ประณามสหรัฐถล่มโรงพยาบาลคร่าหลายชีวิต

[story]

บีบีซีและเอเอฟพีรายงานว่า เกิดความสูญเสียต่อบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากในสมรภูมิอัฟกานิสถาน เมื่อกองทัพสหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดโดนโรงพยาบาลขององค์กรแพทย์ ไร้พรมแดน หรือแอมแอสแอฟ ในช่วงเวลา 02.10 น. วันที่ 3 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย และมีเหยื่อรายอื่นๆ ในสถานพยาบาล 37 คนบาดเจ็บสาหัส ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่แพทย์ 19 คน และยังมีผู้สูญหายราว 30 คน

นายบาร์ต แจนส์เซนส์ หัวหน้าทีมปฏิบัติการของแอมแอสแอฟ แถลงว่า ทีมงานตกตะลึงอย่างที่สุดกับการโจมตีดังกล่าว ซึ่งในช่วงเกิดเหตุทางศูนย์เร่งแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่รัฐบาลอัฟกานิสถานและรัฐบาลสหรัฐแล้ว แต่กลับยังถูกถล่มอย่างต่อเนื่อง 30 นาทีหลังจากนั้น นับเป็นความสูญเสียใหญ่หลวงต่อการสาธารณสุขในคุนดุซ

เมืองคุนดุซกลายเป็นพื้นที่สู้รบดุเดือดระหว่างกองกำลังนานาชาติกับกลุ่มตาลิบันอีกครั้ง นับจากตาลิบันบุกเข้ายึดเมืองได้ในสัปดาห์ก่อน จากเหตุครั้งนี้ กระทรวงกลาโหมอัฟกานิสถานแถลงแสดงความเสียใจ แต่ระบุว่า กลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธทั้งเบาและหนักใช้ศูนย์รักษาดังกล่าวเป็นฐานที่มั่นโจมตีใส่พลเรือนและทหารอัฟกัน

ผลของการโจมตีทางอากาศที่ทำให้พลเรือนเสียชีวิตครั้งนี้กระทบต่อสถานะของกองทัพสหรัฐอีกครั้ง ทั้งยังอยู่ในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐพยายามตำหนิรัฐบาลรัสเซียที่ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ เพิ่งกล่าวโจมตีปฏิบัติการของรัสเซียในซีเรีย ว่าเป็นสูตรของความหายนะ เพราะไม่จำแนกความแตกต่างของกลุ่มไอเอสกับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลซีเรียซึ่งเป็นมุสลิมสุหนี่สายกลางที่ต้องการให้ผู้นำซีเรียพ้นจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม สหรัฐจะไม่ทำให้ซีเรียเป็นสงครามตัวแทนระหว่างสหรัฐกับรัสเซียอย่างแน่นอน

4 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9076 ข่าวสดรายวัน
................................................................

สหรัฐฯ อ้อยอิ่งยอมรับครั้งแรก อนุมัติทิ้งบอมบ์ถล่ม รพ.อัฟกันคร่าผู้บริสุทธิ์ 22 ศพ

รอยเตอร์ - ผู้บัญชาการสหรัฐฯ ของกองกำลังนานาชาติในอัฟกานิสถานเมื่อวันอังคาร (6 ต.ค.) กลับลำยอมรับตรงๆครั้งแรกว่าการโจมตีทางอากาศถล่มโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองคุนดุซ ของอัฟกานิสถาน เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นภายในสายบังคับบัญชาของอเมริกา หลังก่อนหน้านี้อ้างว่าลงมือตามคำร้องขอของกองทัพอัฟกันเท่านั้น
       
       เหตุโจมตีโรงพยาบาลของกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) เมื่อวันเสาร์ (3 ต.ค.) ที่ผ่านมา ได้คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ 22 ศพและก่อความโกรธเคืองอย่างสาหัสจากกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) ที่กล่าวโทษสหรัฐฯ พร้อมเรียกร้องขอให้มีการสืบสวนอิสระต่อเหตุการณ์ดังกล่าวและประณามว่ามันคืออาชญากรรมสงคราม
       
       พล.อ.จอห์น เอฟ แคมป์เบลล์ แห่งกองทัพสหรัฐฯ ย้ำว่ากองกำลังสหรัฐฯตอบสนองต่อคำร้องขอจากกองกำลังอัฟกานิสถานและจัดมอบการสนับสนุนทางอากาศอย่างใกล้ชิด ในขณะที่กองทัพอัฟกันกำลังสู้รบกับนักรบตอลิบานในคุนดุซ เมืองเอกของจังหวัดคุนดุซ แต่ยอมรับว่ามันเป็นความผิดพลาด
       
       “ขอพูดให้ชัด การโจมตีทางอากาศเป็นการตัดสินใจของสหรัฐฯ ภายใต้สายบังคับบัญชาของอเมริกา” แคมป์เบลล์ ให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการกิจการทหารของวุฒิสภา “โรงพยาบาลคือการโจมตีที่ผิดพลาด เราไม่เคยมีเจตนาโจมตีศูนย์การแพทย์ที่ได้รับการคุ้มครองเลย”
       
