ซึ่งเป็นวันทำความสะอาดใหญ่ ชำระล้างร่างกาย และจิตใจให้ใสสะอาด เริ่มมีการเล่นสาดน้ำเป็นวันแรก  และวันที่ 14 เม.ย. จะเป็น วันกลาง หรือวันเนา  ถัดมาจากวันมหาสงกรานต์ที่การจัดกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้านมากมาย เช่น ขนทรายเข้าวัด ก่อพระเจดีย์ทราย ขบวนแห่ประเพณีสงกรานต์ การแสดงทางวัฒนธรรมและมหรสพอื่นๆ ดังที่ทราบกันอยู่แล้วนั้น  แต่ทราบหรือไม่ว่า วันที่ 15 เมษายน มีความหมายและสำคัญอย่างไร ?

วันที่ 15 เมษายน เรียกว่า "วันพญาวัน" หรือ "วันเถลิงศก" ถือเป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ เป็นวันที่ชาวบ้านจะตื่นแต่เช้าเข้าวัดทำบุญ เลี้ยงพระ ฟังธรรม อุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ และรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ ผู้เฒ่าผู้แก่ ผู้ที่เคารพนับถือ เพื่อเป็นการขอขมาลาโทษและขอพรปีใหม่เพื่อเป็นศิริมง คลต่อชีวิต โดยใช้นํ้าดอกสารภี ดอกคำฝอย ขมิ้น และส้มป่อย ตอนเช้า จัดเตรียมอาหารคาวหวานใส่สำรับไปถวายพระที่วัด และทำบุญตักบาตรและนำไปให้ผู้เฒ่า ผู้แก่ ครูอาจารย์ หรือบุคคลที่ตนเคารพนับถือ เรียกว่าไปทานขันข้าว (ตานขันข้าว) การทานขันข้าวนี้ นอกจากจะทานให้พระ ผู้เฒ่าผู้แก่ที่เคารพนับถือดังกล่าวแล้วก็มีการถวายทานเพื่ออุทิศส่วนกุศล ถึงญาติพี่น้อง บิดามารดาที่ล่วงลับไปแล้ว โดยพระที่วัดจะแยกย้ายกันนั่งประจำที่บริเวณวัดเพื่อให้ศีลให้พร แก่ผู้ไปทานขันข้าว

เมื่อเสร็จจากการทำบุญตักบาตร ก็มีการถวายทานเจดีย์ทราย ปล่อยนกปล่อยปลา มีการสรงน้ำพระพุทธเจดีย์ มีการค้ำต้นโพธิ์ภายในวัดและหมู่บ้าน มีการสรงน้ำพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมือง เช่น เชียงใหม่ก็จะมีการสรงน้ำพระพุทธรูป เสตังคมณี (พระแก้วขาว) วัดเชียงมั่น พระเจ้าทองทิพย์ และ พระพุทธสิหิงค์ วัดพระสิงห์ พระเจ้าเก้าตื้อ วัดสวนดอก เสาอินทขิล หรือเสาหลักเมือง ส่วนตามจังหวัดต่างๆ ก็จะมีการไปสักการะบูชาพระพุทธรูปสำคัญประจำบ้านเมืองตนเช่นเดียวกัน เช่น ลำปาง ก็ไปสรงน้ำพระแก้วมรกตที่วัดพระธาตุลำปางหลวง เมืองน่านที่วัดพระธาตุแช่แห้ง และที่แพร่ก็ไปสรงน้ำ ที่พระธาตุช่อแฮ เป็นต้น ตอนบ่าย ก็จะเริ่มการดำหัว และจะทำเรื่อยไปจนถึงวันรุ่งขึ้น หรือวันปากปี

ความสำคัญ ของ  วันเถลิงศก แปลว่า "วันขึ้นศก"  เป็นวันขึ้นปีใหม่ทางสุริยคติโดยมีการเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ในวันนี้ โดยคำนวณตามพระคัมภีร์สุริยยาตร์ ด้วยหรคุณเถลิงศก. ซึ่งตรงข้ามกับวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติตามปฏิทินไทยที่เปลี่ยนมาใช้วัน ขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 เพื่อให้ระบบเดือนสอดคล้องกับเดือนจิตรามาสอันเป็นเดือนแรกของปฏิทิน จันทรคติทางชมพูทวีป สำหรับวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 นอกจากจะเป็นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติแล้วในวันนี้ถือเป็นวันเปลี่ยนนักษัตร์อีกด้วย (เริ่มใช้มาตั้งแต่รัชกาลที่ 4 ในขณะก่อนหน้านั้นจะไม่แน่นอน บันทึกชาวบ้านทั่วไปจะคุ้นเคยใช้วันเปลี่ยนนักษัตร์ตามแบบเดิมคือวันขึ้น 1 ค่ำเดือนอ้ายจะพบได้มาก)

มติชนออนไลน์
15 เมษายน พ.ศ. 2554

[story]

สธ.แนะสังเกต 8 อาการหลับใน พบอย่าฝืนให้จอดรถงีบหลับทันที 15 นาที

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 16-17 เมษายน คาดว่าประชาชนจะเดินทางกลับเข้าทำงานหลังหยุดยาวฉลองสงกรานต์ติดต่อกันหลาย วัน สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือปัญหาหลับใน ที่่เกิดจากการขาดการพักผ่อนติดต่อกันหลายวัน ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ประชาชนเตรียมตัววางแผนก่อนเดินทางกลับ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำหน้าที่ขับรถ ควรนอนพักผ่อนในเวลากลางคืนให้เพียงพออย่างน้อย 7-9 ชั่วโมง ในกรณีที่ต้องเดินทางไกล และขอให้หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือกินยาที่ออกฤทธิ์ทำให้ง่วงซึมได้

