ผู้เขียน หัวข้อ: ไทยติดเชื้อในกระแสเลือดตายลดลง หลังใช้แนวเวชปฏิบัติ รพ. 150 แห่ง ร่วมเฝ้าระวัง  (อ่าน 707 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
13 องค์กร ชู “เวชปฏิบัติ” รพ. 150 ร่วมส่งข้อมูล เฝ้าระวัง ช่วยลดอัตราตายจากภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดได้ เผยจากเดิมพบตายมากถึง 70% ปี 57 พบรอดชีวิตได้มากถึง 60%
       
       วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ศูนย์ประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี นพ.อนุวัฒน์ ศุภชุติกุล ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) หรือ สรพ. กล่าวหลังเป็นประธานเปิดการประชุมวันภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดโลก “การดูแลการติดเชื้อในกระแสเลือดแบบองค์รวม การเรียนรู้จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ” จัดโดย 13 องค์กรด้านสุขภาพ อาทิ สมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย สรพ. กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นต้น ว่า ในอดีตผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสโลหิตรุนแรงถือเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่หมดหวัง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีภาวะช็อกแล้ว จึงได้ร่วมกันทำงานเพื่อหาวิธีดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้อย่างดีที่สุด ทั้งการป้องกันและรักษา ก่อนหน้านี้ ได้มีการนำเวชปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยจากต่างประเทศมาใช้ และได้มีการปรับและจัดทำเวชปฏิบัติดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสโลหิตรุนแรงที่เหมาะสมกับผู้ป่วยในไทยเอง จนเกิดการเชื่อมต่อระหว่างบุคลากรวิชาชีพและองค์กร ขยายไปยังโรงพยาบาลในทุกระดับ ประกอบกับการทำงานร่วมกับ สปสช. ทำให้มีการขยายการนำแนวเวชปฏิบัติไปใช้ และเกิดการต่อยอดพัฒนาองค์ความรู้ ปัจจุบันมีโรงพยาบาล 150 แห่งที่ได้เข้าร่วมเฝ้าระวังผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสโลหิตรุนแรงและร่วมส่งข้อมูลและเฝ้าระวัง
       
       “จากความร่วมมือการส่งข้อมูลของโรงพยาบาล 150 แห่ง ทำให้ทราบว่าจากแนวเวชปฏิบัติที่ดำเนินการอยู่นี้ ทำให้มีอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยจากภาวะติดเชื้อในกระแสโลหิตรุนแรงอยู่ที่ร้อยละ 60 นับเป็นข้อมูลใหม่ เพราะในอดีตไม่เคยมีการจัดเก็บเป็นภาพรวมระดับประเทศมาก่อน เพียงแต่มีการจัดเก็บเฉพาะโรงพยาบาลเท่านั้น ซึ่งบางแห่งมีอัตราการเสียชีวิตหลังติดเชื้อสูงถึงร้อยละ 70 นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและนำไปสู่การตั้งเป้าหมายการลดอัตราการเสียชีวิตในแต่ละปีต่อไป” ผอ.สรพ. กล่าว
       
       รศ.นพ.ไชยรัตน์ เพิ่มพิกุล ผู้แทนสมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาการติดเชื้อในกระแสโลหิตรุนแรงเป็นปัญหาสำคัญระบบสุขภาพประเทศไทยและทั่วโลก จึงเป็นที่มาของวันภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดโลก โดยทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ และได้มีการสนับสนุนการจัดองค์ความรู้รวมถึงการเผยแพร่เพื่อให้มีการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยกลุ่มนี้อย่างดีที่สุด สำหรับการจัดประชุมภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดโลกในประเทศไทยนี้ ได้เริ่มจัดครั้งแรกในปี 2556 และปีนี้เป็นการจัดประชุมต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว และจากความร่วมมือของโรงพยาบาล 150 แห่งที่ได้เข้าร่วมเฝ้าระวังและดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสโลหิตรุนแรง ในปี 2557 ได้รายงานผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสโลหิตรุนแรง 40,673 ราย ในจำนวนนี้รอดชีวิต 24,508 ราย นับเป็นแนวโน้มที่ดี ซึ่งปีต่อไปน่าจะสามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้ดีกว่านี้ จากการปรับเวชปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยที่ได้จากประสบการณ์และการเรียนรู้ของผู้ปฏิบัติงานต่อไป
       
       นพ.ภูวนนท์ เอี่ยมจันทน์ ผู้อำนวยการ สปสช. เขต 2 พิษณุโลก กล่าวว่า จากการนำเสนอข้อมูลการเสียชีวิตของผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่ผ่านมา ปัญหาการติดเชื้อในกระแสโลหิตสูงเป็นอันดับแรกและต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสูงอายุและเด็ก จนกระทั่งในปี 2555 จึงได้เริ่มมีการพัฒนาแนวทางแก้ปัญหาระดับเขต และต่อมาในปี 2556 จึงจัดประชุมเพื่อพัฒนาแนวทางแก้ปัญหาระดับประเทศ จากข้อมูล สปสช. พบว่า เฉพาะพื้นที่เขต สปสช. ที่ครอบคลุม 5 จังหวัด มีประชากรไม่เกิน 3 ล้านคน ในปี 2556 มีผู้ป่วยเสียชีวิตจากภาวะติดเชื้อในกระแสโลหิตรุนแรงสูงถึง 600 ราย ปี 2557 เสียชีวิต 700 ราย แต่ในปี 2558 เชื่อว่าจะลดลง ทั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ต่างช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ การจัดระบบดูแลรวดเร็ว การเฝ้าระวังต่อเนื่อง รวมไปถึงการป้องกัน ที่ต้องทำกันอย่างเป็นระบบ


ASTVผู้จัดการออนไลน์    10 กันยายน 2558