       ความเห็นของแคมป์เบลล์ในวันอังคาร (6 ต.ค.) ถือเป็นการยอมรับอย่างตรงๆครั้งแรกของรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าการโจมตีทางอากาศถล่มโรงพยาบาลนั้น ดำเนินการโดยกองกำลังอเมริกา หลังจากในถ้อยแถลงเมื่อวันจันทร์ (5 ต.ค.) นายแคมป์เบลล์ บอกเพียงว่ากองทัพวอชิงตันตอบสนองต่อคำร้องขอกำลังสนับสนุนทางอากาศจากกองกำลังอัฟกานิสถาน
       
       แคมป์เบลล์เผยในวันอังคาร (6 ต.ค.) ว่าเขาได้สั่งการให้กองกำลังภายใต้บังคับบัญชาของเขาดำเนินการฝึกอบรมในเชิงลึกเพื่อทบทวนแผนปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่และกฎการใช้กำลังต่างๆเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับในคุนดุซ
       
       เหตุการณ์ดังกล่าวประกอบกับการบุกยึดเมืองคุนดุซของตอลิบานเมื่อเดือนที่แล้ว ได้ดึงดูดความสนใจรอบใหม่ต่อภารกิจอันยาวนานกว่า 14 ปีของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน โดยสมาชิกสภาคองเกรสหลายคนแสดงความกังวลต่อแผนถอนกองกำลังสหรัฐฯ อย่างสมบูรณ์ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขณะที่ โอบามา เองก็กำลังทบทวนกรอบเวลาค่อยๆ ลดกำลังพล ซึ่งปัจจุบันวางกรอบการถอนทหารออกไปทั้งหมดในช่วงสิ้นปี 2016 จากนั้นก็จะคงไว้เพียงกองกำลังเล็กๆ
       
       “ก่อนหน้านี้โลกเคยเดินหนีอัฟกานิสถานมาแล้วหนหนึ่ง และมันก็ดำดิ่งสู่ความยุ่งเหยิง ซึ่งความโกลาหลนี้เป็นตัวสนับสนุนการโจมตีก่อการร้ายเลวร้ายภายในมาตุภูมิของเรา” วุฒิสมาชิกจอห์น แม็กเคน ประธานคณะกรรมาธิการจากรีพับลิกันกล่าว อ้างถึงโศกนาฏกรรม 11 กันยายน 20111 การโจมตีที่วางแผนโดยนักรบอัลดออิดะห์ ซึ่งหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวในอัฟกานิสถาน ที่ตอนนั้นปกครองโดยตอลิบาน “เรามิอาจก่อความผิดพลาดซ้ำรอยอีก”


ASTVผู้จัดการออนไลน์    7 ตุลาคม 2558

[story]

  เอเอฟพี - “โอบามา” ให้คำมั่นสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบ กรณีอเมริกาทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลในคุนดูซ ทางเหนือของอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 19 ราย ขณะที่ยูเอ็นระบุว่า อาจเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม ด้านแพทย์ไร้พรมแดนโต้คาบูล ไม่มีกลุ่มก่อการร้ายใช้โรงพยาบาลดังกล่าวเป็นที่มั่นในการต่อสู้
       
       กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) แถลงว่า ผู้ป่วยหลายคนถูกเผาทั้งเป็นอยู่บนเตียงระหว่างการโจมตีที่ต่อเนื่องนานกว่าหนึ่งชั่วโมงในช่วงเช้ามืดวันเสาร์ (3) แม้แจ้งไปยังวอชิงตันและคาบูลแล้วว่า โรงพยาบาลถูกโจมตี
       
       “เจ้าหน้าที่ 12 คนและคนไข้อย่างน้อย 7 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 3 คน เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บ 37 คน การโจมตีครั้งนี้น่าขยะแขยงและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศขั้นรุนแรง” MSF ระบุ
       
       การโจมตีทางอากาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากนักรบตอลิบานเข้ายึดเมืองคุนดุซ ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางยุทธศาสตร์ทางเหนือของอัฟกานิสถานเมื่อหลายวันก่อน ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดนับจากที่กลุ่มก่อการร้ายนี้ถูกกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยอเมริกาโค่นล้มเมื่อปี 2001
       
       กองกำลังอัฟกัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนาโต อ้างว่า สามารถยึดคุนดูซคืนได้แล้ว ทว่า กระทรวงกลาโหมในคาบูลระบุว่า ยังมีกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธใช้โรงพยาบาลของ MSF ในเมืองดังกล่าวเป็นที่มั่นในการโจมตีกองกำลังและพลเรือนอัฟกัน
       
       ทว่า MSF ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของทางการอัฟกานิสถาน ทั้งยังบอกว่า ได้ติดต่อเพื่อแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ทหารทั้งในคาบูลและวอชิงตัน แต่อาคารหลักที่เป็นที่ตั้งห้องฉุกเฉินและหออภิบาลผู้ป่วยวิกฤตยังถูกถล่ม “ซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างแม่นยำมาก” เกือบทุก 15 นาทีนานกว่า 1 ชั่วโมง
       
       ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของอเมริกา ได้แสดงความเสียใจสุดซึ้งต่อ “เหตุการณ์ที่เศร้าสลด” ครั้งนี้ และว่า กระทรวงต่างประเทศได้เปิดการสอบสวนเต็มรูปแบบ ซึ่งอเมริกาจะรอผลการสอบสวนดังกล่าวก่อนตัดสินขั้นเด็ดขาดเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้
       
       อนึ่ง ก่อนหน้านั้นนาโตยอมรับว่ากองกำลังอเมริกันอาจอยู่เบื้องหลังการทิ้งระเบิดดังกล่าว หลังเปิดโจมตีเป้าหมายที่เชื่อว่าเป็นผู้ก่อการร้าย
       
       “การโจมตีดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายใกล้เคียงกับหน่วยการแพทย์ที่อยู่ใกล้เคียง และกำลังมีการสอบสวนสิ่งที่เกิดขึ้น” นาโตแถลง
       
       โศกนาฏกรรมนี้รื้อฟื้นความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศของอเมริกาในอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาที่หยั่งรากลึกยาวนานตลอด 14 ปีของปฏิบัติการขับไล่ตอลิบาน

“โอบามา” ย้ำจะสอบกรณีบอมบ์โรงพยาบาลอัฟกัน ยูเอ็นชี้เข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม
        เซอิด ราอัดอัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้มีการตรวจสอบเหตุการณ์นี้อย่างเต็มที่และโปร่งใส พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การโจมตีโรงพยาบาลถือเป็นเรื่องที่อภัยให้ไม่ได้และอาจเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม
       
       นอกจากนี้ MSF ยังให้รายละเอียดว่า ขณะถูกโจมตีมีคนไข้และผู้ดูแลราว 105 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและต่างชาติของ MSF อีกกว่า 80 คนอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวที่สามารถรองรับผู้บาดเจ็บจำนวนมากได้
       
       MSF ยังยืนยันว่า กองกำลังอัฟกันและพันธมิตรรู้ตำแหน่งที่แม่นยำของโรงพยาบาล เนื่องจากเคยได้รับแจ้งพิกัดตำแหน่ง GPS ของโรงพยาบาลซึ่งเปิดดำเนินการมานานถึง 4 ปี
       
       MSF สำทับว่า โรงพยาบาลที่ถูกถล่มเป็นสถานพยาบาลสำคัญในพื้นที่ตอนเหนือของอัฟกานิสถาน แต่ขณะนี้ ไม่สามารถดำเนินการได้อีกต่อไป รวมทั้งไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะกลับมาดำเนินการได้อีกหรือไม่ โดยขณะนี้ได้มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยวิกฤตทั้งหมดไปยังสถานพยาบาลอื่นๆ แล้ว
       
       เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นขณะที่คุนดุซกำลังเผชิญวิกฤตมนุษยธรรม จากการที่พลเรือนนับพันติดอยู่ในวงล้อมการต่อสู้ระหว่างกองกำลังรัฐบาลกับกลุ่มก่อการร้าย การปะทะกันระลอกล่าสุดทำให้มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 60 ราย และบาดเจ็บถึง 400 คน
       
       ขณะเดียวกัน ตอลิบานถือโอกาสนี้ประณามกองกำลังป่าเถื่อนของอเมริกาที่โจมตีทางอากาศต่อโรงพยาบาลพลเรือน พร้อมทั้งปฏิเสธว่า นักรบของตนไม่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของ MSF
       
       อนึ่ง ปฏิบัติการโจมตีของตอลิบานในคุนดุซถือเป็นความเพลี่ยงพล้ำสำคัญของกองกำลังอัฟกันที่ได้รับการฝึกจากตะวันตก โดยนาโตที่นำโดยอเมริกา ปิดฉากภารกิจการรบในอัฟกานิสถานตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่ยังคงกำลัง 13,000 นายสำหรับการฝึกและปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย


ASTVผู้จัดการออนไลน์    4 ตุลาคม 2558

[story]

เอเอฟพี – องค์กรแพทย์ไร้พรมแดน (Médecins Sans Frontières - MSF) เผยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเพื่อยึดคืนเมืองกุนดุซ (Kunduz) ในอัฟกานิสถานจากกลุ่มตอลิบาน เมื่อเช้ามืดวันนี้ (3 ต.ค.) ทำให้บุคลากรแพทย์เสียชีวิตไป 3 ราย และอีกหลายสิบคนยังไม่ทราบชะตากรรม ขณะที่นาโตยอมรับกองกำลังสหรัฐฯ อาจถล่มเป้าหมายผิดพลาด
       
       บุคลากรของ MSF ซึ่งถือเป็นหน่วยงานหลักให้บริการด้านสาธารณสุขในภูมิภาคต่างมีงานล้นมือในช่วงไม่กี่วันนี้ หลังเมืองกุนดุซซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดที่มีชื่อเดียวกันตกอยู่ในเงื้อมมือของกลุ่มตอลิบาน จนนำมาซึ่งการสู้รบกับฝ่ายรัฐบาลคาบูลซึ่งต้องการชิงเมืองคืน
       