นพ.สุพรรณกล่าวว่า ในระหว่างเดินทางขอให้ผู้ขับขี่และผู้ที่นั่งโดยสารมาด้วย ช่วยกันสังเกตสัญญาณของอาการหลับในของผู้ขับ 8 ประการ

1.หาวบ่อยและต่อเนื่อง
2.ใจลอยไม่มีสมาธิ
3.รู้สึกเหนื่อยล้า หงุดหงิด กระวนกระวาย
4.จำไม่ได้ว่าขับรถผ่านอะไรมาในช่วง 2-3 กิโลเมตรที่ผ่านมา
5.รู้สึกหนักหนังตา ลืมตาไม่ขึ้น ตาปรือ มองเห็นภาพไม่ชัด
6.รู้สึกมึนหนักศีรษะ
7.ขับรถส่ายไปมาหรือออกนอกเส้นทาง และ
8.มองข้ามสัญญาณไฟและป้ายจราจร

หากมีอาการดังกล่าวเพียงข้อใดข้อหนึ่ง ขอให้หยุดขับรถและจอดรถในที่ปลอดภัยเพื่องีบหลับประมาณ 15 นาที ก่อนขับต่อ หรือเปลี่ยนให้ผู้อื่นขับรถแทน อย่าฝืนขับเพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

สำหรับการแก้อาการง่วงนอนขณะขับรถมีหลายวิธี เช่น รับประทานของขบเคี้ยวที่มีรสเปรี้ยวหรือดื่มเครื่องดื่มแช่เย็นที่ช่วยให้สด ชื่นกระปรี้กระเปร่า หรือเปิดหน้าต่างรถ เพื่อถ่ายเทอากาศ ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในรถและให้ลมโชยปะทะหน้า เปิดเพลงฟังดังๆ จังหวะเร็ว และร้องตามไปด้วยก็จะช่วยให้ไม่เกิดอาการง่วงนอนได้ โดยผลของอาการง่วงนอนต่อการขับขี่รถจะทำให้ประสาทสัมผัสทุกอย่างช้าลง สมองตื้อ การตัดสินใจผิดพลาด เมื่อเกิดเหตุการณ์คับขันจะแตะเบรกได้ช้ากว่าปกติ

มติชนออนไลน์
16 เมษายน พ.ศ. 2554

[story]

4วันสงกรานต์ดับ148ศพ เหตุเมาเหล้า-ไม่ใส่กันน็อค

ทำสถิติ : บรรยากาศสงกรานต์ที่ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น แน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มาร่วมกิจกรรมทำคลื่นมนุษย์ไร้แอลกอฮอล์ เพื่อบันทึกสถิติโลก กินเนสบุ๊กเวิลด์ เรคคอร์ด เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2554

เมื่อวันที่ 15เมษายน นายกมล รอดคล้าย รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แถลงว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี2554 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 14 เมษายน2554 ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการรณรงค์สงกรานต์ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย100% เกิดอุบัติเหตุ 515ครั้ง เปรียบเทียบกับวันเดียวกันของปี2553 ลดลง 52ครั้ง หรือร้อยละ9.17 เสียชีวิต 32คน ลดลง 20คน หรือร้อยละ38.46 บาดเจ็บ 556คน ลดลง 57คน หรือร้อยละ9.30

เมา-ไม่ใส่กันน็อคอุบัติเหตุพุ่ง
สาเหตุ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ45.44 พฤติกรรมเสี่ยงของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัยมากที่ สุดร้อยละ35.88 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ80.87 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ 23ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ พิษณุโลก แพร่ สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรีและจ.สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 2คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ 23 คน รองลงมา ได้แก่ จ.แพร่ 22คน ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,505จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 70,337 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 724,768คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี 100,711ราย โดยมีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัยมากที่สุด 31,813ราย รองลงมา คือ ไม่มีใบขับขี่ 29,693ราย

4วันตาย148ศพ-เจ็บ2,316ราย
ทั้งนี้ สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 4วัน ตั้งแต่วันที่ 11-14เมษายน เกิดอุบัติเหตุรวม 2,141 ครั้ง ลดลงจากปี2553 จำนวน 374ครั้ง หรือร้อยละ14.87 ผู้เสียชีวิตรวม 148คน ลดลงจากปี2553 จำนวน 64คน หรือร้อยละ30.19 ผู้บาดเจ็บรวม 2,316คน ลดลงจากปีที่แล้ว 418คน หรือร้อยละ15.29 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช 97ครั้ง รองลงมา จ.เชียงราย 93ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 8คน รองลงมา จ.สุพรรณบุรีและจ. เชียงใหม่ จังหวัดละ 7คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช 103คน รองลงมา คือ จ.เชียงราย 100คน

มท.กำชับคุมเข้มช่วงขากลับ
ด้าน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน สั่งการเน้นย้ำผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ให้คุมเข้มการดำเนินงานตามมาตรการลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ อย่างเคร่งครัด พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ประจำ จุดตรวจให้เตรียมการรองรับการเดินทางกลับของประชาชนช่วงวันที่ 16-17เมษายน โดยปรับแผนการปฏิบัติงานและเฝ้าระวังตามจุดทางร่วม ทางแยก เพื่ออำนวยความสะดวก ด้านการจราจรและสร้างความปลอดภัยในการเดินทางแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน

กทม.สรงน้ำพระพุทธสิหิงค์
สำหรับ บรรยากาศประเพณีสงกรานต์และการเล่นน้ำนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้าลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร มีประชาชนจำนวนมากหลั่งไหลมาสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งอัญเชิญมาจากพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร มาประดิษฐานบริเวณหน้าลานคนเมือง เพื่อให้ประชาชนสักการะบูชาช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งประชาชนที่มาสรงน้ำพระส่วนใหญ่เดินทางมาเป็นครอบครัว ร่วมสรงน้ำพระเพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทย ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ยังจัดกิจกรรมการแสดงนาฏศิลป์ไทย ดนตรีไทย การแสดงศิลปวัฒนธรรม 4ภาค การละเล่นพื้นบ้าน การแสดงอื่นๆอีกด้วย

ถ.ข้าวสารแจ้งความแล้ว34คดี
เจ้า หน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า คดีสะสมช่วงเทศกาลสงกรานต์ ย่านถนนข้าวสาร ตั้งแต่วันที่ 13-15เมษายน มีคดีเกี่ยวกับทรัพย์สิน 28ราย คดีเกี่ยวกับการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 5รายและคดีทำร้ายร่างกาย 1ราย ซึ่งถือว่าน้อยกว่าปีที่ผ่านมามาก

ขอนแก่นทำสถิติ"คลื่นมนุษย์"
ส่วน ที่เทศบาลนครขอนแก่น ได้ร่วมกับโรงแรมโฆษะกรุ๊ป จัดเช่าบอลลูนจากบริษัท เอกชน 4ลูก เพื่อขึ้นถ่ายภาพบรรยากาศเมืองขอนแก่น ก่อนจะเล่นน้ำสงกรานต์วันสุดท้าย ที่ถนนข้าวเหนียว พร้อมกับบันทึกสถิติโลกคลื่นมนุษย์ไร้แอลกอฮอล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อบันทึกภาพประวัติศาสตร์เมืองขอนแก่น การปล่อยบอลลูน 4ลูก นำนักท่องเที่ยวขึ้นชมเมืองขอนแก่นครั้งนี้ มีจุดปล่อยบอลลูนที่สนามแข่งรถติดกับสวนสาธารณะข้างประตูเมืองขอนแก่น แล้วปล่อยบอลลูนล่องเข้าไปในตัวเมืองตามถนนศรีจันทร์ ไปสิ้นสุดที่ถนนเลี่ยงเมืองฝั่งขาออกของ จ.ขอนแก่น

ชาวลพบุรีแห่เที่ยวอ่างซับเหล็ก
บรรยากาศ การเล่นสาดน้ำสงกรานต์ที่ จ.ลพบุรี นักท่องเที่ยวต่างพาครอบครัวหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนกับครอบครัวใน วันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยบริเวณทะเลน้ำจืดกลางเมืองลพบุรี ที่เป็นอ่างเก็บน้ำอายุกว่า 300ปี ที่ขุดขึ้นมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ ที่นำน้ำไปผลิตน้ำปะปาในพระราชวังนารายณ์ อย่างอ่างเก็บน้ำซับเหล็กสปิสเวย์คลับ มีการดัดแปลงมาเป็นทะเลน้ำจืดกลางเมืองลพบุรี ซึ่งบรรยากาศตั้งแต่เช้ามีนักท่องเที่ยวพาครอบครัวมาพักผ่อนหลบร้อนและลง เล่นน้ำกันจำนวนมาก

หนุ่ม24จมน้ำคูเมืองเชียงใหม่ดับ
เวลา 04.00น.วันที่ 15เมษายน พ.ต.ท.ชาญวิทย์ แต้ประจิตร สารวัตรเวร สภ.เมืองเชียงใหม่ รับแจ้งจาก รพ.ลานนา ว่า มีคนจมน้ำในคูเมืองด้านแจ่งศรีภูมิ ถ.มณีนพรัตน์ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แล้วเสียชีวิต จึงรุดไปตรวจสอบพบศพ นายวรวุฒิ ประมวงค์กุล อายุ 24ปี ตามร่างกายไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้าย สอบสวนทราบว่า เวลาประมาณ 19.00น.วันที่ 14เมษายนผ่านมา ผู้ตายพร้อมเพื่อนลงไปเล่นน้ำในคูเมือง แล้วจมายไป เจ้าหน้าที่กู้ภัยลงงมและนำส่ง รพ.ช้างเผือก ก่อนถูกส่งไปรักษาต่อที่ รพ.ลานนา จนเสียชีวิต แพทย์ลงความเห็นว่า ผู้ตายเสียชีวิตเนื่องจากสมองขาดอ๊อกซิเจน ทั้งนี้ การเสียชีวิตโดยการจมน้ำในคูเมืองของนายวรวุฒิ นับเป็นศพที่ 2 ของงานสงกรานต์เชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13เมษายน นายอดิศักดิ์ เปนุจา อายุ 19ปี ได้จมน้ำในคูเมืองย่านประตูสวนดอกเสียชีวิตเป็นรายแรก สาเหตุเพราะเมาสุรา

อุบลฯสงกรานต์เลือดตีกันเละ
ก่อนหน้านี้ เวลา 03.50น.ร.ต.อ.เฉลิมชัย ทีระบุตร รอง สวป.สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งเหตุขว้างระเบิดในงานหมอลำซิ่ง ฉลองบุญประจำปีและสงกรานต์ที่วัดบ้านเค็ง ม.5 ต.กระโสบ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงนำกำลังไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุบริเวณทางออกวัดพบอาสาสมัครควบคุมตัว นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 15ปี ผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ ขณะเดียวกันมีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ 6คน ทั้งหมดมีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่ง รพ.สรรพสิทธิประสงค์
จาก การสอบสวน นายเอ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้โยนระเบิดปิงปองเข้าไปบริเวณงานจริง เพราะเห็นกลุ่มวัยรุ่นหมู่บ้านตน กำลังถูกวัยรุ่นต่างถิ่นรุมทำร้ายและกำลังจะเสียท่า แต่ระเบิดปิงปองพลาดไปโดนกลุ่มชาวบ้านที่นั่งดูหมอลำซิ่ง รู้สึกเสียใจที่มีผู้บาดเจ็บหลายราย โชคดีไม่มีผู้ใดเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ก่อนนำตัวไปดำเนินคดี

