ผู้เขียน หัวข้อ: ดีเอสไอแถลงรพ.'สรรพสิทธิประสงค์'ส่อทุจริตยากว่า120ล้าน  (อ่าน 1321 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
รองอธิบดีดีเอสไอ เผยผลสอบคดีทุจริตยา ระบุโรงพยาบาล"สรรพสิทธิประสงค์"จ่ายยาเกินจริงกว่า120ล้าน ส่วนรพ."เรณูนคร-เขตอุดมศักดิ์"เข้าข่ายเดียวกัน

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)-นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีดีเอสไอ แถลงผลการตรวจสอบเบิกจ่ายยาที่ผิดไปจากความเป็นจริงในโรงพยาบาลรัฐ ว่า จากการสุ่มตรวจสอบในโรงพยาบาล 3 แห่ง ที่มีความผิดปกติในการเบิกจ่ายยากับกรมบัญชีกลาง คือ รพ.เขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร รพ.เรณูนคร จ.สกลนคร และรพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งในส่วนของรพ.เขตอุดมศักดิ์ เกิดความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูล ทำให้ข้อมูลของกรมบัญชีกลางไม่ตรงกับโรงพยาบาล จึงไม่ใช่การทุจริตแต่เป็นเพียงความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูล

ส่วนรพ.เรณูนครและสรรพสิทธิประสงค์ พบกรณีที่คล้ายคลึงกันคือมีการรับยาแทนผู้ป่วย โดยโรงพยาบาลไม่มีระบบตรวจสอบอย่างรัดกุม บางกรณีเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมาเซ็นชื่อรับยาแทนคนไข้ แต่คนไข้ไม่ได้รับยาจริง บางรายแพทย์มอบหมายให้พยาบาลเป็นผู้สั่งจ่ายยาให้คนไข้ได้ ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวไม่เป็นไปตามระเบียบของกรมบัญชีกลาง ทำให้เกิดช่องว่างที่ส่อทุจริต

นายสรรเสริญ กล่าวต่อว่า ตามปกติระบบจากตรงของกรมบัญชีกลาง ผู้ป่วยจะต้องลงทะเบียนล่วงหน้า รวมถึงสแกนลายนิ้วมือและลงลายมือชื่อไว้กับรพ. และหากญาติจะรับยาแทนก็ต้องปฏิบัติในลักษณะเดียวกันคือต้องลงชื่อรับรองการ รับยา ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าแต่ละรพ.ไม่ปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ดังนั้น ดีเอสไอจะ ทำหนังสือแจ้งไปยังกรมบัญชีกลางและกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้มีหนังสือสั่ง การให้รพ.ปฏิบัติตามระเบียบการจ่ายยาอย่างเคร่งครัด สำหรับยาที่พบว่ามีการเบิกแทนกันมากที่สุดคือยารักษาโรคเรื้อรัง เช่น ยารักษาโรคเบาหวาน ยาไขมันอุดตันในเส้นเลือด ยารักษาความดันโลหิต

"ดีเอสไอพบ ว่า เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลในทุกระดับเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายยาให้คน ไข้เกินความเป็นจริงแต่ขณะนี้ผลการสอบยังไม่ถึงระดับผู้อำนวยการโรงพยาบาล ส่วนมูลค่าความเสียหายโดยรวมเบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินได้ นอกจากนี้ยังพบว่าบุคลากรโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้มีการสั่งซื้อยานอก บัญชียาหลักจำนวนมาก เช่น สั่งซื้อยา ROSUVASTATIN (Cress หรือยาลดไขมัน) ยอดสั่งซื้อรวม 72,896,681 ล้านบาท หรือ สั่งซื้อยา ESOMEPRAZOLE (NEXIUM หรือยาลดการหลั่งกรด) ยอดสั่งซื้อรวม 51,028,750 ล้านบาท ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษจะสืบสวนขยายผลต่อไป" รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าว

นายสรรเสริญ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้การตรวจสอบจะมีลักษณะเป็นคู่ขนาน โดยดีเอสไอและ ป.ป.ท.จะสุ่มการตรวจสอบรพ.ทุกภาคทั่วประเทศ รวมถึงรพ.ที่มีระบบการจ่ายตรงที่ไม่ขึ้นกับกระทรวงสาธารณสุขตลอดจนโรงพยาบาล เอกชน สถานพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ ขณะที่กรมบัญชีกลางจะตรวจสอบการเบิกจ่ายยาตามเวชระเบียบของโรงพยาบาล ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ช่องว่างดังกล่าวส่งผลกระทบต่อระบบการจ่ายตรงและสุขภาพ ของผู้ป่วยเอง

ผอ.รพ.สรรพสิทธิประสงค์อุบลฯพร้อมชี้แจงดีเอสไอ

ด้านนายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีดีเอสไอได้ แถลงผลสอบคดีทุจริตยา ระบุโรงพยาบาล"สรรพสิทธิประสงค์จังหวัดอุบลราชธานีจ่ายยาเกินจริงกว่า 120 ล้าน มีการรับยาแทนผู้ป่วย โดยโรงพยาบาลไม่มีระบบตรวจสอบอย่างรัดกุม บางกรณีเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมาเซ็นต์ชื่อรับยาแทนคนไข้ แต่คนไข้ไม่ได้รับยาจริง บางรายแพทย์มอบหมายให้พยาบาลเป็นผู้สั่งจ่ายยาให้คนไข้ได้ ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวไม่เป็นไปตามระเบียบของกรมบัญชีกลาง ทำให้เกิดช่องว่างที่ส่อทุจริต

นอกจากนี้ ยังพบว่าบุคลากรโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้มีการสั่งซื้อยานอกบัญชียาหลัก จำนวนมาก เช่น สั่งซื้อยา ROSUVASTATIN (Crester หรือยาลดไขมัน) ยอดสั่งซื้อรวม 72,896,681 ล้านบาท หรือ สั่งซื้อยา ESOMEPRAZOLE (NEXIUM หรือยาลดการหลั่งกรด) ยอดสั่งซื้อรวม 51,028,750 ล้านบาท ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษจะสืบสวนขยายผลต่อไปนั้น

ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อสัมภาษณ์ขอทราบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว โดยน.ส.นุชนารถ เจียรวงศ์ตระกูล รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี แจ้งว่าผู้ที่จะให้สัมภาษณ์และตอบคำถามในเรื่องดังกล่าวนั้นจะต้องเป็นผู้ อำนวยการซึ่งขณะนี้ นายแพทย์มนัส กนกศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ซึ่งขณะนี้เดินทางไปต่างประเทศที่ประเทศเยอรมันนี กำหนดจะเดินทางกลับในวันที่ 11 เมษายน นี้ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ประสานโทรศัพท์แจ้งให้ผอ.ทราบเป็นเบื้องต้นแล้ว โดยทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้รับทราบและยินดีจะทำการชี้แจงในทุกเรื่องที่ทางดีเอสไอมาตรวจสอบ หลังจากที่เดินทางกลับมา

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 8 เมษายน 2554
..............................................................