       “เมื่อเวลา 2.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น ศูนย์รักษาผู้บาดเจ็บของ MSF ในเมืองกุนดุซถูกโจมตีหลายระลอก และได้รับความเสียหายอย่างหนัก” MSF ระบุในถ้อยแถลง
       
       “บุคลากร MSF เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน แต่ยังมีอีก 30 กว่าคนที่เรายังไม่ทราบชะตากรรม เวลานี้ทีมแพทย์ทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่คนไข้และบุคลากรโรงพยาบาล”
       
       โรงพยาบาลของ MSF ในเมืองกุนดุซมีคนไข้ 105 คนพร้อมผู้ดูแล และทีมแพทย์นานาชาติอีกมากกว่า 80 คน ขณะที่ถูกทิ้งระเบิด
       
       ด้านนาโตออกมายอมรับแล้วว่า ปฏิบัติการโจมตีดังกล่าวอาจเป็นฝีมือของสหรัฐฯ
       
       “สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินออกไปโจมตีทางอากาศที่เมืองกุนดุซ เมื่อเวลา 2.15 น. โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มบุคคลซึ่งเป็นภัยคุกคาม... อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการครั้งนี้อาจส่งผลให้สถานพยาบาลในบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายไปด้วย ซึ่งเรากำลังดำเนินการสอบสวนอยู่” คำแถลงของนาโต ระบุ

นาโตยอมรับสหรัฐฯ “ทิ้งบอมบ์พลาด” ถูกโรงพยาบาลใน “กุนดุซ” หมอไร้พรมแดนดับ 3 ศพ
        ทั้งนี้ ศูนย์รักษาผู้บาดเจ็บของ MSF ในเมืองกุนดุซเป็นสถานพยาบาลเพียงแห่งเดียวในภูมิภาคที่มีเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยพอที่จะเยียวยาผู้บาดเจ็บสาหัสได้
       
       ขณะที่การสู้รบเริ่มลุกลามออกไปสู่จังหวัดใกล้เคียง เช่น บาดักชาน (Badakhshan) ทาคาร์ (Takhar) และบักลัน (Baghlan) หลายฝ่ายเริ่มเป็นกังวลว่า การยึดเมืองกุนดุซอาจเป็นแค่จุดเริ่มต้นในยุทธศาสตร์ใหม่ของตอลิบาน ซึ่งหวังที่จะยกระดับก่อความไม่สงบในพื้นที่ตอนเหนือของอัฟกานิสถาน
       
       ทหารอัฟกันซึ่งได้รับการหนุนหลังจากหน่วยรบพิเศษนาโต และปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ได้เข้าตรวจค้นบ้านเรือนทั่วเมืองกุนดุซ เพื่อกวาดล้างกลุ่มก่อความไม่สงบที่อาจซ่อนตัวอยู่
       
       ปฏิบัติการของตอลิบานในเมืองกุนดุซนับว่าเป็นความสำเร็จทางกลยุทธ์ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 2001 แต่ขณะเดียวกันก็เป็นความพ่ายแพ้ที่น่าอับอายสำหรับกองกำลังอัฟกันซึ่งได้รับการฝึกฝนจากชาติตะวันตก และต้องเข้ามารับหน้าที่ดูแลความมั่นคงของชาติด้วยตัวเอง ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว
       
       พลเรือนและทหารที่เสียชีวิตจากภารกิจของนาโตถือเป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดข้อถกเถียงมาตลอด 14 ปีที่กองกำลังนานาชาติเข้าไปกวาดล้างกลุ่มตอลิบาน
       
       ล่าสุด ตอลิบานได้ออกคำแถลงประณาม “ความโหดเหี้ยมป่าเถื่อน” ของกองทัพสหรัฐฯ ที่ลงมือโจมตีทางอากาศเมื่อช่วงกลางดึก จนส่งผลให้ “แพทย์ พยาบาล และผู้ป่วย ถูกสังหารไปเป็นจำนวนมาก”


ASTVผู้จัดการออนไลน์    3 ตุลาคม 2558

[story]

 นายนิโคลัส เฮย์ซอม ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติประจำอัฟกานิสถาน ออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีทางอากาศถล่มโรงพยาบาลในเมืองคุนดุซ ทางภาคเหนือของอัฟกานิสถาน วานนี้ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่การแพทย์ รวมทั้งผู้ป่วยและพลเรือนเสียชีวิตและบาดเจ็บ พร้อมย้ำข้อเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพและปกป้องเจ้าหน้าที่การแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรม
       
       ทั้งนี้ องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ยอมรับว่ากองกำลังสหรัฐฯ อาจอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้


ASTVผู้จัดการออนไลน์    4 ตุลาคม 2558

[story]

รอยเตอร์ - องค์กรแพทย์ไร้พรมแดน (Medecins Sans Frontieres) ปฏิเสธว่า นักรบตอลิบานไม่ได้ยิงกองกำลังของอัฟกานิสถานและนาโตจากทางโรงพยาบาลของพวกเขา ก่อนที่สหรัฐฯ จะโจมตีทางอากาศใส่โรงพยาบาลดังกล่าวจนคร่าชีวิตคนไปอย่างน้อย 19 รายในระหว่างการสู้รบเพื่อขับไล่กบฏอิสลามิสต์กลุ่มนี้ออกจากเมืองคุนดุซของอัฟกานิสถาน
       