พิจิตรเดือด"ยิง-ฟัน"สาหัส1
ที่ จ.พิจิตร เวลา 11.30น.วันที่ 15เมษายน ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ ไทยแก้ว ร้อยเวร สภ.บางมูลนาก รับแจ้งเหตุคนถูกยิงที่ ม.1 ต.เนินมะกอก อ.เมืองพิจิตร จึงไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุพบ นายมลฑล เกียรติหอม ถูกยิงด้วยปืนขนาด.32 เข้าที่ลำตัว 1นัด อาการสาหัส ห่างออกไปยังพบ นายปฎิพันธ์ โพธิ์ชนะ ถูกฟันด้วยของมีคมที่แขนขวา สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายมลฑล และนายปฎิพันธ์ นั่งดื่มสุราและเล่นสาดน้ำสงกรานต์กับญาติพี่น้องลูกหลาน มีกลุ่มของ นายภานุวัตร ไม่ทราบนามสกุล กับพวก ที่เล่นน้ำคนละฝั่งเกิดเขม่นและชกต่อยกัน โดยกลุ่ม นายภานุวัตร ใช้มีดฟัน นายปฎิพันธ์ เข้าที่แขน นายมลฑล เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเข้ามาห้ามปราม แต่ นายภานุวัตรได้ชักปืนยิงใส่ นายมลฑล จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

นิด้าเผย!ปชช.เกินครึ่งอยู่บ้าน
ผศ.ดร.ณดา จันทร์สม ผอ.สำนักวิจัยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน 6,000คนทั่วประเทศ ในหัวข้อ"คนไทยกับการใช้เวลาพักผ่อนช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์" พบว่า ร้อยละ70.98 ใช้จ่ายน้อยกว่า 10,000บาท ร้อยละ29 ใช้จ่ายมากกว่า 10,000บาท ค่าใช้จ่ายอันดับหนึ่งเป็นค่าอาหารและงานเลี้ยง รองลงมาเป็นค่าเดินทาง มอบเงินให้ผู้มีพระคุณและการซื้อของฝาก ส่วนการดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนมากระบุว่าไม่ดื่ม โดยร้อยละ65 มีทั้งกลุ่มที่ไม่ดื่มและไม่คิดจะดื่ม ร้อยละ26 ระบุว่า จะดื่มเท่าเดิม ขณะที่ร้อยละ9 จะดื่มเพิ่มขึ้น ประชาชนร้อยละ64 ขอพักผ่อนอยู่บ้าน ร้อยละ25 กลับบ้านเกิดต่างจังหวัด มีเพียงร้อยละ10 ไปเที่ยวต่างจังหวัด

แนวหน้า
16/4/2011

[story]

สตช.จะเอาผิดโป๊เปลือยเล่นสงกรานต์

โฆษกตำรวจ ระบุหญิงถอดโป๊เปลือยเต้นยั่วกลางสาธารณะมีความผิด มีหลักฐานเรียกตัวมาเอาผิดภายหลังได้ สั่งการตรวจตรารับสงกรานต์พัทยา,พระประแดง

พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ตาม สถานที่ต่าง ๆ โดยกลุ่มวัยรุ่นหญิงประพฤติตัวไม่เหมาะสม เช่น ถอดเสื้อผ้าส่วนบนเต้นยั่วยวนบนท้ายรถยนต์ในหลายแห่ง เช่น อ่างทอง ฉะเชิงเทรา หรือ ย่านสีลม กทม. ซึ่งเสื่อมเสียประเพณีโบราณ แต่ตำรวจไม่เข้าไปจับกุม โดยยอมรับว่ากำลังตำรวจไม่พอ ประกอบกับมีประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์เป็นจำนวนมาก จึงดูแลไม่ทั่วถึง

ขณะเดียวพวกวัยรุ่นเหล่านี้ เมื่อเห็นตำรวจก็จะรีบลงมาปะปนกับประชาชน อย่างไรก็ตามจะนำวีดีโอ หรือภาพวงจรปิดมาตรวจสอบและจะเรียกตัวมาดำเนินการในข้อกระทำการอนาจารในที่ สาธารณะ

พล.ต.ท.ประวุฒิ ยังกล่าวถึงการฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่ พัทยา และพระประแดง ที่กำลังจะเริ่มขึ้น ได้สั่งการให้ บช.ภ.1 และ บช.ภ.2 วางแผนเพิ่มกำลังตรวจตราให้มากขึ้น ซึ่งหากเจอการกระทำลักษณะดังกล่าวก็จะรีบจับกุมมาดำเนินคดีทันที

16 เมษายน 2554
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

[story]

ยอดผู้เสียชีวิตช่วงสงกรานต์ 6 วัน ลดจากปีที่แล้วเกือบ 80 คน

ยอดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงรณรงค์สงกรานต์ปลอดภัยรวม 6 วัน 2,932 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 229 คน ผู้บาดเจ็บรวม 3,172 คน ลดลงจากปีที่แล้ว จ.นครสวรรค์ มีสถิติผู้เสียชีวิตสะสมมากที่สุด 13 คน จากเหตุเมาแล้วขับ ส่วนรถจักรยานยนต์ยังคงเป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด
       
       นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ประธานแถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2554 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2554 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เมษายน 2554 ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์” เกิดอุบัติเหตุ 348 ครั้ง เท่ากับวันเดียวกันของปี 2553 ผู้เสียชีวิต 41 คน เทียบกับวันเดียวกันของปี 2553 (45 คน) ลดลง 4 คน ร้อยละ 8.89 ผู้บาดเจ็บ 386 คน เทียบกับวันเดียวกันของปี 2553 (370 คน) เพิ่มขึ้น 16 คน ร้อยละ 4.32
       
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 31.03
พฤติกรรมเสี่ยงของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัยมากที่สุด ร้อยละ 34.66
ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 78.87
ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 57.18
บนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 36.49
ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน (อายุ 20-49 ปี) ร้อยละ 47.07
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครสวรรค์ 19 ครั้ง
จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครสวรรค์ 6 คน
จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครสวรรค์ 22 คน
       
       
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 6 วัน (วันที่ 11-16 เม.ย. 54)
เกิดอุบัติเหตุรวม 2,932 ครั้ง ลดลงจากปี 2553 (3,218 ครั้ง) 286 ครั้ง ร้อยละ 8.89
ผู้เสียชีวิตรวม 229 คน ลดลงจากปี 2553 (306 คน) 77 คน ร้อยละ 25.16
ผู้บาดเจ็บรวม 3,172 คน ลดลงจากปี 2553 (3,502 คน) 330 คน ร้อยละ 9.42
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 129 ครั้ง รองลงมา เชียงราย นครสวรรค์ จังหวัดละ 107 ครั้ง
จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครสวรรค์ 13 คน รองลงมา กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 11 คน
จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 137 คน รองลงมา เชียงราย 114 คน
       
       นายวิบูลย์กล่าวอีกว่า ในวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนน จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง วันสุดท้ายของการเดินทางมักมีสาเหตุจากการง่วงแล้วขับ จึงขอฝากเตือนผู้ขับขี่ให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน และได้เน้นย้ำ ให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดรถโดยสารสาธารณะที่เดินทางระยะไกลและใกล้ถึงจุดหมาย เป็นพิเศษ เพื่อป้องกันพนักงานขับรถมีอาการอ่อนล้าและอาจเกิดการหลับใน รวมถึงรถตู้โดยสารซึ่งผู้ขับขี่มักใช้ความเร็วสูง ตลอดจนรถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารจำนวนมาก และตอนท้ายไม่มีหลังคาหรือบรรทุกน้ำหนักเกินกำหนด ไม่ให้ใช้ความเร็วสูง เพราะจะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น

ASTVผู้จัดการออนไลน์    17 เมษายน 2554

[story]

ผอ.เขตกร้าว! ดำเนินคดีถึงที่สุด เต้นโชว์เต้าทำสงกรานต์แปดเปื้อน

ผอ.เขตบางรักประกาศกร้าว ดำเนินคดีถึงที่สุด กรณีสาวนิรนามขึ้นวาดลวดลายเต้นโชว์เต้ากลางดึกย่านสีลม ลั่นสุดเสื่อมและถือเป็นกรณีที่ซีเรียส ระบุแจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุด ชี้เสียใจที่คนไม่กี่คนทำความสุขและความดีงามของเทศกาลปีใหม่ไทยแปดเปื้อน เตรียมชง กทม.ขอเป็นเจ้าภาพเองปีหน้า เผยที่ผ่านมาไม่เคยมีเจ้าภาพ แต่คนมักนิยมมาเล่นสงกรานต์สีลม ทำให้ไม่มีกรอบมาตรการการดูแลความเรียบร้อย ชี้โดยส่วนตัวเชื่อสาวโชว์เต้าไม่ใช่มาจากผู้ประกอบการสีลม เพราะมาดึก เข้าพื้นที่ไม่ถึง และเล่นอยู่นอกเขต
       
       วันนี้ (14 เม.ย.) นายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ ผู้อำนวยการเขตบางรัก ซึ่งดูแลพื้นที่แถบสีลมที่ประชาชนนิยมมาเล่นสงกรานต์ เปิดเผยถึงกรณีมีหญิงสาวนิรนามกลุ่มหนึ่ง ยึดพื้นที่แยกนรารมย์ ซึ่งเป็นสี่แยกบริเวณถนนสีลมตัดกับถนนราธิวาส เต้นเปลื้องเสื้อชั้นในโชว์หน้าอกอะร้าอร่ามตอนเวลาประมาณ 23.00 น.ของวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา จนกลายเป็นประเด็นร้อนวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วว่า

 เบื้องต้นได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีถึงที่สุด ในข้อหากระทำอนาจารในที่สาธารณะ ตามมาตรา 388 เรียบร้อยแล้ว และยืนยันว่าจะดำเนินคดีจนถึงที่สุดในทุกคดีที่สามารถดำเนินการได้ รวมไปถึงการเผยแพร่ภาพและคลิปดังกล่าวด้วย
       
       “เรื่องนี้สำหรับผม ผมรู้สึกซีเรียสมาก เสียใจมาก ถ้าวันนี้ผมอยู่ในเหตุการณ์ ผมจะขึ้นไปลากตัวลงมาส่งตำรวจเดี๋ยวนั้นจริงๆ คนไม่กี่คนทำความสุขและความดีงามของเทศกาลสงกรานต์ให้แปดเปื้อน เป็นความเสื่อม เป็นสิ่งที่น่าละอายมาก ทำให้คนเป็นหมื่นเป็นแสนที่มาเล่นฉลองสงกรานต์ด้วยความสุขต้องมาพบเจอสิ่ง ที่น่าละอาย”