       เมืองยุทธศาสตร์ทางภาคเหนือแห่งนี้กลายเป็นสมรภูมิรบรุนแรงนับตั้งแต่ที่กลุ่มตอลิบานเข้ายึดเมืองนี้เมื่อเกือบหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลังความมั่นคงอัฟกานิสถานพยายามต้อสู้เพื่อเข้าสู่เมืองคุนดุซเมื่อ 4 วันที่แล้ว แต่การสู้รบยังคงดำเนินอยู่ในหลายพื้นที่
       
       องค์กรแพทย์ไร้พรมแดนกล่าวว่า การโจมตีทางอากาซดังกล่าวซึ่งอาจมาจากกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ได้ทำให้มีเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยเสียชีวิต 19 ราย และบาดเจ็บ 37 รายเมื่อวันเสาร์ (10) ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่พวกเขาดำเนินการอยู่ในเมืองคุนดุซ
       
       กองทัพสหรัฐฯ กล่าวว่า พวกเขาดำเนินการโจมตีทางอากาศ “ใกล้เคียง” โรงพยาบาลดังกล่าว ในขณะที่พวกเขาพุ่งเป้าที่กบฏตอลิบานที่กำลังยิงเจ้าหน้าทางทหารของสหรัฐฯ โดยตรง
       
       รัฐบาลสหรัฐฯ สัญญาว่าจะสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเต็มที่ ในขณะที่ข้าหลวงใหญ่สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติชี้ว่าการทิ้งระเบิดดังกล่าวอาจเป็นอาชญากรรมสงคราม
       
       ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้กล่าวในถ้อยแถลงแสดงความเสียใจต่อเหยื่อของสิ่งที่เขาเรียกว่า “เหตุการณ์น่าเศร้า”

องค์กรแพทย์ไร้พรมแดนปัดมี “นักรบตอลิบาน” ในโรงพยาบาลอัฟกันที่ถูกสหรัฐฯ ทิ้งบอมบ์
        ในกรุงคาบูลกระทรวงกลาโหมอัฟกานิสถานระบุว่า นักรบตอลิบานได้โจมตีโรงพยาบาลดังกล่าวและใช้อาคารพยาบาลเป็น “โล่มนุษย์” แต่ทางองค์กรแพทย์ไร้พรมแดนปฏิเสธเรื่องนี้
       
       “ประตูของโรงพยาบาลปิดตลอดทั้งคืน ดังนั้นจึงไม่มีผู้ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ผู้ป่วย หรือภารโรงอยู่ภายในโรงพยาบาลนี้ในตอนที่เกิดเหตุระเบิดขึ้น” องค์กรแพทย์ไร้พรมแดน กล่าวในถ้อยแถลงในวันอาทิตย์ (11)
       
       ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ผู้ป่วยถูกไฟเผาทั้งเป็นในโรงพยาบาลอันแออัดแห่งนี้หลังจากการโจมตีทางอากาศดังกล่าวในช่วงเช้าวันเสาร์ (10) ในหมู่ผู้เสียชีวิตมีผู้ป่วยเด็กรวมอยู่ด้วย 3 คน
       
       เจ้าหน้าที่ของ MSF โทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่นาโตในกรุงคาบูลและวอชิงตันภายหลังการโจมตีดังกล่าว แต่ระเบิดยังคงตกลงมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าคนหนึ่งขององค์กรนี้เผย
       
       ในวันนี้ (11) นักรบตอลิบานในเมืองคุนดุซยังคงต้านทานกองทหารอัฟกานิสถานอยู่ แม้ว่ารัฐบาลจะอ้างว่าได้ยึดคืนเมืองนี้แล้ว
       
       “ตามความเข้าใจของเราพื้นที่โดยรวมยังคงมีการต่อต้าน” เจ้าหน้าที่ทางทหารรายหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรในกรุงคาบูลกล่าว โดยขอให้ไม่เปิดเผยนาม
       
       ศพนอนเกลื่อนอยู่ตามถนนเส้นต่างๆ และประชาชนก็ไม่กล้าพอที่จะออกจากบ้านของพวกเขา กูลบอดดิน ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าว พร้อมเสริมว่า “คุณสามารถได้ยินเสียงยิงปืนดังทั่วทั้งเมืองนี้ ศพบางศพกำลังเน่าเปื่อย”
       
       โรงพยาบาลหลายแห่งซึ่งขาดยารักษากำลังพยายามรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้นเรื่อยๆ ซายเอ็ด มุคห์ตาร์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าว
       
       “ไม่มีกระแสไฟฟ้าและห้องแล็บของโรงพยาบาลก็ใช้งานไม่ได้ เมืองนี้อาศัยอยู่ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” มุคห์ตาร์กล่าว

ASTVผู้จัดการออนไลน์    4 ตุลาคม 2558

[story]

พล.อ.จอห์น เอฟ แคมป์เบลล์ ผู้บัญชาการสหรัฐฯ ของกองกำลังนานาชาติในอัฟกานิสถาน กล่าวว่า กองทัพอัฟกานิสถานเป็นฝ่ายร้องขอให้สหรัฐฯ โจมตีทางอากาศถล่มโรงพยาบาลเมืองคุนดูซ ซึ่งทำให้พลเรือนเสียชีวิต 22 คน
       
       คำกล่าวของ พล.อ.แคมป์เบลล์ ถือเป็นการปฏิเสธความรับผิดชอบโดยอ้อมของสหรัฐฯ เกี่ยวกับเหตุโจมตีทางอากาศถล่มโรงพยาบาลของกลุ่มเอ็มเอสเอฟ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่เอ็มเอสเอฟแถลงย้ำข้อเรียกร้องให้ดำเนินการสืบสวนอย่างอิสระต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
       
       พล.องแคมป์เบลล์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม กองทัพอัฟกานิสถานได้ขอคำปรึกษาว่าพวกเขาถูกโจมตีมาจากที่มั่นต่างๆ ของศัตรู และขอกำลังสนับสนุนทางอากาศจากสหรัฐฯ จากนั้นก็มีการร้องขอโจมตีทางอากาศเพื่อจำกัดภัยคุกคามของกลุ่มตอลิบาน และการโจมตีพลาดไปถูกพลเรือนหลายคนโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งนี้ กองทัพสหรัฐฯ ไม่ควรถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยตรงต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
       
       ด้านนายคริสโตเฟอร์ สโตคส์ ผู้อำนวยการทั่วไปของเอ็มเอสเอฟ กล่าวว่า ความเห็นของ พล.อ.แคมป์เบลล์ เป็นเพียงแค่ความพยายามผลักความรับผิดชอบเหตุโจมตีไปให้แก่รัฐบาลอัฟกานิสถานเท่านั้น


 ASTVผู้จัดการออนไลน์    6 ตุลาคม 2558

[story]

ผู้บัญชาการสหรัฐฯ ของกองกำลังนานาชาติในอัฟกานิสถานเมื่อวันอังคาร (6 ต.ค.) กลับลำยอมรับตรงๆครั้งแรกว่าการโจมตีทางอากาศถล่มโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองคุนดุซ ของอัฟกานิสถาน เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นภายในสายบังคับบัญชาของอเมริกา หลังก่อนหน้านี้อ้างว่าลงมือตามคำร้องขอของกองทัพอัฟกันเท่านั้น
       
        เหตุโจมตีโรงพยาบาลของกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) เมื่อวันเสาร์ (3 ต.ค.) ที่ผ่านมา ได้คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ 22 ศพและก่อความโกรธเคืองอย่างสาหัสจากกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) ที่กล่าวโทษสหรัฐฯ พร้อมเรียกร้องขอให้มีการสืบสวนอิสระต่อเหตุการณ์ดังกล่าวและประณามว่ามันคืออาชญากรรมสงคราม
       
        พล.อ.จอห์น เอฟ แคมป์เบลล์ แห่งกองทัพสหรัฐฯ ย้ำว่ากองกำลังสหรัฐฯตอบสนองต่อคำร้องขอจากกองกำลังอัฟกานิสถานและจัดมอบการสนับสนุนทางอากาศอย่างใกล้ชิด ในขณะที่กองทัพอัฟกันกำลังสู้รบกับนักรบตอลิบานในคุนดุซ เมืองเอกของจังหวัดคุนดุซ แต่ยอมรับว่ามันเป็นความผิดพลาด
       
        "ขอพูดให้ชัด การโจมตีทางอากาศเป็นการตัดสินใจของสหรัฐฯภายใต้สายบังคับบัญชาของอเมริกา" แคมป์เบลล์ ให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการกิจการทหารของวุฒิสภา "โรงพยาบาลคือการโจมตีที่ผิดพลาด เราไม่เคยมีเจตนาโจมตีศูนย์การแพทย์ที่ได้รับการคุ้มครองเลย"



ASTVผู้จัดการออนไลน์    7 ตุลาคม 2558

[story]

รอยเตอร์/เอเอฟพี - กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) เมื่อวันพุธ(7ต.ค.) เรียกร้องขอคณะกรรมการนานาชาติที่เป็นอิสระเข้าสืบสวนกรณีเครื่องบินรบสหรัฐฯโจมตีทางอากาศถล่มโรงพยาบาลของพวกเขาในเมืองคุนดุซของอัฟกานิสถาน คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์หลายสิบศพ เหตุการณ์ที่องค์กรบรรเทาทุกข์แห่งนี้ประณามว่าเป็น "อาชญากรรมสงคราม"
       
       องค์การแพทย์ไร้พรมแดนบอกว่าคณะกรรมการสืบสวนนานาชาติควรเป็นผู้รวบรวมข้อเท็จจริงและหลักฐานต่างๆจากสหรัฐฯนาโต้และอัฟกานิสถาน เช่นเดียวกับคำให้การของเจ้าหน้าที่ MSFและคนไข้ที่รอดชีวิตจากโศกนาฏกรรมดังกล่าว จากนั้นทาง MSF จะพิจารณาว่าจะเอาผิดทางอาญาหรือไม่ ต่อเหตุสูญเสียชีวิตและอาคารของโรงพยาบาลพังพินาศบางส่วน จนทำให้ชาวอัฟกานิสถานหลายพันคนไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาล
       