 ผอ.เขตบางรักกล่าวต่อไปอีกว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่ากลุ่มหญิงสาวที่ก่อเหตุสุดเสื่อมนี้ ไม่ใช่คนสีลมและไม่ได้มาจากผู้ประกอบการย่านสีลม เพราะแยกนรารมย์ที่ผู้ก่อเหตุยึดเป็นจุดเต้นอนาจารนั้นไม่ได้อยู่ในพื้นที่ การเล่นน้ำสงกรานต์ ทำให้มีน้ำหนักชวนเชื่อได้ว่า เป็นกลุ่มที่มาจากนอกพื้นที่สีลม และมาถึงเมื่อดึกแล้ว ทำให้เข้าไม่ถึงพื้นที่ที่เล่นน้ำกันจริงๆ

 “คือหลายคนเข้าใจว่าเราเป็น คนจัดงาน จริงๆ คือที่สีลมไม่ได้มีการจัดงาน แต่คนนิยมมาเล่น ทางเขตจึงอำนวยความสะดวกให้ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บขยะ การบริการรถสุขา การบริการน้ำ การดูแลความปลอดภัย แต่เมื่อเกิดเหตุอย่างนี้ ผมจึงเตรียมเสนอกทม.ว่าปีหน้าขอให้เราเป็นเจ้าภาพจัดงานจริงๆ คือเราหาเจ้าภาพ เมื่อมีคนจัดงาน เราจะได้วางกรอบได้ว่า เราจะมีมาตรการดูแลความเรียบร้อยอย่างไร ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก” นายสุรเกียรติทิ้งท้าย

ASTVผู้จัดการออนไลน์    17 เมษายน 2554

[story]

สธ.ยิ้มยอดคนตาย-บาดเจ็บ-อุบัติเหตุสงกรานต์ ปี 54 ลดลง

สงกรานต์ปี 54 ยอดอุบัติเหตุและผู้บาดเจ็บที่เข้าพักรักษาใน รพ.ลดลงจากปี 2553 ร้อยละ 9 ส่วนผู้เสียชีวิตลดลงร้อยละ 25 “จุรินทร์” ชี้ต้องรออีก 30 วัน เพื่อจะได้ตัวเลขที่แน่ชัด และนำมาเปรียบเทียบอีกครั้ง ตามปฏิญญามอสโกที่ไทยได้ร่วมลงนามเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
       
       วันนี้ (18 เม.ย.) นายจุรินทร์ ลักษวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ในช่วง 7 วันอันตรายตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2554 ตัวเลขในภาพรวม พบ

อุบัติเหตุลดลงร้อยละ 9 จาก 3,516 ครั้ง ในปี 2553 เหลือ 3,215 ครั้ง

ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บที่เข้าพักรับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ลดลงร้อยละ 9 จาก 3,802 รายในปี 2553 เหลือ 3,476 ราย

สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงร้อยละ 25 จาก 361 ราย ในปี 2553 เหลือ 271 ราย
       
       นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประเทศไทยได้ร่วมลงนามในปฏิญญาสากลว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยในการ ใช้รถใช้ถนน ซึ่งเป็นปฏิญญามอสโก ที่กำหนดว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554-2564 จะเป็นช่วงทศวรรษแห่งความปลอดภัยบนท้องถนนของประเทศสมาชิกตามปฏิญญามอสโก มีรายละเอียดเพิ่มเติม ในเรื่องของ จำนวนผู้เสียชีวิตจะต้องติดตามต่อจนกระทั่งครบ 30 วันหลังช่วงเวลารณรงค์ ดังนั้น หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์จะต้องรอไปอีก 30 วัน ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขได้มีการเก็บสถิติอยู่แล้ว โดยในปี 2553 ช่วงรณรงค์เทศกาลสงกรานต์มีผู้เสียชีวิต 361 ราย แต่หลังจากติดตามอีก 30 วัน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 67 ราย ดังนั้น จึงมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 428 ราย ซึ่งในปีนี้จะต้องรอตัวเลขอีก 30 วัน เพื่อนำมาเปรียบเทียบอีกครั้ง

ASTVผู้จัดการออนไลน์    18 เมษายน 2554

[story]

ภาพอื้อฉาว อันตามมาด้วยเสียงวิพากษ์จารณ์ กร่นด่า แม้สงกรานต์จะผ่านพ้นไปแล้ว ก็คือ กรณีหญิงสาวเปลือยอก ปีนขึ้นไปเต้นบนหลังคารถ โชว์ทีท่ายั่วยวน ปลุกใจเสือป่า ท่ามกลางฝูงชนที่ส่งเสียงเชียร์อยู่โดยรอบ บริเวณถนนสีลม

ขณะนี้ ทราบข่าวว่า เจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่เกี่ยวข้องกำลังตามตัวหญิงสาวกลุ่มนี้กันให้ควั่ก

ผอ.เขตบางรัก ถึงกับขึ้นโรงพัก แจ้งความดำเนินคดีข้อหาทำลามกอนาจาร

ผู้เกี่ยวข้องกับงานวัฒนธรรม ก็เรียงหน้าออกมาวิพากษ์กึ่งประนาม เรียกร้องให้ดำเนินการเอาผิดกับหญิงสาวที่ทำลามกอนาจาร รวมถึงคนที่ส่งเสียงเชียร์ให้เปลื้องผ้า ทั้งเจ้าของรถ ทั้งคนจัดงาน ในฐานร่วมกันสนับสนุนให้กระทำอนาจารด้วย

ทั้งหมดนี้ เป็นการใช้มาตรการกฎหมาย จัดการกับการแสดงออกทางร่างกาย

เป็นเรื่องเข้าใจได้ ว่าต้องดำเนินการเอาผิด ลงโทษตามกฎหมาย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

แต่ที่ยังมองไม่เห็น และไม่ค่อยเข้าใจนัก คือ สภาพจิตภายในของคนที่กระทำลามกอนาจารในที่สาธารณะเหล่านี้ เพราะภาพที่เห็นนั้น พวกเธอยังคงมีสติสัมปะชัญญะ มีการแสดงความเขินอาย คิดไตร่ตรอง ก่อนตัดสินใจขึ้นไปเต้นและถอดโชว์เรือนร่างตามเสียงเชียร์

คนแบบนี้ สภาพจิตข้างในมีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ และจะเยียวยา บำบัด หรือป้องกันมิให้ระบาดออกไปมากกว่านี้อย่างไร

หลังเกิดเรื่องไม่นาน มีกัลยาณมิตรทางเฟซบุ๊คส่งข้อเขียนที่น่าสนใจอย่างยิ่งมาให้อ่าน เป็นบทความเก่า ตั้งแต่ปี 2549 ชื่อ “Sex โชว์... ไง่หรือสร้างสรรค์” เขียนโดย นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ชื่อดัง

แม้ข้อเขียนนั้น คุณหมอกัมปนาทจะเน้นไปที่พฤติกรรมของคนที่ชอบมีเพศสัมพันธ์โชว์ แต่คำอธิบายที่เกี่ยวข้อง ก็สามารถนำมาวิเคราะห์หรือทำความเข้าใจกับพฤติกรรมเรื่องการโชว์เรือนร่าง และการยั่วยวนทางเพศในระดับอื่นๆ ได้อย่างดีด้วยเช่นกัน

วันนี้ ขออนุญาตเก็บความบางส่วนบางตอนมานำเสนอ เพื่อตอบคำถามที่ว่า คนที่ชอบโชว์ ชอบแสดงการลามกอนาจารให้คนอื่นได้ดูชมอย่างนี้ เป็นคนที่มีอาการเจ็บป่วยทางจิตหรือไม่ อย่างไร?

1) Sex เรื่องที่ควรเปิดเผยหรือปกปิด

ความแตกต่างระหว่างคนกับสัตว์ คือ การรู้จักควบคุมพฤติกรรมตนเอง และ “การมียางอาย”

เราพบว่า เพศที่มีการเปิดเผยร่างกายส่วนที่ควรปกปิดนั้นเป็นเพศหญิงเสียส่วนใหญ่ เพราะขายดิบขายดี และมักจะตามมาด้วยเหตุผลข้างๆคูๆว่าต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึกบ้าง เอาไว้ดูให้ภาคภูมิใจบ้างว่าครั้งหนึ่งในชีวิตเรามีสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ เหลือเกิน (เพราะสามารถทำให้คนน้ำลายหกได้ โดยไม่ต้องเอาอาหารมายั่ว) สะท้อนว่าความภาคภูมิใจของคนเหล่านี้อยู่ที่รูปลักษณ์เพียงอย่างเดียว ในขณะที่ความเป็นคนไทยที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม โดยเฉพาะเรื่องการระมัดระวังเรื่องทางเพศนั้น คนไทยเราค่อนข้างเข้มงวดและให้ความสำคัญ แต่ว่าปัจจุบันนี้ น้อยคนนักที่จะนึกถึงความดีงามที่มีในอดีต จึงไม่ยอมสืบทอดสิ่งเหล่านั้นมา

2) Sex ความสามารถและความภูมิใจที่น่าจดจำกระนั้นหรือ

ถ้ามองในมุมของผู้ใหญ่ที่พยายามรักษาสิ่งดีงามจากในอดีตที่สืบทอดกันมา ก็คงบอกว่าเป็นเรื่องน่าละอายอย่างมาก จนบางคนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี เพราะว่าของที่เรียกว่าลับที่สุดมันกลายมาเป็นของที่เปิดเผยที่สุด บางคนหน้าไม่เคยออกสื่อเลย พอมีโอกาสได้ออกสื่อ ก็เอาอวัยวะส่วนอื่นนำไปก่อนเสียแล้ว จนต้องเรียกว่า “ขายหน้า” แต่ขอโทษ คนจำนวนมากกลับมองว่าเป็นความภาคภูมิใจ แถมอ้างสิทธิอันชอบธรรม (หรือชอบทำกันแน่) ที่จะนำเสนอสิ่งที่น่าละอายเหล่านี้ออกสู่สาธารณชน

ถ้าเราลองวิเคราะห์คนประเภทนี้ดู จะเห็นว่า การที่รู้สึกภาคภูมิใจในการโชว์เนื้อหนังมังสานั้น ก็เกิดจากการที่ไม่มีอย่างอื่นให้ภาคภูมิใจในชีวิต แต่เผอิญว่าเกิดมาหน้าตาดี รูปร่างดี บางคนก็คิดเลยเถิดไปว่าอวัยวะส่วนที่เกี่ยวข้องกับ sex นั้นก็น่าภูมิใจ จะเก็บไว้คนเดียวคงไม่ไหว อกจะแตกตาย ก็เลยเอามาแบ่งปันให้คนอื่นได้ชื่นชม และก็น่าแปลก เวลาที่คนพวกนี้มีโอกาสทำความดีให้ตนเอง สังคม ครอบครัว ก็ไม่เห็นเอามาโม้มาโชว์กัน เพราะสมองส่วนที่รับรู้ ไม่รู้จักคุณค่าของการทำสิ่งดีๆ และถูกต้อง เนื่องจากได้เรียนรู้จากค่านิยมผิดๆ ในสังคมที่นับวันจะเสื่อมลง และที่สำคัญ นั่นสะท้อนว่าครอบครัวก็ไม่ได้ปลูกฝังเรื่องการทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อให้ เกิดความภาคภูมิใจอย่างแท้จริงให้กับเด็ก และเยาวชนที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่เหล่านั้นเลย

3) ทำไมถึงอยากโชว์?