       "ถ้าเราปล่อยให้มันผ่านไป เสมือนหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เท่ากับว่าเราให้อำนาจอย่างไม่จำกัดแก่ประเทศไหนๆที่อยู่ในสงคราม" นางโจแอนน์ หลิวประธานองค์การแพทย์ไร้พรมแดน แถลงสรุปกับผู้สื่อข่าว "ถ้าเราไม่ได้รับการคุ้มครองพื้นที่ด้านการแพทย์เพื่อดำเนินกิจกรรมของเรา เมื่อนั้นมันก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำงานในสภาพแวดล้อมอื่นๆอย่างเช่นซีเรีย ซูดานใต้และเยเมน"
       
       "เราไม่อาจพึ่งพาการสอบสวนภายในของสหรัฐฯ นาโต้และกองกำลังอัฟกานิสถานได้" ประธานของ MSF กล่าวกับผู้สื่อข่าว พร้อมย้ำว่า คณะกรรมการค้นหาข้อเท็จจริงจากองค์กรด้านมนุษยธรรมนานาชาติควรเป็นผู้ตรวจสอบการก่อเหตุในครั้งนี้ "นี่ไม่ใช่การโจมตีต่อโรงพยาบาลของเราเท่านั้นแต่มันยังเป็นการโจมตีต่ออนุสัญญาเจนีวาด้วย"หลิวกล่าวโดยอ้างถึงอนุสัญญาว่าด้วยการพิทักษ์ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงคราม "นี่เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้"
       
       กองทัพสหรัฐฯออกมาแสดงความรับผิดชอบเมื่อวันอังคาร(6ต.ค.) ต่อเหตุโจมตีทางอากาศเมื่อวันเสาร์(3ต.ค.) ที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ 22 คน ในนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ MSF จำนวน 12 ราย โดยยอมรับว่ามันคือ "ความผิดพลาด"
       
       นายแอช คาร์เตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในกรงโรมของอิตาลี ในวันพุธ(7ต.ค.) ว่า "เรากำลังดำเนินการสืบสวนอย่างครบถ้วนและโปร่งใส และจะเปิดเผยผลการสืบสวน พร้อมจะนำตัวใครก็ตามที่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่ไม่บังควรนี้มาลงโทษ"
       
       กระทรวงกลาโหมของอัฟกานิสถานระบุเมื่อวันอาทิตย์(4ต.ค.) ว่านักรบตอลิบานโจมตีโรงพยาบาลดังกล่าวและใช้อาคารเป็นโล่มนุษย์ แต่ทางองค์การแพทย์ไร้พรมแดนปฏิเสธ พร้อมชี้ว่าการไม่ยอมรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บเท่ากับเป็นอาชญากรรมสงคราม
       
       หลิวบอกว่าคณะกรรมการย่อย ซึ่งสามารถจัดตั้งได้จากคำร้องขอของรัฐหนึ่งๆภายใต้อนุสัญญาเจนีวาที่กำหนดมาตรฐานการทำสงครามของนานาชาติ เป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากมีคำบอกเล่าที่ขัดแย้งกันระหว่างสหรัฐฯและอัฟกานิสถาน
       
       สหประชาชาติประณามเหตุโจมตีดังกล่าวแต่บอกว่าจะรอผลตรวจสอบของคณะสืบสวนสหรัฐฯ นาโต้และอัฟกานิสถาน ก่อนตัดสินใจว่าจะสนับสนุนคณะกรรมการสืบสวนอิสระหรือไม่
       
       ส่วนทางที่ปรึกษาทางกฎหมายขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน บอกกับรอยเตอร์เมื่อถูกถามว่าทาง MSF จะแสวงหากระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ว่า "เราไม่รู้ว่าก้าวย่างต่อไปคืออะไร เราไม่ต้องการขีดฆ่าทางเลือกใดๆทั้งนั้น"
       
       โรงพยาบาลขององค์การแพทย์ไร้พรมแดนในคุนกุศ ให้การรักษาคนไข้เกือบ 400 คน ในนั้นบางคนเป็นนักรบตอลิบาน ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุสู้รบอันดุเดือดหลายวันก่อนหน้าเหตุถล่มทางอากาศ


ASTVผู้จัดการออนไลน์    7 ตุลาคม 2558

[story]

 กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) เมื่อวันพุธ(7ต.ค.) เรียกร้องขอคณะกรรมการนานาชาติที่เป็นอิสระเข้าสืบสวนกรณีเครื่องบินรบสหรัฐฯโจมตีทางอากาศถล่มโรงพยาบาลของพวกเขาในเมืองคุนดุซของอัฟกานิสถาน คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์หลายสิบศพ เหตุการณ์ที่องค์กรบรรเทาทุกข์แห่งนี้ประณามว่าเป็น "อาชญากรรมสงคราม"
       