1.ขาดสติยั้งคิด เป็นคนที่มีปัญหาบุคลิกภาพ พูดง่ายๆว่า เป็นนิสัยเฉพาะบุคคล ชอบให้คนมาสนใจ หรือต้องเอาอกเอาใจใครเป็นพิเศษก็จะยอมทำอย่างเต็มที่โดยไม่คิดถึงผลเสียที่ จะตามมา ซึ่งดูเหมือนจะเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง แต่ในความเป็นจริงคนประเภทนี้เป็นคนซึ่งขาดความมั่นใจในตัวเองอย่างมาก จึงต้องหาอะไรก็ได้ทำเพื่อเสริมความมั่นใจให้กับตนเอง รวมถึงการยอมที่จะทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้มีใครสักคนหนึ่งยอมรับหรือ ชื่นชมในสิ่งที่ตนเองทำก็เพียงพอแล้ว แม้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นจะไม่ใช่สิ่งที่ดีงามนัก

2.มีความเจ็บป่วยทางจิตเวช เช่น โรคจิต (ชนิดจิตเภทหรือโรคจิตอารมณ์แปรปรวน เป็นต้น) ที่ขาดสติยั้งคิดหรือการควบคุมตนเอง ดังที่เห็นเดินแก้ผ้าตามท้องถนน คนเหล่านี้มักจะไม่มีการวางแผนชัดเจน คือไม่เลือกสถานที่ อยากทำก็ทำเลย ซึ่งมักจะถูกล้อเลียนไปในทางตลกมากกว่าจะกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ

อีกกลุ่ม แม้จะไม่ได้ป่วยเป็นโรคจิต แต่ก็ถือว่าเป็นความเจ็บป่วยทางจิตเวช คือ กลุ่มที่เป็นพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ซึ่งในที่นี้หมายถึงพวกที่เป็นโรคชอบโชว์อวัยวะเพศ (Exhibitionism) ซึ่งผู้ป่วยประเภทนี้จะมีความทุกข์ทรมานมากในการควบคุมตนเอง เนื่องจากเวลาที่มีความต้องการนั้นมักจะคุมตนเองไม่ได้ จำเป็นต้องปลดปล่อยโดยการเปิดโชว์ให้เหยื่อตกใจ และเจ้าตัวจะมีความสุขเหมือนได้มีกิจกรรมทางเพศแล้ว

กลุ่มนี้ จำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษาทางจิตเวชด้วย เนื่องจากแม้จะไม่ถึงขั้นไปข่มขืนใครแต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำอนาจารได้ เหมือนกัน แต่การรักษาที่เหมาะสมมิใช่การจับขังคุก หาแต่ต้องการการบำบัดรักษาทางด้านจิตใจจากบุคลากรทางด้านสุขภาพจิต น่าจะเหมาะสมกว่า

3.อยู่ภายใต้การเมาสารเสพติด

และ 4.ถูกหลอกให้ทำ

สุดท้าย... ไม่ว่ากรณีที่เกิดขึ้นจะเข้าข่ายลักษณะใด การแก้ปัญหาก็ควรจะคิดดำเนินการให้ครอบคลุมในมิติอื่นๆ นอกเหนือจากการเอาคิดทางกฎหมายด้วย

สารส้ม
แนวหน้า
19/4/2011

[today]

เสียดายไม่ได้ดู clip

[story]

ศูนย์ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี สรุปอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2554

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 2 สุพรรณบุรี สรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2554 ของ 4 จังหวัดในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นรวม 285 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 23 ราย และผู้บาดเจ็บ 298 ราย ลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือ รถจักรยานยนต์ โดยมีสาเหตุจากมอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย และการเมาสุราแล้วขับ ทั้งนี้ศูนย์ ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี จักได้นำข้อมูลที่รวบรวมไว้มาวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงแผนงานและมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ความ รับผิดชอบ

นายสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 2 สุพรรณบุรี เปิดเผยถึง การดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2554 ในพื้นที่จังหวัดความรับผิดชอบว่า ได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนบูรณาการ ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยในการเดินทางให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน โดยจังหวัดในพื้นที่ความรับผิดชอบของศูนย์ ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงระหว่างวันที่ 11 — 17 เมษายน 2554 ดังนี้ เกิดอุบัติเหตุทางถนนรวม 285 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 23 ราย ลดลงจากปี 2553 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 27 ราย จำนวน 4 ราย คิดเป็นร้อยละ 14.81 ผู้บาดเจ็บ 298 ราย ลดลงจากปี 2553 ซึ่งมีผู้บาดเจ็บ 304 ราย จำนวน 6 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.97

โดยจังหวัดสุพรรณบุรี เกิดอุบัติเหตุสูงสุด จำนวน 100 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 7 ราย ผู้บาดเจ็บ 109 ราย

รองลงมา ได้แก่ จังหวัดราชบุรี เกิดอุบัติเหตุ 69 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 4 ราย ผู้บาดเจ็บ 74 ราย

จังหวัดนครปฐม เกิดอุบัติเหตุ 68 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 7 ราย ผู้บาดเจ็บ 66 ราย และ

จังหวัดกาญจนบุรี เกิดอุบัติเหตุ 48 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 5 ราย ผู้บาดเจ็บ 49 ราย

อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบนถนนในหมู่บ้าน และถนนสายหลัก ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด คือ มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย ซึ่งศูนย์ ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี จักได้นำข้อมูลที่รวบรวมไว้มาวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงวางแผนการกำหนดมาตรการและแผนงานป้องกันและแก้ไขปัญหา อุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาในพื้นที่ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนน และลดจำนวนผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนทั้งในช่วงเทศกาลสำคัญและระยะยาวอย่างต่อ เนื่อง

ข่าวทั่วไป ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 22 เมษายน 2554