        องค์การแพทย์ไร้พรมแดนบอกว่าคณะกรรมการสืบสวนนานาชาติควรเป็นผู้รวบรวมข้อเท็จจริงและหลักฐานต่างๆจากสหรัฐฯนาโต้และอัฟกานิสถาน เช่นเดียวกับคำให้การของเจ้าหน้าที่ MSFและคนไข้ที่รอดชีวิตจากโศกนาฏกรรมดังกล่าว จากนั้นทาง MSF จะพิจารณาว่าจะเอาผิดทางอาญาหรือไม่ ต่อเหตุสูญเสียชีวิตและอาคารของโรงพยาบาลพังพินาศบางส่วน จนทำให้ชาวอัฟกานิสถานหลายพันคนไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาล
       
        "ถ้าเราปล่อยให้มันผ่านไป เสมือนหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เท่ากับว่าเราให้อำนาจอย่างไม่จำกัดแก่ประเทศไหนๆที่อยู่ในสงคราม" นางโจแอนน์ หลิวประธานองค์การแพทย์ไร้พรมแดน แถลงสรุปกับผู้สื่อข่าว "ถ้าเราไม่ได้รับการคุ้มครองพื้นที่ด้านการแพทย์เพื่อดำเนินกิจกรรมของเรา เมื่อนั้นมันก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำงานในสภาพแวดล้อมอื่นๆอย่างเช่นซีเรีย ซูดานใต้และเยเมน"
       
        "เราไม่อาจพึ่งพาการสอบสวนภายในของสหรัฐฯ นาโต้และกองกำลังอัฟกานิสถานได้" ประธานของ MSF กล่าวกับผู้สื่อข่าว พร้อมย้ำว่า คณะกรรมการค้นหาข้อเท็จจริงจากองค์กรด้านมนุษยธรรมนานาชาติควรเป็นผู้ตรวจสอบการก่อเหตุในครั้งนี้ "นี่ไม่ใช่การโจมตีต่อโรงพยาบาลของเราเท่านั้นแต่มันยังเป็นการโจมตีต่ออนุสัญญาเจนีวาด้วย"หลิวกล่าวโดยอ้างถึงอนุสัญญาว่าด้วยการพิทักษ์ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงคราม "นี่เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้"
       
        กองทัพสหรัฐฯออกมาแสดงความรับผิดชอบเมื่อวันอังคาร(6ต.ค.) ต่อเหตุโจมตีทางอากาศเมื่อวันเสาร์(3ต.ค.) ที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ 22 คน ในนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ MSF จำนวน 12 ราย โดยยอมรับว่ามันคือ "ความผิดพลาด"


ASTVผู้จัดการออนไลน์    7 ตุลาคม 2558

[story]

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(7ต.ค.) โทรศัพท์ถึงประธานองค์กรแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) กล่าวขอโทษต่อกรณีเครื่องบินรบสหรัฐฯโจมตีทางอากาศพลาดถล่มโรงพยาบาลของกลุ่มบรรเทาทุกข์แห่งนี้ที่เมืองคุนดุซ ในอัฟกานิสถาน คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ 22 ศพ
       
        จอช เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาวบอกกับผู้สื่อข่าวว่าประธานาธิบดีโอบามาต่อสายตรงถึงนางโจแอนน์ หลิว ประธานองค์การแพทย์ไร้พรมแดน เพื่อขอโทษและแสดงความเสียใจต่อเจ้าหน้าที่ของ MSF กับคนไข้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่ผิดพลาดของกองทัพสหรัฐฯที่ไปถล่มโรงพยาบาลสนามของ MSF
       
        ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ในวันดียวกัน ทาง MSF เรียกร้องขอคณะกรรมการนานาชาติที่เป็นอิสระเข้าสืบสวนกรณีเครื่องบินรบสหรัฐฯโจมตีทางอากาศถล่มโรงพยาบาลของพวกเขาในอัฟกานิสถาน เหตุการณ์ที่องค์กรบรรเทาทุกข์แห่งนี้ประณามว่าเป็น "อาชญากรรมสงคราม"
       
        MSF เรียกร้อง โอบามา ยินยอมให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการมนุษยธรรมภายใต้อนุสัญญาเจนีวา แม้ว่าสหรัฐฯและอัฟกานิสถานจะไม่ลงนามมอบหมายก็ตาม
       
        องค์การแพทย์ไร้พรมแดนบอกว่าคณะกรรมการสืบสวนนานาชาติควรเป็นผู้รวบรวมข้อเท็จจริงและหลักฐานต่างๆจากสหรัฐฯนาโต้และอัฟกานิสถาน เช่นเดียวกับคำให้การของเจ้าหน้าที่ MSF และคนไข้ที่รอดชีวิตจากโศกนาฏกรรมดังกล่าว จากนั้นทาง MSF จะพิจารณาว่าจะเอาผิดทางอาญาหรือไม่ ต่อเหตุสูญเสียชีวิตและอาคารของโรงพยาบาลพังพินาศบางส่วน จนทำให้ชาวอัฟกานิสถานหลายพันคนไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาล


ASTVผู้จัดการออนไลน์    8 ตุลาคม 2558